ดาวหางฮาร์ตลีย์ (103P/Hartley)
ดาวหางเป็นวัตถุขนาดเล็ก รูปร่างไม่แน่นอน นิวเคลียสหรือใจกลางดาวหางโดยทั่วไปมีขนาดเล็กกว่า 10 กิโลเมตร ประกอบด้วยน้ำแข็ง คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และแอมโมเนีย ปะปนอยู่กับฝุ่นและหิน ขณะที่ดาวหางอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มันจะมีปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อยและจางมาก แสงส่วนใหญ่ที่สังเกตได้เกิดจากการสะท้อนแสงอาทิตย์ เมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ภายในระยะ 5 หน่วยดาราศาสตร์ รังสีความร้อนจะทำให้น้ำแข็งระเหิด นำพาฝุ่น แก๊ส และโมเลกุลต่าง ๆ พุ่งออกมา เกิดเป็นหัวดาวหางหรือโคม่า (coma) มีลักษณะเป็นทรงกลมล้อมรอบนิวเคลียส ฝุ่นและแก๊สเหล่านี้พุ่งออกมาจากพื้นผิวด้านที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ จากนั้นลมสุริยะจะทำให้เกิดหาง โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้เป็น 2 หาง คือหางแก๊สหรือหางพลาสมา หางอีกชนิดคือหางฝุ่น
หางแก๊สประกอบด้วยอนุภาคมีประจุไฟฟ้ามันได้รับอิทธิพลจากสนามแม่เหล็กในลมสุริยะ จึงพุ่งไปตรง ๆ ในทิศทางตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ หางฝุ่นสะท้อนแสงอาทิตย์จึงมีสีเหลือง แรงที่ผลักหางฝุ่นคือแรงดันจากการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ หางฝุ่นมักทอดยาวเป็นแนวโค้ง แผ่กว้างและแบน ฝุ่นที่ถูกทิ้งไว้ในอวกาศเรียกว่าสะเก็ดดาว ซึ่งหากแนวการเคลื่อนที่ของมันผ่านใกล้วงโคจรโลกจะทำให้เกิดฝนดาวตก
ดาวหาง103 พี/ฮาร์ตลีย์ (103P/Hartley) หรือชื่อเดิมฮาร์ตลีย์ 2 (Hartley 2) ซึ่งต่อไปนี้จะขอเรียกว่าดาวหางฮาร์ตลีย์ กำลังจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์และใกล้โลกที่สุดในเดือนตุลาคม 2553 คาดว่าสามารถสังเกตการณ์ได้ด้วยกล้องสองตาและกล้องโทรทรรศน์
มัลคอล์มฮาร์ตลีย์ (Malcolm Hartley) ค้นพบดาวหางฮาร์ตลีย์เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2529 จากภาพถ่ายที่หอดูดาวไซดิงสปริง ประเทศออสเตรเลีย นับเป็นเวลา 9 เดือน หลังจากดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในปี 2528 ดาวหางดวงนี้เป็นดาวหางรายคาบ (คาบการโคจรต่ำกว่า 200 ปี) ปี 2528 ดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดด้วยระยะห่าง 0.952 หน่วยดาราศาสตร์ ซึ่งใกล้กว่าวงโคจรโลก แต่หลังจากที่ดาวหางผ่านใกล้ดาวพฤหัสบดีในช่วงปลายปี 2536 ถึงต้นปี 2537 (ใกล้ที่สุดวันที่ 19 ธันวาคม 2536 ห่าง 0.374 หน่วยดาราศาสตร์) อิทธิพลแรงโน้มถ่วงจากดาวเคราะห์ยักษ์ทำให้จุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวหางฮาร์ตลีย์ในปี 2540 ขยับออกไปอยู่นอกวงโคจรโลกที่ระยะ 1.032 หน่วยดาราศาสตร์
ดาวหางฮาร์ตลีย์ในปี
ปีนี้ดาวหางฮาร์ตลีย์จะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 28 ตุลาคม 2553 วงโคจรในขณะนั้นมีจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด (perihelion) อยู่ห่าง 1.059 หน่วยดาราศาสตร์ จุดไกลดวงอาทิตย์ที่สุด (aphelion) อยู่ห่าง 5.886 หน่วยดาราศาสตร์ ไกลกว่าวงโคจรของดาวพฤหัสบดีเล็กน้อย คาบการโคจรยาวนาน 6.47 ปี
ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับการสังเกตดาวหางดวงนี้นับตั้งแต่มันถูกค้นพบข้อมูลจากนาซาระบุว่าดาวหางฮาร์ตลีย์จะเข้าใกล้โลกที่สุดในวันที่ 20 ตุลาคม 2553 เวลา 17:26 น. ตามเวลาสากล (ช้ากว่าเวลาประเทศไทย 7 ชั่วโมง) ด้วยระยะห่างเพียง 0.1209 หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณ 47 เท่าของระยะทางเฉลี่ยระหว่างโลกกับดวงจันทร์
จากวงโคจรและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความสว่างของดาวหางฮาร์ตลีย์ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะห่างของดาวหางจากโลกและดวงอาทิตย์ข้อมูลจากสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลคาดหมายว่าดาวหางฮาร์ตลีย์จะสว่างที่สุดในปลายเดือนตุลาคมด้วยโชติมาตร 4.4 แต่ค่านี้อาจคลาดเคลื่อนได้ เนื่องจากดาวหางมีรูปแบบการเปลี่ยนแปลงความสว่างที่ไม่สามารถคาดหมายอย่างแม่นยำได้ ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2553 ดาวหางฮาร์ตลีย์มีความสว่างจางกว่าที่คาดไว้มากถึง 2-3 โชติมาตร อย่างไรก็ตาม ต้นเดือนตุลาคม ดาวหางฮาร์ตลีย์ได้กลับมาสว่างเกือบใกล้เคียงกับที่คาดไว้แล้ว
ตุลาคม
คืนวันที่ 6 ตุลาคม ดาวหางออกจากกลุ่มดาวแคสซิโอเปีย เข้าสู่กลุ่มดาวเพอร์ซิอัส อาจสว่างที่โชติมาตร 5 หรือ 6 วันที่ 8 ตุลาคม เป็นคืนที่น่าสนใจ ดาวหางจะผ่านใกล้กระจุกดาวคู่ (Double Cluster) ซึ่งประกอบด้วยกระจุกดาวเปิด 2 กระจุก อยู่ใกล้กัน สามารถสังเกตดาวหางได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 3 ทุ่ม เรื่อยไปจนถึงตี 5 ของเช้าวันถัดไป โดยดาวหางฮาร์ตลีย์จะขึ้นไปถึงสูงสุดบนท้องฟ้าทางทิศเหนือด้วยมุมเงยประมาณ 40-50 องศา ในเวลาตี 1 ครึ่ง
หลังจากวันที่8 ตุลาคม ถ้าเรากำหนดให้มุมเงย 30 องศา เป็นมุมเงยต่ำสุดที่ยอมรับได้ และต้องไม่มีแสงจันทร์รบกวน เวลาที่เหมาะกับการสังเกตดาวหางจะช้าลงเรื่อย ๆ คืนวันที่ 10 ตุลาคม สังเกตได้ตั้งแต่ 4 ทุ่ม เป็นต้นไป วันที่ 14 ตุลาคม สังเกตได้ตั้งแต่ 5 ทุ่ม วันที่ 15 ตุลาคม สังเกตได้ตั้งแต่เที่ยงคืน
วันที่16 ถึง 20 ตุลาคม การสังเกตดาวหางฮาร์ตลีย์ทำได้ดีที่สุดในเวลาประมาณ 03:30 น. ถึง 04:30 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดาวหางอยู่สูงบนท้องฟ้าทิศเหนือ ท้องฟ้ายังมืดอยู่ และไม่มีแสงจันทร์รบกวน ช่วงดังกล่าวคาดว่าความสว่างของดาวหางฮาร์ตลีย์จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักที่โชติมาตร 5 ความสว่างระดับนี้ คนที่อยู่ห่างจากตัวเมือง ไม่มีแสงไฟฟ้าและมลพิษรบกวน อาจเห็นดาวหางด้วยตาเปล่าเป็นดวงฝ้าจาง ๆ โดยต้องรู้ตำแหน่งดาวหางจากแผนที่ดาว
เช้ามืดวันที่22 ตุลาคม ดาวหางฮาร์ตลีย์สว่างและใกล้โลกที่สุด ขณะนั้นมันอยู่ในกลุ่มดาวสารถี ห่างกระจุกดาวเอ็ม 36 และเอ็ม 38 ราว 3 องศา แต่เป็นช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวง อาจพอที่จะสังเกตได้ในช่วง 04:30 น. ถึง 05:00 น. ซึ่งดาวหางจะอยู่สูงบนท้องฟ้าทิศเหนือด้วยมุมเงยประมาณ 65 องศา และเป็นเวลาที่ดวงจันทร์ใกล้จะตก ตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันที่ดาวหางฮาร์ตลีย์ใกล้โลกที่สุด การสังเกตดาวหางจะมีอุปสรรคจากแสงจันทร์ ดาวหางน่าจะกำลังค่อย ๆ ลดความสว่างลง ปลายเดือนเข้าสู่กลุ่มดาวคนคู่
หางแก๊สประกอบด้วยอนุภาคมีประจุไฟฟ้า
ดาวหาง
มัลคอล์ม
ดาวหางฮาร์ตลีย์ในปี 2553
ปีนี้ดาวหางฮาร์ตลีย์จะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดสำหรับการสังเกตดาวหางดวงนี้นับตั้งแต่มันถูกค้นพบ
จากวงโคจรและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงความสว่างของดาวหางฮาร์ตลีย์ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะห่างของดาวหางจากโลกและดวงอาทิตย์
ตุลาคม 2553
คืนวันที่ หลังจากวันที่
กระจุกดาวคู่ซึ่งประกอบด้วยกระจุกดาว NGC 884 กับ NGC 869 (ทางซ้ายและขวา - ภาพนี้ทิศเหนืออยู่ด้านบน) แต่ละกระจุกมีโชติมาตร 4 เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณครึ่งองศา ศูนย์กลางของแต่ละกระจุกอยู่ห่างกันครึ่งองศา ดาวหางฮาร์ตลีย์จะอยู่ใกล้กระจุกดาวคู่ในคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2553 (ภาพ - Andrew Cooper)
วันที่
เช้ามืดวันที่