นักดาราศาสตร์ได้สร้างแผนที่อุณหภูมิพื้นผิวของดาวเคราะห์ต่างระบบประเภทซูเปอร์โลกได้เป็นครั้งแรกด้วยกล้องโทรทรรศน์สปิตเซอร์
ดาวเคราะห์ดวงนี้คือดาว 55 ปูอี (55 Cancri e) ซึ่งมีชื่อสามัญอย่างเป็นทางการแล้วว่า ยันส์เซิน มีขนาดเป็นสองเท่าของโลก อยู่ห่างจากโลก 40 ปีแสง โคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่มาก โคจรครบรอบหนึ่งใช้เวลาเพียง 18 ชั่วโมงเท่านั้น การที่โคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์แม่มากเช่นนี้ จึงถูกแรงน้ำขึ้นลงของดาวฤกษ์ตรึงให้หันด้านเดียวเข้าหาดาวแม่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับที่ดวงจันทร์หันด้านเดียวเข้าหาโลกตลอดเวลา นี่ทำให้ดาวยันส์เซินมีด้านเดียวเป็นกลางวันตลอดกาล ถูกแสงและความร้อนจากดาวฤกษ์แผดเผาอย่างต่อเนื่อง ส่วนอีกด้านก็เป็นกลางคืนชั่วนิรันดร์ จึงมีอุณหภูมิต่ำกว่ามาก แต่แม้จะเป็นด้านกลางคืน ก็ยังจัดว่าร้อนดังขุมนรกอยู่ดี
สปิตเซอร์ได้สำรวจดาวยันส์เซินในย่านรังสีอินฟราเรดเป็นเวลา80 ชั่วโมง เฝ้ามองดาวเคราะห์ดวงนี้โคจรรอบดาวแม่หลายรอบ การสำรวจนี้ทำให้นักดาราศาสตร์สร้างแผนที่อุณหภูมิของดาวยันส์เซินได้ทั่วทั้งดวง พบว่าด้านเย็นที่สุดยังมีอุณหภูมิสูงถึง 1,400 เคลวิน ส่วนด้านที่ร้อนที่สุดก็มีอุณหภูมิถึง 2,700 เคลวิน แตกต่างกันมากถึง 1,300 เคลวิน
การที่อุณหภูมิมีความแตกต่างกันมากเช่นนี้แสดงว่าบนดาวเคราะห์ดวงนี้มีการถ่ายเทความร้อนไม่ดีนัก จึงเป็นไปได้ว่าที่นี่น่าจะมีบรรยากาศเบาบาง และบนพื้นผิวก็น่าจะเต็มไปด้วยลาวา
"ด้านกลางวันของดาวเคราะห์ดวงนี้น่าจะมีสายธารและบึงที่มีแมกมาอันร้อนระอุไหลรินส่วนลาวาในด้านกลางคืนก็น่าจะจับตัวแข็งเหมือนกับลาวาที่พบในฮาวาย " ไมเคิล กิลลอน จากมหาวิทยาลัยลีแยฌในเบลเยียมกล่าว
ข้อมูลจากกล้องสปิตเซอร์ยังแสดงว่าด้านที่ร้อนที่สุดของดาวยันส์เซินไม่ใช่ด้านที่หันเข้าหาดาวฤกษ์โดยตรงแต่เยื้องตำแหน่งกันเล็กน้อย ซึ่งอาจแสดงถึงว่ามีการถ่ายเทความร้อนกันในระดับท้องถิ่นเฉพาะด้านกลางวัน หรืออาจเป็นเพราะจุดที่ร้อนที่สุดนั้นเป็นบริเวณที่มีลาวาไหลอยู่ก็ได้
ขณะนี้นักดาราศาสตร์กำลังมีแผนจะสำรวจดาวเคราะห์ต่างระบบดวงนี้เพิ่มเติมในอนาคตโดยใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เว็บบ์ซึ่งจะขึ้นประจำการในอีกสองปีข้างหน้านี้โดยหวังจะได้พบความจริงเกี่ยวกับสภาพของดาวยันส์เซินได้มากขึ้น
ดาวเคราะห์ดวงนี้คือ
สปิตเซอร์ได้สำรวจดาวยันส์เซินในย่านรังสีอินฟราเรดเป็นเวลา
การที่อุณหภูมิมีความแตกต่างกันมากเช่นนี้
"ด้านกลางวันของดาวเคราะห์ดวงนี้น่าจะมีสายธารและบึงที่มีแมกมาอันร้อนระอุไหลริน
ข้อมูลจากกล้องสปิตเซอร์ยังแสดงว่าด้านที่ร้อนที่สุดของดาวยันส์เซินไม่ใช่ด้านที่หันเข้าหาดาวฤกษ์โดยตรง
ขณะนี้นักดาราศาสตร์กำลังมีแผนจะสำรวจดาวเคราะห์ต่างระบบดวงนี้เพิ่มเติมในอนาคตโดยใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เว็บบ์ซึ่งจะขึ้นประจำการในอีกสองปีข้างหน้านี้