|
ข้อสอบแข่งขัน
ดาราศาสตร์โอลิมปิก ระดับชาติ ครั้งที่ 2
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2548
ข้อสอบ ภาคทฤษฎี
|
|
กำหนดให้ |
|
ค่าคงที่ทางดาราศาสตร์ ข้อมูลเพิ่มเติม
- ดาวแคระขาวมีมวลประมาณ 0.8 เท่า ของมวลดวงอาทิตย์
และมีขนาดพอๆ กับโลก
- ดาวนิวตรอนมีมวลประมาณ 1.4 เท่า ของมวลดวงอาทิตย์
และมีขนาดพอๆ กับเมืองเล็กๆ
(รัศมีน้อยกว่า 20 km)
- รัศมีโลกมีค่าเท่ากับ 6,378 km
- มวลดวงอาทิตย์มีค่าเท่ากับ 1.99 x 1030
kg
- คาบไซเดอเรียล (Sidereal Period) ของดาวเคราะห์
- ดาวศุกร์ 224.71 วัน
- โลก 365.25 วัน
- ดาวอังคาร 686.90 วัน
|
|
|
ข้อที่ 1.
ในการศึกษาเรื่องการขยายตัวของเอกภพนั้น เอ็ดวิน ฮับเบิล
ได้ใช้ดาวแปรแสงชนิดเซเฟอิด (Cepheid Variables) ที่อยู่ในกาแล็กซีต่างๆ
เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วในแนวเล็งที่กาแล็กซีกำลังเคลื่อนที่ออกจากผู้สังเกตกับระยะทางของกาแล็กซี
ซึ่งในยุคแรกนั้น แม้ว่าฮับเบิลจะค้นพบว่าเอกภพขยายตัวจริงก็ตาม
แต่ค่าคงที่ของฮับเบิล (H) มีค่าที่ผิดพลาดไปจากความเป็นจริงค่อนข้างมาก
สมมติว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคาบ-กำลังส่องสว่าง (Period-Luminosity
Relation) ของดาวชนิดดังกล่าวคือสาเหตุประการเดียวของการเกิดความคลาดเคลื่อนนี้
กำหนดให้ความสัมพันธ์ดังกล่าวอยู่ในรูปของ
Log (L/L?) = C1logP + C2
โดย
L, L?, P คือ กำลังส่องสว่างของดาว กำลังส่องสว่างของดวงอาทิตย์
และคาบการแปรแสง ตามลำดับ C1 และ C2 เป็นค่าคงที่ใดๆ ถ้าหากว่าข้อมูลของดาวแปรแสงเกิดความผิดพลาดจนทำให้ได้ความสัมพันธ์ที่ค่าคงที่
C1 มีค่ามากกว่าความเป็นจริงอยู่ครึ่งหนึ่งแล้ว จงหาว่าค่าคงที่ของฮับเบิลจะผิดไปอย่างไร
|
|
ข้อที่ 2.
พัลซาร์ในเนบิวลาปู หมุนรอบตัวเองด้วยอัตรา 30 รอบต่อวินาที
จงแสดงการคำนวณให้มีตัวเลขที่เห็น
ชัดเจนว่าพัลซาร์ไม่ใช่ดาวแคระขาวแต่เป็นดาวนิวตรอนที่กำลังหมุน |
|
ข้อที่ 3.
ประมาณ 3,000 ล้านปีข้างหน้า ดาราจักรทางช้างเผือกจะต้องชนกับดาราจักรแอนโดรเมดา
ณ เวลานั้น มนุษยชาติต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในดาราจักร NGC253
(Sculptor Galaxy) ซึ่งห่างจากดาราจักรที่จะชนกัน 10 ล้านปีแสง
เมื่อมองจากที่อยู่ใหม่ของเรา จะเห็นดาราจักรทางช้างเผือกและดาราจักรแอนโดรเมดาก่อนชนมีโชติมาตรปรากฏ
(Apparent Magnitude) 7.88 และ 7.19 ตามลำดับ หลังการชน
ดาราจักรทั้งสองจะรวมตัวกันเป็นดาราจักรเดียว ผลจากการรวมตัวทำให้สสารระหว่างดาวมีความหนาแน่นมาก
อัตราการเกิดดาวใหม่จึงสูงกว่าปกติ ด้วยเหตุนี้กำลังส่องสว่าง
(Luminosity) ของดาราจักรใหม่เพิ่มขึ้น 10% ให้นักเรียนหาว่า
ภายหลังการรวมตัว ดาราจักรใหม่จะมีโชติมาตรสัมบูรณ์ (Absolute
Magnitude) เท่าใด
|
|
ข้อที่ 4.
ถ้ามวลของดวงอาทิตย์ลดลงเหลือ ? ของมวลเดิมแล้ว วงโคจรของโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
จงอธิบายพร้อมวาดภาพประกอบ
|
|
ข้อที่ 5.
ที่เวลา 18:00 U.T. ดาวศุกร์อยู่ที่ตำแหน่ง Greatest Western
Elongation เทียบกับโลก ซึ่งมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์เท่ากับ
0.723 หน่วยดาราศาสตร์ ในขณะที่ดาวอังคารอยู่ที่ตำแหน่ง
Opposition เทียบกับโลก กำหนดให้วงโคจรของดาวศุกร์ โลก
และดาวอังคารอยู่ในระนาบเดียวกัน ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้พร้อมแสดงวิธีคำนวณและวาดภาพประกอบ
|
ข้อ
5.1 |
ผู้สังเกตที่ช่วงลองจิจูดใดบริเวณศูนย์สูตรของโลก
จะสามารถเห็นดาวศุกร์และดาวอังคาปรากฏบนท้องฟ้าพร้อมกันในขณะนั้น |
|
|
ข้อ 5.2 |
ให้คำนวณรัศมีเชิงมุมของดวงอาทิตย์ที่นักบินอวกาศเห็น
|
|
ข้อที่ 6.
ที่เวลา 18:00 U.T. ดาวศุกร์อยู่ที่ตำแหน่ง Greatest Western
Elongation เทียบกับโลก ซึ่งมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์เท่ากับ
0.723 หน่วยดาราศาสตร์ ในขณะที่ดาวอังคารอยู่ที่ตำแหน่ง
Opposition เทียบกับโลก กำหนดให้วงโคจรของดาวศุกร์ โลก
และดาวอังคารอยู่ในระนาบเดียวกัน ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้พร้อมแสดงวิธีคำนวณและวาดภาพประกอบ
|
|
|