ในบรรดาดวงจันทร์ของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะทั้งหมด ดวงจันทร์เอนเซลาดัสของดาวเสาร์น่าจะเป็นดวงที่น่าสนใจที่สุดดวงหนึ่งในแง่ของความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิต
ดวงจันทร์ดวงนี้มีพื้นผิวเป็นน้ำแข็งลึกลงไปถัดจากผิวน้ำแข็งคือมหาสมุทรใต้พิภพที่รองรับพื้นผิวไว้ทั้งดวง บริเวณนี้นี่เองที่นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตก็ได้ นอกจากดวงจันทร์เอนเซลาดัสของดาวเสาร์แล้ว ดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัสบดีก็มีลักษณะแบบนี้เช่นกัน
แต่ปัญหาคือหากจะไปสำรวจสิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์เหล่านี้ จะเจาะผิวน้ำแข็งที่ลึกหลายสิบกิโลเมตรลงไปสำรวจได้อย่างไร
สำหรับดวงจันทร์เอนเซลาดัสปัญหานี้อาจไม่ใหญ่เท่าของยูโรปา ที่ขั้วใต้ของเอนเซลาดัสมีแหล่งน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่พ่นน้ำออกสู่อวกาศ น้ำที่พ่นออกมานี้เป็นน้ำจากมหาสมุทรเบื้องล่าง และย่อมแสดงว่าผิวน้ำแข็งบริเวณนี้น่าจะบางกว่าบริเวณอื่น
แล้วบางเท่าไหร่กันเล่า?
ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์จากโครงการแคสซีนีจะมีคำตอบให้แล้ว
นักวิจัยคณะหนึ่งได้สร้างแบบจำลองของโครงสร้างดวงจันทร์เอนเซลาดัสด้วยคอมพิวเตอร์โดยอาศัยข้อมูลจากกล้องความละเอียดสูงของยานแคสซีนีแบบจำลองนี้แสดงว่าดวงจันทร์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 505 กิโลเมตรดวงนี้มีแก่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 360-370 กิโลเมตร ส่วนเปลือกดาวที่ประกอบด้วยน้ำแข็งมีความหนาเฉลี่ย 18-22 กิโลเมตร ส่วนที่คั่นอยู่ระหว่างชั้นทั้งสองคือมหาสมุทรใต้พื้นผิวขนาดใหญ่
ความหนาของเปลือกน้ำแข็งบนดวงจันทร์ดวงนี้ผันแปรอยู่ระหว่าง5-35 กิโลเมตร โดยส่วนที่หนาที่สุดอยู่บริเวณแถบศูนย์สูตร ส่วนบางที่สุดคือบริเวณขั้วใต้ บางจุดอาจหนาไม่ถึง 5 กิโลเมตร
ตัวเลขเหล่านี้น้อยกว่าที่เคยคาดกันไว้มากในทางดาราศาสตร์อาจเรียกได้ว่า "บางเฉียบ" นั่นคงเป็นสาเหตุที่น้ำจากใต้พื้นผิวแทรกผ่านรอยแตกขึ้นมาถึงพื้นผิวได้โดยง่าย
เมื่อปีที่แล้วยานแคสซีนีได้พุ่งผ่านลำของไอน้ำที่พ่นขึ้นมาจากกีเซอร์ของเอนเซลาดัส จึงมีโอกาสได้วิเคราะห์องค์ประกอบของสสารที่พ่นออกมาได้โดยตรง พบอนุภาคของซิลิกา และพบมีเทนซึ่งแสดงว่ามีแหล่งน้ำร้อนอยู่ที่ก้นมหาสมุทรด้วย
ดวงจันทร์ดวงนี้มีพื้นผิวเป็นน้ำแข็ง
แต่ปัญหาคือ
สำหรับดวงจันทร์เอนเซลาดัส
แล้วบางเท่าไหร่กันเล่า?
ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์จากโครงการแคสซีนีจะมีคำตอบให้แล้ว
นักวิจัยคณะหนึ่งได้สร้างแบบจำลองของโครงสร้างดวงจันทร์เอนเซลาดัสด้วยคอมพิวเตอร์โดยอาศัยข้อมูลจากกล้องความละเอียดสูงของยานแคสซีนี
ความหนาของเปลือกน้ำแข็งบนดวงจันทร์ดวงนี้ผันแปรอยู่ระหว่าง
ตัวเลขเหล่านี้น้อยกว่าที่เคยคาดกันไว้มาก
เมื่อปีที่แล้ว