เมื่อต้นเดือนมีนาคม ขณะที่นักดาราศาสตร์กำลังสำรวจวัตถุประเภทวัตถุนอกวงโคจรดาวเนปจูน (TNO--Trans-Neptunian Object) ด้วยกล้องโทรทรรศน์ยักษ์สามกล้องของเครือข่ายวีแอลที (VLT--Very Large Telescope) คณะได้สามารถถ่ายติดภาพของดาวหางฮัลเลย์ได้ ขณะนั้น ดาวหางฮัลเลย์อยู่ห่างเกือบเท่ากับดาวเนปจูน หรือประมาณ 4,000 ล้านกิโลเมตรจากโลก มีอันดับความสว่างถึง 28.2
แม้ว่ากล้องของเครือข่ายวีแอลทีแต่ละกล้องจะมีขนาดใหญ่ถึง8.3 เมตร แต่ลำพังกล้องเดี่ยวยังไม่สามารถมองเห็นภาพของดาวหางฮัลเลย์ได้เลย การถ่ายภาพจึงต้องใช้วิธีผนวกภาพจากสามกล้องได้แก่กล้องอันตู เมลีปัล และเยปัน รวมกันจำนวน 81 ภาพ รวมเวลาเปิดหน้ากล้องนาน 9 ชั่วโมง แม้กระนั้นภาพที่ปรากฏก็เป็นจุดที่เลือนลางมาก ๆ
จากการสำรวจดาวหางฮัลเลย์อยู่ในช่วงที่สงบที่สุดไม่มีกัมมันต์ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นหางหรือโคม่า มีเพียงนิวเคลียสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวหางฮัลเลย์จะคงสภาพเช่นนี้ไปอีกราว 50 ปี
ดาวหางฮัลเลย์เข้ามาเยือนระบบสุริยะชั้นในเมื่อปี2529 หางของดาวหางฮัลเลย์ได้หดหายไปหมดตั้งแต่ช่วงที่วกกลับไปถึงวงโคจรของดาวเสาร์ อย่างไรก็ตามในปี 2534 พบการปะทุของดาวหางทำให้เกิดโคม่าขึ้นมาอีกครั้งมองเห็นได้เป็นเวลาหลายเดือน
เนื่องจากดาวหางฮัลเลย์จะจางลงไปอีกเพียง2.5 อันดับเมื่อเดินทางไปถึงจุดไกลสุดในเดือนธันวาคม 2566 ดังนั้นนักดาราศาสตร์จึงมั่นใจว่าศักยภาพของวีแอลทีสามารถติดตามดาวหางนี้ได้ตลอดทั้งวัฏจักร 76 ปี
ก่อนหน้าที่กล้องวีแอลทีจะพบดาวหางฮัลเลย์ในครั้งนี้ดาวหางที่อยู่ไกลที่สุดที่ตรวจพบได้คือดาวหางชูเมกเกอร์ (1987 H1) ในปี 2540 โดยกล้องเคก 2 ขนาด 10 เมตรในฮาวาย ขณะนั้นดาวหางชูเมกเกอร์อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ 3 พันล้านกิโลเมตร
แม้ว่ากล้องของเครือข่ายวีแอลทีแต่ละกล้องจะมีขนาดใหญ่ถึง
จากการสำรวจดาวหางฮัลเลย์อยู่ในช่วงที่สงบที่สุด
ดาวหางฮัลเลย์เข้ามาเยือนระบบสุริยะชั้นในเมื่อปี
เนื่องจากดาวหางฮัลเลย์จะจางลงไปอีกเพียง
ก่อนหน้าที่กล้องวีแอลทีจะพบดาวหางฮัลเลย์ในครั้งนี้