เมื่อเวลา 06:42 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น แคปซูลขนาดเท่าเครื่องซักผ้าแคปซูลหนึ่งได้ลงแตะพื้นทรายของเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ห่างจากปักกิ่งไปราว 500 กิโลเมตร นับเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญของโครงการอวกาศของจีน
แคปซูลนี้เป็นแคปซูลลงจอดของภารกิจฉางเอ๋อ5 ที 1 ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า เสี่ยวเฟย เป็นภารกิจทดสอบเทคโนโลยีการบินอวกาศต่าง ๆ เพื่อปูทางให้ภารกิจฉางเอ๋อ 5 ที่จะตามมา ภารกิจนี้ได้ขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 23 ตุลาคม จากศูนย์อวกาศซีฉ่าง ด้วยจรวดลองมาร์ช 3 ซี ยานได้เดินทางเป็นระยะทาง 840,000 กิโลเมตร อ้อมหลังดวงจันทร์แล้วกลับมายังโลก ระหว่างขากลับ แคปซูลลงจอดได้แยกตัวออกมาจากยานแม่เพื่อกลับลงสู่โลก
ในภารกิจนี้แคปซูลเข้าสู่บรรยากาศโลกสองครั้งโดยครั้งแรกจะเข้าเฉียดกับบรรยากาศของโลกด้วยมุมเฉียงมากเพื่อให้ยานกระดอนออกจากชั้นบรรยากาศ พร้อมกับลดความเร็วของยานลงไป 40,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่จะตกกลับลงสู่บรรยากาศอีกครั้ง เทคนิคนี้เป็นการลดความเร็วตั้งต้นในการเข้าสู่บรรยากาศของยาน และยังเป็นการลดความร้อนที่เกิดขึ้นกับยานด้วย เทคนิค "แฉลบแล้วดิ่ง" นี้เป็นเทคนิคที่ท้าทายเทคโนโลยีที่สุดอย่างหนึ่ง เนื่องจากต้องมีระบบการควบคุมทิศทางที่แม่นยำมาก หากเกิดความคลาดเคลื่อนเพียง 0.2 องศา ก็จะถึงกับทำให้ภารกิจล้มเหลวได้เลยทีเดียว
ส่วนภารกิจของยานแม่ยังไม่เสร็จสิ้นหลังจากที่ปล่อยแคปซูลเพื่อส่งกลับมายังโลกแล้ว ก็จะจุดจรวดเพื่อบ่ายหน้าหนีจากโลกแล้วมุ่งหน้าไปอยู่ที่จุดลากรานจ์แอล 2 เพื่อปฏิบัติหน้าที่อื่นต่อไป
ในปี2550 และ 2553 จีนส่งยานฉางเอ๋อ 1 และ ฉางเอ๋อ 2 ไปโคจรรอบดวงจันทร์ได้สำเร็จ ในปลายปี 2556 ฉางเอ๋อ 3 ก็ไปลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จพร้อมกับปล่อยรถสำรวจชื่ออวี้ทู่ออกไปถ่ายภาพพื้นผิว ศึกษาองค์ประกอบของดินและหิน และสำรวจโครงสร้างใต้พื้นดินของดวงจันทร์ด้วยเรดาร์
อย่างไรก็ตามอวี้ทู่ปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่นานก็เกิดปัญหากับระบบควบคุม จึงต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่นับจากเดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นมา
ภารกิจฉางเอ๋อ5 ซึ่งจะออกเดินทางในปี 2560 จะไม่เพียงไปบินอ้อมดวงจันทร์เท่านั้น แต่จะมีการเก็บตัวอย่างหินดวงจันทร์ราว 2 กิโลกรัมแล้วนำกลับมายังโลกอีกด้วย
แคปซูลนี้เป็นแคปซูลลงจอดของภารกิจฉางเอ๋อ
ในภารกิจนี้แคปซูลเข้าสู่บรรยากาศโลกสองครั้ง
ส่วนภารกิจของยานแม่ยังไม่เสร็จสิ้น
ในปี
อย่างไรก็ตาม
ภารกิจฉางเอ๋อ