อันตรายต่อดาวเทียม

ในอวกาศรอบโลกไม่มีบรรยากาศช่วยเป็นเกราะกำบัง แม้อุกกาบาตที่เข้ามาจะมีขนาดเล็กแต่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าดาวเทียมเหล่านั้นเสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากดาวตก อุกกาบาตจากฝนดาวตกสิงโตมีอัตราเร็วประมาณ 72 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมาก สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังหวั่นเกรงไม่ใช่ขนาดของอุกกาบาต หรือการพุ่งชน แต่เป็นผลอันเกิดจากอุกกาบาตที่ก่อให้เกิดพลาสมาของไอออนซึ่งจะมีผลต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของดาวเทียม แม้ว่ามีโอกาสน้อยมากที่ดาวเทียมจะได้รับผลจากเหตุการณ์นี้ ทว่าในปี 2536 ดาวเทียมโอลิมปัสขององค์การอวกาศยุโรปเคยเสียหายหลังจากเกิดฝนดาวตกเปอร์เซอุสมาแล้ว ในปีที่ผ่านมาวิศวกรที่ควบคุมดาวเทียมได้ป้องกันปัญหาด้วยการบังคับให้แผงเซลล์สุริยะหันด้านข้างเข้าหาทิศทางที่อุกกาบาตจะพุ่งเข้ามา และปิดระบบการทำงานบางส่วนที่ไม่จำเป็น

ความคาดหมายเกี่ยวกับฝนดาวตกสิงโตในประเทศไทย

จากผลการคำนวณเพื่อหาเวลาและอัตราการเกิดฝนดาวตก และการเปรียบเทียบระหว่างสิ่งที่ทำนายไว้กับปรากฏการณ์จริงดังที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีสิ่งยืนยันว่าเวลาที่จะเกิดฝนดาวตกมากที่สุดนั้นน่าจะใกล้เคียงกับความเป็นจริงหรืออย่างน้อยก็น่าจะมีความคลาดเคลื่อนไม่มากนัก แต่สิ่งที่ยังคลุมเครือและไม่แน่นอนอยู่คืออัตราการเกิดดาวตก ซึ่งมีตั้งแต่ในระดับหลายร้อยดวงไปจนถึง 10,000-20,000 ดวงต่อชั่วโมง ดังนั้นหากเราตั้งสมมุติฐานในเชิงลบไว้ก่อนว่าอัตราการเกิดดาวตกน่าจะอยู่ในระดับประมาณ 3,000 ดวงต่อชั่วโมง เราก็สามารถที่จะคำนวณได้ว่า คนไทยจะเห็นดาวตกในอัตราสูงสุดที่ประมาณ 11 ดวงต่อนาทีในเวลา 1.00-2.00 น. ของคืนวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน 2544 (ซึ่งเป็นเช้ามืดของวันที่ 19 พฤศจิกายน) หรือหากอัตราการเกิดดาวตกสูงสุดมีค่าต่ำกว่าหรือสูงกว่านี้ การเห็นฝนดาวตกสิงโตในประเทศไทย จะเป็นไปตามตารางนี้

อัตราสูงสุด (ดวงต่อชั่วโมง) อัตราที่เห็นในประเทศไทย (ดวงต่อนาที)
8,000 30
3,000 11
1,000 4
500 2

อัตราสูงสุดที่ปรากฏอยู่ในคอลัมน์ซ้ายคืออัตราที่เรียกว่า Zenithal Hourly Rate หรืออัตราการเกิดดาวตกต่อชั่วโมงโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า เรเดียนท์ซึ่งอยู่ในกลุ่มดาวสิงโตอยู่ที่จุดเหนือศีรษะ และอันดับความสว่างต่ำสุดของดาวฤกษ์ที่ตามองเห็น ณ สถานที่สังเกตการณ์มีค่า 6.5 แต่ในช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีดาวตกมากที่สุดนั้น เรเดียนท์อยู่ที่มุมเงยจากขอบฟ้าประมาณ 13 องศา ซึ่งจะทำให้อัตราที่เห็นจริงลดลงเหลือราว 1 ใน 4 ของค่า ZHR ผลลัพธ์หลังจากแก้ไขแล้วจึงแสดงอยู่ในคอลัมน์ทางขวา โดยสรุปแล้วผู้เขียนเชื่อว่า อัตราที่น่าจะเป็นไปได้ในการสังเกตการณ์ในประเทศไทยอยู่ระหว่าง 10-30 ดวงต่อนาที โดยเวลาที่เห็นดาวตกมากที่สุดน่าจะอยู่ในช่วงเวลา 1.00-2.00 น. หรือคลาดเคลื่อนจากนี้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ หากว่าดูดาวตกจากสถานที่ๆ ท้องฟ้าไม่มืดพอหรือมีเมฆบดบังบางส่วนของท้องฟ้าจะทำให้อัตราที่เห็นลดลงได้อีก

คาดหมายจำนวนดาวตกที่นับได้ในประเทศไทย

จากกราฟแสดงอัตราการเกิดดาวตก ที่ได้จากผลการคำนวณของ เดวิด แอชเชอร์/โรเบิร์ต แมกนอต และ เอสโค ลือทิเนน/ทอม แวน ฟลานเดิร์น ผู้เขียนได้คำนวณหาจำนวนดาวตกที่คาดว่าจะมองเห็นได้ในช่วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่เวลา 0.30-4.30 น. ของวันที่ 19 พฤศจิกายน 2544 ได้ผลดังนี้

ช่วงเวลาระหว่าง ชนบท ไม่มีมลภาวะทางแสง มลภาวะทางแสงปานกลาง เมืองใหญ่ มลภาวะทางแสงมาก
00.30-00.45 น. 60-90 30-40 5
00.45-01.00 น. 160-210 80-100 10
01.00-01.15 น. 340-360 160-170 20
01.15-01.30 น. 470-480 210-220 30
01.30-01.45 น. 420-510 200-240 30
01.45-02.00 น. 230-420 110-200 15-25
02.00-02.15 น. 80-280 40-130 5-20
02.15-02.30 น. 30-150 15-70 น้อยกว่า 10
02.30-02.45 น. 20-70 10-30 น้อยกว่า 5
02.45-03.00 น. 20-35 10-15 น้อยกว่า 2
03.00-03.15 น. 0-10 0-5 -
03.15-03.30 น. 0-10 0-5 -
03.30-03.45 น. 0-10 0-5 -
03.45-04.00 น. 0-10 0-5 -
04.00-04.15 น. 0-10 0-5 -
04.15-04.30 น. 0-10 0-5 -

หมายเหตุ - ผลคำนวณนี้คำนวณสำหรับประเทศไทย โดยยึดถือตามเวลาและอัตราการเกิดดาวตกสูงสุดตามผลคำนวณของนักดาราศาสตร์ทั้งสองกลุ่ม ภายใต้เงื่อนไขว่าท้องฟ้าไม่มีเมฆบดบัง ดังนั้นหากเวลาและอัตราการเกิดจริงคลาดเคลื่อนจากนี้หรือสภาพทัศนวิสัยไม่ดี จะทำให้ตัวเลขในตารางนี้คลาดเคลื่อนตามไปด้วย จึงขอให้ดูพอเป็นแนวทางว่ามีโอกาสจะมองเห็นดาวตกได้มากน้อยเพียงใด

คำถาม-คำตอบเกี่ยวกับฝนดาวตกสิงโต

ดาวตกคืออะไร?
ดาวตก หรือ ผีพุ่งไต้ หมายถึงปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่มีแสงสว่างวาบคล้ายดาวฤกษ์ที่พุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว เกิดจากชิ้นส่วนอุกกาบาตขนาดเล็กขนาดไม่กี่มิลลิเมตรในอวกาศ ฝุ่นอุกกาบาตเหล่านี้เคลื่อนที่รอบดวงอาทิตย์ในรูปแบบที่เรียกว่าสายธารอุกกาบาต เมื่อโลกเดินทางผ่านเข้าไปในสายธารนี้ ฝุ่นอุกกาบาตจะเคลื่อนที่เข้ามาในบรรยากาศ เกิดความร้อนจากการเสียดสีกับบรรยากาศและชนกับอะตอมและโมเลกุล สเปกตรัมที่วัดได้บ่งบอกว่าอนุภาคเหล่านี้ประกอบด้วยโซเดียม เหล็ก และแมกนีเซียม ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นทำให้เกิดแสงสว่างตามแนวที่อุกกาบาตเคลื่อนที่ เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าดาวตก กระบวนการนี้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับความสูง 90 กิโลเมตรขึ้นไปจากพื้นโลก ซึ่งอยู่ในบรรยากาศชั้นนอกสุดที่เรียกว่าไอโอโนสเฟียร์ หากอุกกาบาตนั้นมีขนาดใหญ่มากพออาจเผ้าไหม้ไม่หมดและตกลงสู่พื้นดินเรียกว่าลูกอุกกาบาต

ดาวตกมีสีอะไร?

สีของดาวตกบ่งบอกถึงองค์ประกอบทางเคมีของอนุภาคและอุณหภูมิที่เกิดในบริเวณโดยรอบ ดาวตกส่วนใหญ่มีสีส้มเหลืองของอะตอมโซเดียม สีเหลืองของเหล็ก และสีน้ำเงินเขียวของแมกนีเซียม บางครั้งอะตอมของแคลเซียมอาจทำให้ดาวตกมีสีม่วง และบางส่วนอาจมีสีแดงอันเนื่องมาจากอะตอมของซิลิกอนและไนโตรเจนที่อยู่ในบรรยากาศ

ฝนดาวตกและพายุดาวตกคืออะไร?

ในเวลากลางคืนจะสามารถมองเห็นดาวตกบนท้องฟ้าได้ราว 5-10 ดวงต่อชั่วโมง แต่ในบางช่วงของปีจะมีดาวตกในอัตราที่สูงมากขึ้นกว่าปกติเรียกว่า ฝนดาวตก ในปีหนึ่งๆ มีฝนดาวตกอยู่หลายกลุ่ม เรียกชื่อแตกต่างกันตามกลุ่มดาวที่ดูเสมือนดาวตกจะพุ่งออกมา บริเวณดังกล่าวเรียกว่าจุดเรเดียนท์ หรือบางทีก็เรียกชื่อตามดาวหางต้นกำเนิด ฝนดาวตกสิงโตจึงมีตำแหน่งเรเดียนท์อยู่ในกลุ่มดาวสิงโต ส่วนพายุดาวตก (meteor storm) ใช้เรียกปรากฏการณ์ที่เห็นดาวตกในอัตราที่สูงมากอาจเป็นเรือนพันหรือเรือนหมื่นดวงต่อชั่วโมง เกิดขึ้นเมื่อโลกเดินทางผ่านส่วนที่หนาแน่นของสายธารอุกกาบาต เราสามารถพบบันทึกการเกิดพายุดาวตกในอดีตได้จากทั่วโลก

ดาวตกที่สว่างมากขนาดไหนจึงเรียกว่าไฟร์บอล?

ไฟร์บอลเกิดจากอุกกาบาตเช่นเดียวกันกับดาวตก แต่มีความสว่างมากกว่า ซึ่งอาจเกิดจากการที่อุกกาบาตมีขนาดใหญ่กว่า หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ ข้อกำหนดของศูนย์ข้อมูลไฟร์บอล (FIDAC) กำหนดให้ดาวตกที่สว่างมากกว่าอันดับความสว่าง -3.0 อยู่ในประเภทของไฟร์บอล คือสว่างมากกว่าดาวพฤหัสบดีหรือดาวศุกร์ขึ้นไป ไฟร์บอลมักจะทิ้งควันไว้บนท้องฟ้าหลายวินาทีหรือหลายนาที ในปี 2541 เกิดไฟร์บอลให้เห็นจำนวนมากในคืนวันที่ 16/17 พฤศจิกายน แต่สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีดาวตกที่สว่างมากในระดับนี้ไม่มากนัก

ดูฝนดาวตกสิงโตได้ดีที่สุดที่ไหน?

เราสามารถดูดาวตกที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่ท้องฟ้าที่นั่นไม่ถูกรบกวนจากแสงไฟ ฝุ่นละออง หากอยู่ในเมืองใหญ่ก็ควรเดินทางไปดูในต่างจังหวัด หรือห่างจากตัวเมืองมากพอที่จะหนีจากแสงสว่างและมลภาวะในอากาศ จากนั้นลองหาสถานที่ๆ ห่างจากท้องถนนเพื่อหลีกเลี่ยงแสงไฟที่เกิดจากยานพาหนะ และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือต้องมีความปลอดภัย

ควรหันหน้าไปในทิศทางใด?

แม้ว่าดาวตกที่เป็นสมาชิกของฝนดาวตกสิงโตจะดูเหมือนเคลื่อนที่มาจากกลุ่มดาวสิงโตในบริเวณที่เรียกว่าเรเดียนท์ แต่ดาวตกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกทิศทาง ที่สำคัญคือไม่ควรจ้องมองไปที่กลุ่มดาวสิงโต แต่ควรมองห่างจากกลุ่มดาวสิงโตออกไปประมาณ 40 องศาหรือมากกว่า เช่น อาจมองไปในบริเวณกลุ่มดาวนายพราน คนคู่ หรือสุนัขใหญ่เป็นต้น

เวลาที่ดูฝนดาวตกสิงโตได้ดีที่สุดคือเวลาใด?

เราสามารถมองเห็นดาวตกในกลุ่มนี้ได้ดีตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มดาวสิงโตเริ่มปรากฏขึ้นเหนือขอบฟ้าทิศตะวันออก อย่างไรก็ตามก็มีโอกาสที่จะมองเห็นดาวตกได้ก่อนเที่ยงคืน เพียงแต่ดาวตกนั้นไม่ได้เป็นสมาชิกของฝนดาวตกสิงโต

เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

บทความเก่าเกี่ยวกับฝนดาวตกสิงโต

บทความนี้ตีพิมพ์ลงในวารสาร "ทางช้างเผือก" วารสารรายเดือนของสมาคมดาราศาสตร์ไทย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามอ่านรายละเอียดอื่นๆ เช่น วิธีการถ่ายภาพดาวตก การบันทึกปรากฏการณ์ วิธีใช้แผนที่ฟ้า เป็นต้น

หน้า 1 | 2 | หน้าแรก >>