เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยานวีเอสเอสยูนิตี ซึ่งเป็นยานในชั้นสเปซชิปทูของเวอร์จินกาแล็กติก ได้ขึ้นสู่อวกาศอีกครั้ง เที่ยวบินนี้มีความพิเศษตรงที่ในยานมิได้มีเพียงนักบินเท่านั้น แต่มีผู้โดยสารไปด้วย นับเป็นผู้โดยสารคนแรกของยานชนิดนี้
นักบินในเที่ยวบินนี้คือเดฟ แมคเคย์ หัวหน้านักบิน ไมเคิล มัคซูชี ผู้ช่วยนักบิน ส่วนผู้โดยสารหนึ่งคนนั้นไม่ใช่ลูกค้าของเวอร์จินกาแล็กติก แต่เป็นคนของเวอร์จินกาแล็กติกเอง ชื่อ เบท โมเสส หัวหน้าผู้ฝึกสอนมนุษย์อวกาศของบริษัท
ยานวีเอสเอสยูนิตีเป็นยานอวกาศเพื่อการท่องเที่ยวของเวอร์จินกาแล็กติก การเดินทางสู่อวกาศของวีเอสเอสยูนิตีไม่ได้ขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยจรวดดังเช่นยานลำอื่น ยานจะติดไปกับเครื่องบินส่งสองลำตัวชื่อ ไวท์ไนท์ทู เครื่องจะบินขึ้นจากฐานที่ทะเลทรายโมฮาวีในแคลิฟอร์เนีย หลังจากขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ราวหนึ่งชั่วโมง วีเอสเอสยูนิตีก็แยกตัวออกมาจากเครื่องบินส่งแล้วเดินเครื่องของตัวเองพุ่งดิ่งขึ้นสู่อวกาศ ระหว่างการบินในเที่ยวบินล่าสุดนี้ ยานวีเอสเอสยูนิตีทำความเร็วสูงสุดได้ถึงมัค 3.1 และทำเพดานบินสูงสุด 89.9 กิโลเมตร ซึ่งสูงกว่าการบินครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้วถึง 7 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามคำว่า "อวกาศ" ที่เวอร์จินกาแล็กติกอ้างอิงถึงนี้ เป็นการกล่าวโดยอ้างอิงกับระดับ 80 กิโลเมตรตามนิยามของกองทัพอากาศสหรัฐ แต่นิยามนี้ไม่ใช่นิยามที่ยอมรับใช้กันเป็นการสากล เส้นแบ่งของบรรยากาศกับอวกาศตามที่ยอมรับกันเป็นสากลคือ เส้นคาร์มัน (Kármán line) ซึ่งอยู่ที่ระดับความสูง 100 กิโลเมตร
เที่ยวบินแตะขอบอวกาศของวีเอสเอสยูนิตีมีค่าตั๋วที่นั่งละ250,000 ดอลลาร์ ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ริชาร์ด แบรนสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทจะขึ้นไปเป็นผู้โดยสารเองด้วยเพื่อเป็นการรำลึกการครบรอบ 50 ปีของภารกิจอะพอลโล 11
นักบินในเที่ยวบินนี้คือ
ยานวีเอสเอสยูนิตี
อย่างไรก็ตาม
เที่ยวบินแตะขอบอวกาศของวีเอสเอสยูนิตีมีค่าตั๋วที่นั่งละ