"ดาวจรัสแสงแห่งเอกภพดวงนี้ดับสูญแล้ว"
เป็นตำนานแห่งมนุษย์เดินดิน ที่รักและเข้าใจท้องฟ้าอย่างเพื่อน
วันที่
20 ธันวาคม 2539 ก่อนวันคริสต์มาสไม่กี่วัน โลกต้องสูญเสียนักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ คาร์ล เอ็ดเวิร์ด เซกัน ด้วยอาการปอดบวม ที่สถาบันวิจัยโรคมะเร็ง เฟรด ฮัชชินสัน ในซีแอตเติล ด้วยวัยเพียง 62 ปี
เซกันต้องต่อสู้กับอาการโรคไขกระดูกถึง 2 ปีเต็มหลังเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกเมื่อเดือนเมษายน 2538 ที่ศูนย์ฯ ดังกล่าว เขาต้องทุกข์ทรมานในลักษณะคล้ายคนเป็นโรคโลหิตจาง เนื่องจากความผิดปกติของการเจริญของไขสันหลัง ก่อนหน้าที่เซกันจะจากไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ เขายังดูร่าเริงและกล่าวติดตลกว่า "ผมเดินเครื่องได้ 80% แล้ว"
โลกต้องจดจำเซกันในฐานะนักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ในฐานะล่ามแห่งเอกภพ ผู้สามารถร้อยเรียงเรื่องราวอันสลับซับซ้อนแห่งเอกภพ ให้กลายเป็นสิ่งสวยงามราวกับสดับมโหรีแห่งจักรวาล และลิ้มรสทิพย์จากสรวงสวรรค์
เซกันเหมือนกับเชื้อปะทุ ผู้คนที่มีโอกาสได้สัมผัสกับเซกัน จะซึมซับเอาความว่องไวกระฉับกระเฉง และแรงกระตุ้นเตือนให้มองทุกก้าวย่างอย่างมีสีสัน ไม่เพียงแต่ผู้คนรอบข้างแม้โมเลกุลอินทรีย์ กระทั่งแวดวงการเมือง และเรื่องงบประมาณที่ถูกตัดของนาซา จะกลายเป็นเรื่องตื่นเต้นสนุกเสมอเมื่อผ่านสมองของเซกัน เขาไม่เคยเบื่อหน่ายที่จะเฝ้าอธิบายรายละเอียดจนกระทั่งผู้ฟังหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความเข้าใจ โลกของเซกัน
เซกันเกิดในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2411 ตำแหน่งสูงสุดในชีวิต เป็นศาสตราจารย์ระดับ เดวิด ดันแคน ทางดาราศาสตร์และวิทยาศาสตร์อวกาศ และเป็นผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการทางดาวเคราะห์ของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ในนิวยอร์ก เขาเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในโครงการอวกาศของสหรัฐ ฯ หลายโครงการ อาทิ อะพอลโล มาริเนอร์ ไวกิ้ง วอยเอเจอร์ และกาลิเลโอ ทั้งยังเป็นผู้แก้ปริศนาเรื่องอุณหภูมิที่สูงมากบนดาวศุกร์ (เกิดจากปฏิกิริยาเรือนกระจก) ปริศนาเรื่องฤดูกาลบนดาวอังคาร (พายุฝุ่นบนดาว) ปริศนาหมอกเพลิงบนดวงจันทร์ไททัน (โมเลกุลอินทรีย์ที่ซับซ้อน)
ผลงานของเซกันในฐานะนักวิทยาศาสตร์เพื่อสังคม และการทุ่มเทการบริการทางความรู้สู่มวลชน ทำให้เซกันได้รับยกย่องและได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัล NASA Medals for Exceptional Scientific Achievement รางวัล Distinguished Public Service ถึง 2 ครั้ง รางวัล NASA Apollo Achievement Award และรางวัล Public Welfare Medal ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดของสถาบันทางวิยาศาสตร์แห่งชาติ
นอกจากนี้เขายังได้รับเลือกให้เป็นประธานและนายกสมาคมอีกหลายแห่ง อาทิ ประธานสาขาวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์ของสมาคมดาราศาสตร์อเมริกัน ประธานสาขาดาวเคราะห์วิทยาของสหพันธ์ธรณีฟิสิกส์อเมริกัน เป็นผู้ก่อตั้งและประธานสมาคมดาวเคราะห์ (The Planetary Society)
ในฐานะนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ เซกันมีผลงานหนังสือขายดีมากมายหลายเล่ม เล่มที่โด่งดังที่สุด คือ คอสมอส (Cosmos) หลังสือสารคดีวิทยาศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แม้แต่สารคดีโทรทัศน์ชุดคอสมอสก็เป็นสารคดีที่มีผู้ชมมากกว่า 500 ล้านคนใน 60 ประเทศทั่วโลก เขาได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ถึง 22 ปริญญาบัตร จากมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกา
ผลงานหลังสือเล่มล่าสุดของเซกัน คือ The Demon-Haunted World : Science as a Candle in the Dark ตีพิมพ์เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2539 และยังเป็นผู้ช่วยผู้กำกับและเขียนบทภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ที่สร้างจากหนังสือดังเรื่อง Contact ทางวอร์เนอร์ บราเทอร์ มีกำหนดออกฉายในปี พ.ศ. 2540
ถึงแม้วันนี้แสงดาวน้อยใหญ่ในเอกภพจะดูหม่นหมองลงไปบ้าง แต่ตำแหน่งความยิ่งใหญ่ของนักดาราศาสตร์ผู้เป็นล่ามแห่งเอกภพยังคงอยู่ในใจของเราตลอดกาล
ขอให้ฝันดี คาร์ล เซกัน