ในปี 2546 ยานมาร์สเอกเพรสขององค์การอีซาได้เดินทางไปถึงดาวอังคารเพื่อสำรวจดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้ ภารกิจนี้มีการปล่อยยานลูกชื่อ บีเกิล 2 ลงไปบนผิวดาวเพื่อสำรวจทางธรณีวิทยาภาคพื้นดิน ส่วนยานแม่มาร์สเอกซ์เพรสก็สำรวจดาวอังคารต่อไปจากวงโคจร
ยานมาร์สเอกซ์เพรสได้ปล่อยบีเกิล2 ในวันที่ 19 ธันวาคม โดยคาดว่ายานลูกจะลงสัมผัสพื้นในวันคริสต์มาสพอดี แต่เมื่อถึงวันและเวลาที่กำหนดกลับไม่มีเสียงใด ๆ จากบีเกิล 2 เลย
แม้จะมีการสนับสนุนในการติดต่อบีเกิล2 จากยานลำอื่นในวงโคจรอย่างมาร์สโอดิสซีย์แต่ก็ไม่เป็นผล จนในที่สุด อีซาต้องประกาศว่าภารกิจนี้ล้มเหลวในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปีถัดมา
แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปีแต่ความพยายามที่จะสืบสวนหาสาเหตุของความล้มเหลวก็ยังคงดำเนินอยู่ เพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาด มีข้อสันนิษฐานออกไปหลายทาง ทางหนึ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ เกิดจากการที่บรรยากาศของดาวอังคารเบาบางกว่าที่คาดไว้ ทำให้ร่มของยานทำงานได้ไม่เต็มที่ ยานจึงตกกระแทกพื้น แต่การที่ไม่พบซากและไม่มีสัญญาณจากยานบีเกิล 2 สมมุติฐานนี้ก็ไม่ได้รับการพิสูจน์
ด้วยความช่วยเหลือจากยานมาร์สริคอนนิเซนซ์ออร์บิเตอร์ของนาซาที่สำรวจดาวอังคารและจากการทำงานเป็นการส่วนตัว ไมเคิล ครูน ซึ่งเคยอยู่ในคณะของมาร์สเอกซ์เพรส เขาได้พยายามค้นหาร่องรอยของมาร์สเอกซ์เพรสจากภาพมุมสูงที่ได้จากกล้องไฮไรส์ของมาร์สริคอนนิเซนซ์ออร์บิเตอร์ จนปลายปีที่แล้ว เขาก็ได้พบสิ่งที่เชื่อว่าอาจเป็นยานบีเกิล 2 จึงได้มีการร้องขอให้ถ่ายภาพที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง ซึ่งผลที่ได้ก็ยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นยานบีเกิลจริง
จากภาพที่ปรากฏแสดงชัดว่ายานบีเกิล 2 ได้ลงจอดบนผิวดาวได้อย่างสมบูรณ์ ร่มกางได้อย่างถูกเวลาและตำแหน่งลงจอดถูกต้อง ไม่ใช่การตกกระแทกพื้นดังที่เชื่อมาตลอดสิบปีแต่อย่างใด แต่แผงเซลสุริยะของยานซึ่งจะต้องกางออกหลังลงจอดกลับกางออกไม่สมบูรณ์ สายอากาศวิทยุที่จำเป็นต้องใช้ในการสื่อสารกับโลกจึงไม่อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น ยานบีเกิล 2 จึงส่งเสียงใด ๆ กลับบ้านไม่ได้เลยทั้งที่ส่วนต่าง ๆ ของยานอยู่ในสภาพดี
ยานมาร์สเอกซ์เพรสได้ปล่อยบีเกิล
แม้จะมีการสนับสนุนในการติดต่อบีเกิล
แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี
ด้วยความช่วยเหลือจากยานมาร์สริคอนนิเซนซ์ออร์บิเตอร์ของนาซาที่สำรวจดาวอังคาร
จากภาพที่ปรากฏ