รายงานการสังเกตสุริยุปราคาจากอิหร่าน 2542

29 พฤศจิกายน 2542 รายงานโดย: มนตรี กิตตินานนท์ (montreek@siemens.co.th)

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไปดู Total Solar Eclipse ที่ประเทศอิหร่าน โดยไปที่เมือง Esfahan อยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวง Tehran พอกลับมาแล้วนึกได้ว่าที่ Website ของสมาคมดาราศาสตร์ไทยเปิดให้ส่งบทความหรือประสบการณ์การสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์เข้ามาได้ จึงส่งเป็นแบบบันทึกย่อเข้ามา ความจริงเมื่อปีที่แล้วผมก็เดินทางไปที่ Malaysia เพื่อดู Annular Solar Eclipse ด้วยเช่นกันโดยไปที่เมือง Malacca แต่คราวนั้นทัศนวิสัยไม่ดี มีฝนตกก็เลยไม่ได้เห็นเป็นวงแหวนที่ชัดเจน

สำหรับภาพถ่ายที่ได้อาจจะไม่ดีนักเพราะว่า Lens ที่ใช้เป็น Lens 35-70mm ธรรมดาไม่ใช่ Telephoto Lens ทำให้ภาพดวงอาทิตย์มีขนาดเล็ก อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ได้เห็นด้วยตาตนเองนั้นน่าประทับใจกว่ามาก จึงอยากส่งเรื่องราวมาเผยแพร่ อย่างน้อยเป็นการเล่าสู่กันฟังครับ

9 Aug. 1999

วันนี้ออกเดินทางแล้ว แต่ตอนเช้ายังออกไปซื้อฟิล์มเพิ่มอีก 1 ม้วนพอ 11 โมงออกไปสนามบิน เครื่องของ Royal Jordanian ออกเวลา 14:30 บินไปยัง Amman พัก Transit 1 ชั่วโมงก่อนต่อไปยัง Tehran

10 Aug. 1999

ประมาณ 03:30 เวลาท้องถิ่นก็มาถึง Tehran ไปถามหาตั๋วเครื่องบินไป Esfahan ปรากฏว่าเต็มเลยเลือกไป Taxi เรียกราคา 50 US$ ทีแรกก็งงเพราะไม่เคยไป Taxi ใน ระยะทางไกลแบบนี้ แต่ดูแล้วน่าจะเร็วกว่าไปด้วยรถไฟหรือรถ Bus ก็เลยเอาก็เอา ระหว่างทาง ที่ผ่านไป 2 ข้างทางดูสวยแปลกตามาก บรรยากาศแห้งแล้งแบบทะเลทรายแต่ไม่ร้อนมาก เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ นั่งไปก็คุยกับคนขับไป คุยไปคุยมาทำท่าจะเรียกราคาเพิ่ม เจอเหลี่ยมตุกติกนักท่องเที่ยวเข้าแล้ว

ประมาณ 11 โมงก็มาถึง Esfahan ตกลงต้องจ่าย 55 US$ เป็นบทเรียนว่าเวลาเรียก Taxi ต้องจ่ายเงินที่ Counter ไม่อย่างนั้นต้องมานั่งต่อรองราคากับคนขับทีหลัง เข้า Check-in ที่ Azadi Hotel เรียบร้อยแล้วนอนพักเอาแรง พอช่วงบ่ายก็ออกมาเดินสำรวจดูสภาพบ้านเมือง ดูร่มรื่นไม่ร้อนเหมือนกรุงเทพฯ ดูคนอิหร่านขับรถกับข้ามถนนแล้วน่ากลัวกว่าบ้านเราแฮะ ไม่ค่อยมีวินัยเลย เจอคนญี่ปุ่นมากพอสมควรระหว่างที่เดินแสดงว่าสนใจดูสุริยุปราคากันมากเหมือนกัน อ่านใน Tenmon Guide วารสารดาราศาสตร์ญี่ปุ่นมีโฆษณาทัวร์ไปดู Solar Eclipse เยอะมาก

11 Aug. 1999

วันนี้วันสำคัญ ตอนเช้ามา Reconfirm ตั๋วเครื่องบินจาก Tehran ไป Amman กับ Amman มากรุงเทพฯ ยังไม่เรียบร้อยดี พรุ่งนี้ต้องมาใหม่ เสร็จแล้วเดินไป Imam square ใกล้กับ Bazaar ของเมือง ถ่ายรูปไปเยอะพอสมควร เจอวัยรุ่นนักเรียนอิหร่านมาคุยด้วยแล้วขอที่อยู่ เริ่มรู้สึกว่าคนอิหร่านมีอัธยาศัยดีเหมือนกัน ทำให้เรารู้สึกดี จาก Square ก็กลับโรงแรม ก่อนจะกลับออกมาอีกทีช่วงบ่าย เตรียมกล้อง ฟิล์ม ทุกอย่างเรียบร้อย มาที่สะพาน Sio se pol ทางทิศใต้ของเมืองระหว่างที่เดินมาเห็นพระอาทิตย์เริ่มแหว่งไปหน่อยแล้วเลยต้องรีบเดิน เดี๋ยวไม่ทัน

มาถึงที่แล้วก็ปักหลักดูบรรยากาศรอบ ๆ สภาพอากาศดีมาก ฟ้าโปร่งใส คนเยอะพอสมควร ทั้งที่อยู่บนสะพานและบริเวณรอบ ๆ ส่วนใหญ่ก็ส่องดูพระอาทิตย์กัน แต่บางคนก็มาเดินดูเรา มาถามว่ามาจากไหน มีคนนึงมาถามเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าใช่คนญี่ปุ่นหรือเปล่า เราฟังออกด้วยก็เลยไม่รู้จะตอบเป็นภาษาอะไรดี นึกแล้วก็ตลกดี ดูจากข้อมูลจะเกิด Maximum Eclipse ที่ Esfahan ตอนเวลาประมาณ 12:03 GMT เราก็รอไปเรื่อย ๆ

ก่อน Maximum eclipse ประมาณ 10 นาทีดูแสงสว่างลดลงไปมากและลดลงเรื่อย ๆ เป็นช่วงเวลาที่ต้องติดตามดู อย่างใกล้ชิด จนในที่สุดพระจันทร์ก็บังพระอาทิตย์จนหมด สภาพโดยรอบมืดสลัวมาก รถบนถนนต้องเปิดไฟ ถ่ายภาพตอน Maximum Eclipse ไป 6 ภาพ เปิดหน้ากล้องเต็มที่ shutter 1,1/2 และ1/4 แต่ละความเร็ว shutter ถ่าย 2 รูป ยังนึกเสียดายที่ได้ดูด้วยตาเปล่าแค่ประเดี๋ยวเดียว เป็นภาพที่สวยงามมาก มองเห็น prominence เป็นสีแดงออกชมพูอยู่เกือบรอบดวงอาทิตย์ เส้นสาย corona เป็น Loop ดูแปลกตา ยืนยันได้ว่ามองเห็นรายละเอียดของ Corona ครบถ้วนและสวยงามกว่าในทุกรูปภาพที่เคยเห็นมา นึกแล้วยังประทับใจอยู่มากจริง ๆ นึกไปนึกมา นี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ได้เห็นสุริยุปราคาแบบเต็มดวง First in my life ! เพราะครั้งก่อนในเมืองไทย 24 ตุลาคม 2538 พลาดไป

ช่วงเวลา Total Eclipse ประมาณ 1 นาทีเศษ หลังจากนั้นพระจันทร์ก็เริ่มเคลื่อนออก แสงสว่างกลับมาอีกครั้ง เป็นขั้นตอนกลับกันกับช่วงก่อน Maximum Eclipse ระหว่างนี้เจอคน Afghanis มาทักทายถามว่ามาจากไหน พอบอกว่ามาจาก Thailand ทุกคนต่างก็ทำหน้างงไม่รู้จักแต่ดูสนใจเรามาก ก็เลยแลกเปลี่ยนที่อยู่กันไว้ แล้วถ่ายรูปกันไว้เป็นที่ระลึกด้วย เสร็จเรียบร้อยแล้วก็แยกย้ายกันกลับ เราว่าจะไปจองตั๋วรถไฟแต่เดินหาไม่เจอเอาไว้พรุ่งนี้มาใหม่ ลองแหงนมองพระอาทิตย์อีกที ระหว่างนี้เป็น Partial Eclipse ปรากฏว่ามีเมฆบางบังดวงอาทิตย์อยู่

12 Aug. 1999

ตอนเช้ามา Confirm ตั๋วอีกครั้งเสร็จเรียบร้อยจ่ายค่าธรรมเนียมไป 10000 Rials (1 US$ = 7500 Rials) แล้วมาซิ้อตั๋วรถไฟได้เที่ยว 4 ทุ่มคืนพรุ่งนี้ ไปถึง Tehran เช้าวันเสาร์ กลางวันมาที่ Imam square อีก ถ่ายรูปจนถึงเย็นก่อนกลับโรงแรม

13 Aug. 1999

วันนี้สบาย ๆ เตรียมตัวกลับแล้ว ตอนสายยังมาที่ Imam square อีก แล้วกลับโรงแรม Check-out ตอนบ่าย 2 แล้วนั่งรออยู่ที่โรงแรม พอ 1 ทุ่มมาขึ้นรถหน้า Kosar hotel ไปที่สถานีรถไฟ ระหว่างรอรถไฟออกก็ได้เพื่อนใหม่ชาวอิหร่านอีก 1 คน พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่ก็ไม่เป็นปัญหานัก ชวนกินข้าวด้วย เพิ่งได้เห็นว่าคนอิหร่านกินข้าวก็วันนี้แหละ

4 ทุ่มรถไฟออก เป็นตู้นอน 1 ตู้นอนได้ 6 คน เป็นเตียงพับ 2 แถว แต่ละแถวมี 3 ชั้น มีเพื่อนของเพื่อนใหม่คนเมื่อกี้นอนอยู่เตียงข้างๆ คอยดูแล ประทับใจกับคนอิหร่านมาก

14 Aug. 1999

ประมาณ 6 โมงครึ่ง รถไฟมาถึง Tehran ดูเวลาแล้วไม่ค่อยน่าไว้ใจเหมือนกัน ออกมาพ้นสถานีได้ก็รีบเรียก Taxi ไปสนามบิน จ่ายไป 20000 Rials ปรากฏว่าดันพาเราไปส่งที่ Domestic Terminal ต้องเรียก Taxi ย้อนกลับมาที่ International Terminal จ่ายไปอีก 20000 Rials ดูเวลาแล้ว 07:35 ! รีบเข้าไปข้างใน ที่ Counter check-in ตั๋วบอกว่าหมดเวลาแล้ว เราเลยลุยไปที่ตรวจ passport เลย หวังว่าคงไม่ขอดู Boarding pass พอผ่านไปได้รีบวิ่งไปที่ gate ขึ้นเครื่องแต่ผลสุดท้ายก็ไม่ทัน เป็นอันว่าตกเครื่องบินในต่างแดนเป็นครั้งแรกในชีวิต เรื่องมันเศร้า

หลังจากรู้ว่าไปไม่ทันแน่ ๆ ก็ต้องออกมา Cancel ตราประทับใน Passport แล้วเข้ามาในตัวเมือง Tehran ที่สำนักงานของ Royal Jordanian Airline เพื่อดูว่าทำอย่างไรได้บ้าง ตรวจดูแล้วตั๋วนี้คืนไม่ได้ ถ้าจะเลื่อนไป Flight ถัดไปจะกลับถึงกรุงเทพฯ ในตอนบ่ายวันพฤหัสที่ 19 สิงหาฯ ไม่ไหวช้าเกินไป เสร็จแล้วลองไปปรึกษาบริษัท Agency ที่อยู่ตึกเดียวกันเรื่อง Flight อื่นที่บินมากรุงเทพได้เร็วที่สุด มีของ Emirate Air ถึงกรุงเทพเที่ยงวันอังคารที่ 17 สิงหาฯ คิดหนักเหมือนกันเพราะต้องจ่ายเพิ่มอีก 20,000 กว่าบาท แต่ท้ายที่สุดก็วิ่งไปซื้อตั๋วที่ office ของ Emirate Air ได้ที่นั่ง Business Class ด้วยจ่ายไป 633 US$ !

เรียบร้อยเรื่องตั๋วแล้วก็กลับมาที่ Royal Jordanian มารับกระเป๋าที่ฝากไว้แล้วไป Check-In ที่ Tehran Grand Hotel ใกล้ ๆ กันนั่นเอง ราคาคืนละ 57 US$ งบประมาณบานปลายกระเป๋าฉีก สภาพห้องที่นี่ดีกว่า Azadi Hotel ที่ Esfahan เยอะแถมราคาถูกกว่าด้วย จะต้องพักที่นี่ 2 คืน เพราะ Flight ของ Emirate Air ออกวันจันทร์ที่ 16 สิงหาฯ เสื้อผ้าเลยไม่ต้องเอาออกจากกระเป๋าทั้งหมด ตอนเย็นลงไปเดินดูรอบ ๆ โรงแรม ซื้อผลไม้ไว้กินบ้าง ดูผู้คนจะไม่จ้องมองเรามากเหมือนที่ Esfahan

15 Aug. 1999

วันนี้ก็ Free Style รอเวลากลับบ้านวันพรุ่งนี้ ตอนเช้าลงไปกิน Breakfast เสร็จแล้วก็สำรวจบ้านเมืองอีกตามเคยแต่คนละเส้นทางกับเมื่อวาน ประมาณ 1 ชั่วโมงก็กลับโรงแรม ซื้อหนังสือพิมพ์กลับมาอ่าน จากนั้นก็อยู่โรงแรมทั้งวัน อ่านหนังสือบ้าง ดู T.V. บ้าง ตอนเย็นสั่งอาหารจากโรงแรมขึ้นมากิน เพิ่งได้กินข้าวเป็นครั้งแรกในอิหร่านก็วันนี้ รู้สึกอิ่มดีเหลือเกิน ก่อนนอนเตรียมจัดกระเป๋าเรียบร้อย พรุ่งนี้จะได้ไม่ช้า

16 Aug. 1999

08:00 ลงไป Check-out จ่ายเงินไป 100 กว่า US$ แล้วนั่ง Taxi มาสนามบิน ปรากฏว่าคนเยอะมาก ต้องลงจากรถแล้วเดินต่อเข้าไป ผ่านขั้นตอนแบบเดิม ๆ ตอนตรวจ Passport เจ้าหน้าที่จะไม่ยอมให้ผ่านเพราะอยู่เกิน 5 วันตามที่ขอ Visa ไว้ ไปคุยอะไรกันอยู่พักนึงแล้วก็ยอมประทับตราให้ จำไว้คราวหน้าขอ Visa ต้องระบุวันที่พักเกินจริงไว้สักหน่อยเพื่อฉุกเฉินต้องอยู่ค้างต่อแบบนี้

ตอนขึ้นเครื่องเจอคนอิหร่านมาทัก พูดภาษาไทยได้ด้วยเป็นผู้หญิงบอกว่าทำงานอยู่เมืองไทยนานแล้ว แหมรู้สึกดีใจจังเพราะไม่ได้พูดไทยมาหลายวัน ลูกสาวเขาพูดเก่งชวนเราคุยตลอดจนมาถึง Dubai แล้วถึงแยกกันไป เราก็แยกมารอรถจาก Le Meridian Hotel ที่ทางสายการบินจัดให้พักสำหรับ Transit Passenger เป็นโรงแรมหรูหรามากระดับ 5 ดาวเลยทีเดียวในความรู้สึกของเรา รายการโทรทัศน์มี 20 กว่าช่องดูกันเพลิน ประมาณ 2 ทุ่มลงมา Dinner ที่ห้องอาหารข้างล่าง แล้วกลับขึ้นไปพักผ่อนต่อ จนเที่ยงคืนลงมา Check -Out แล้วไปสนามบิน ได้นั่ง Benz Limousine ทั้งไปทั้งกลับเลย ถึงสนามบินก็แวะร้าน duty-free ซื้ออินทผลัมนิดหน่อยกลับบ้าน คนเยอะมากที่สนามบิน นั่งนอนกันเหมือนกับหมอชิตบ้านเราเลย เราก็มานั่งรอใน Business Class Lounge เวลาเครื่องขึ้นคือตี 3 วันพรุ่งนี้

17 Aug. 1999

เตรียมตัวจะขึ้นเครื่องก็เจอเรื่องล่าช้าอีก เจ้าหน้าที่บอกว่า เครื่อง Delay ประมาณ 2 ชั่วโมง จะขึ้นเวลา 05:15 เราก็มานั่งรอต่อ อีก 2 ชั่วโมงต่อมาก็ไปขึ้นเครื่อง ขึ้นไปนั่งบนเครื่องแล้ว Hostess แจกน้ำดื่ม แต่เครื่องก็ยังไม่ขึ้น เสียง Captain แจ้งมาเป็นระยะ ๆ ว่ากำลังแก้ไขเครื่อง แล้วท้ายที่สุดก็ต้องกลับลงไปที่ห้องพักต่อ น่าอารมณ์เสียอยู่เหมือนกัน เป็นอันว่ากลับถึงกรุงเทพไม่ทันช่วงบ่ายแน่นอน

มารอต่อใน Business Class Lounge เจ้าหน้าที่บอกว่าเวลาเครื่องขึ้นคือ 10:30 เวลาที่ Dubai ก็แสดงว่าถึงกรุงเทพประมาณ 2 ทุ่ม ก็ยังดี ตอนนั้นคิดถึงบ้านมาก พอถึงเวลาก็มาขึ้นเครื่องอีกที คราวนี้ไม่มีปัญหา บริการบนเครื่องดีมาก Hostess เป็นฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษเร็วจนบางทีฟังไม่ทัน รายการอาหารก็ดีมาก ประทับใจ

ประมาณ 19:40 เครื่องก็ลงจอดที่กรุงเทพ ตรวจ Passport รับกระเป๋าด้วยความรวดเร็ว ไม่มีปัญหาอะไร เป็นอันจบไปอีก 1 Trip ปัญหามีอยู่บ้างแต่มาคิดทีก็เรื่องธรรมดา Total Solar Eclipse ครั้งต่อไปเดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2544 ต้องไปที่ Africa ! จะเป็นอย่างไรก็ต้องวางแผนกันต่อไป ครั้งนี้ Bye Bye







วิมุติ วสะหลาย [wimut@hotmail.com]