ข้อที่ 1
ขณะที่จำนวนประชากรโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นลำดับเรขาคณิต
แต่ปริมาณอาหารในโลกเพิ่มเป็นลำดับเลขคณิต ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารขึ้นทั่วโลก
และอุณหภูมิบนโลกก็ร้อนขึ้นทุกๆ วัน เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลายและมลภาวะทางอากาศเพิ่มสูงขึ้น
กลุ่มนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ได้รวมตัวกันจัดตั้งโครงการอพยพนักวิทยาศาสตร์ทุกสาขาไปยังดาวเคราะห์แอลฟาซึ่งโคจรรอบดาวฤกษ์บีตาเป็นวงกลม
ดาวเคราะห์ดวงนี้มีสภาพคล้ายกับโลกมาก คือในเวลา 1 วันมี
24 ชั่วโมง มีชั้นบรรยากาศ, น้ำและทรัพยากรธรรมชาติเพียงพอ
ต่อการดำรงชีวิต
หลังจากการสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานแล้ว ได้มีการจัดตั้งสถาบันวิจัยทางดาราศาสตร์แห่งดาวแอลฟาขึ้น
โดยงานวิจัยชิ้นแรกของสถาบันมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เราสามารถวัดความยาวคลื่นได้ถึงทศนิยมตำแหน่งที่
3 อย่างแม่นยำ เราทำการวัดสเปกตรัมของธาตุแคลเซียมของดาวฤกษ์แกมมาที่อยู่ไกลจากดาวบีตามาก
และอยู่ในระนาบเดียวกับระนาบการโคจรของดาวเคราะห์แอลฟารอบดาวบีตา
ดาวแกมมากำลังเคลื่อนที่ออกห่างจากดาวบีตาด้วยความเร็วในแนวเล็ง
(Radial Velocity) คงที่ โดยเราจะวัดสเปกตรัมของธาตุแคลเซียมทุกๆ
6 วัน เมื่อดาวผ่านเมอริเดียนของผู้สังเกตเท่านั้นเพื่อไม่ให้ความเร็วเนื่องจากการหมุนรอบตัวเองของดาวแอลฟาเข้ามาเกี่ยวข้อง
ข้อมูลดังกล่าวมีดังนี้
ครั้งที่ |
ความยาวคลื่นที่วัดได้
(Angstrom) |
1 |
3933.596 |
2 |
3933.770 |
3 |
3934.014 |
4 |
3934.268 |
5 |
3934.471 |
6 |
3934.575 |
7 |
3934.553 |
8 |
3934.413 |
9 |
3934.186 |
10 |
3933.929 |
11 |
3933.702 |
12 |
3933.561 |
13 |
3933.540 |
14 |
3933.643 |
15 |
3933.847 |
1.1
ให้นักเรียนเขียนกราฟความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วในแนวเล็งสัมพัทธ์ของดาวแกมมาเทียบกับผู้สังเกต
บนดาวเคราะห์แอลฟา (กิโลเมตร/วินาที) กับเวลา (วัน)
1.2
จากกราฟ ให้วิเคราะห์ว่าดาวแกมมาเคลื่อนที่ออกห่างจากดาวบีตาด้วยความเร็วในแนวเล็ง
(Radial Velocity)
เท่าใด และดาวเคราะห์แอลฟาโคจรรอบดาวบีตาด้วยอัตราเร็วเท่าใด
1.3 แสดงวิธีคำนวณหามวลของดาวบีตา
กำหนดให้
ความยาวคลื่นของธาตุแคลเซียมในห้องปฏิบัติการ
(rest wavelength) เท่ากับ 3933.664 Angstrom
|