เมื่อวันที่ 8 กันยายน เวลา 8.52.46 น. ตามเวลาแปซิฟิก ยานเจเนซีส ซึ่งเป็นยานสำรวจลมสุริยะขององค์การนาซา ได้กลับมาถึงโลกหลังจากปฏิบัติภารกิจในอวกาศมานาน 884 วันหรือกว่า 2 ปี
ภารกิจของยานเจเนซีสคือการเก็บอนุภาคจากลมสุริยะเพื่อนำกลับมาศึกษาบนโลกมีเป้าหมายสูงสุดคือ การวัดระดับของไอโซโทปออกซิเจนในลมสุริยะ โดยเก็บไว้ในเวเฟอร์รูปหกเหลี่ยมที่ทำจากวัสดุหลายชนิดแล้วนำกลับโลก
แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่เป็นไปตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดไว้ตามแผนที่วางไว้ เมื่อยานเข้าสู่บรรยากาศโลก จะกางร่มออกเพื่อชะลอความเร็ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเฮลิคอปเตอร์ตามขึ้นไปเกี่ยวร่มโดยตะขอพิเศษ แล้วหิ้วยานมาวางบนพื้น สาเหตุที่วางแผนการลงจอดเช่นนี้เนื่องจากชิ้นส่วนภายในยานเปราะบางมาก แม้แต่ขณะที่ยานจะสัมผัสพื้น ยังต้องมีเจ้าหน้าที่คอยประคองให้สัมผัสพื้นอย่างนุ่มนวลที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก็คือ ร่มไม่กางออก ทำให้ยานพุ่งเข้าแหวกบรรยากาศด้วยความเร็วสูง กระแทกพื้นเข้าอย่างจังด้วยความเร็วกว่า 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จากการตรวจสอบซากยานเบื้องต้นพบว่าเวเฟอร์สำหรับเก็บอนุภาคลมสุริยะแตกเสียหายเสียเกือบทั้งหมด แต่แม้กระนั้น พบว่ายังมีตัวอย่างบางส่วนที่พอจะกู้กลับมาได้ ทำให้ภารกิจนี้ไม่สูญเปล่าไปเสียทีเดียว ขณะนี้ภารกิจการกู้ตัวอย่างจากเจเนซีสยังคงดำเนินต่อไป และจะมีการรายงานผลการตรวจสอบอีกครั้งในกลางเดือนพฤศจิกายน
สภาพของยานที่ยับเยินหลังจากพุ่งชนพื้นโลก
ภารกิจของยานเจเนซีสคือการเก็บอนุภาคจากลมสุริยะเพื่อนำกลับมาศึกษาบนโลก
แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่เป็นไปตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดไว้
จากการตรวจสอบซากยานเบื้องต้น
สภาพของยานที่ยับเยินหลังจากพุ่งชนพื้นโลก