ครั้งหนึ่ง เอลลิสัน โอะนิซุกะ นักบินอวกาศอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น ได้เตรียมการเดินทางขึ้นสู่อวกาศ นอกเหนือจากภารกิจทางการที่ต้องทำแล้ว เขายังมีภารกิจส่วนตัวอีกอย่างหนึ่ง คือการนำความฝันของสมาชิกชมรมฟุตบอลโรงเรียนเคลียร์เลกไฮสกูลซึ่งลูกสาวเขาเรียนอยู่ขึ้นไปด้วย ตัวแทนความฝันของเด็ก ๆ ที่เขานำขึ้นไปนั้นคือลูกฟุตบอลที่มีลายเซ็นของสมาชิกทีมอยู่
ลูกบอลนั้นไปไม่ถึงอวกาศเพราะยานที่โอะนิซุกะขึ้นไปคือกระสวยอวกาศ แชลเลนเจอร์ เที่ยวบิน เอสทีเอส-51-แอล เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2539 ซึ่งยานได้ระเบิดหลังจากที่ขึ้นจากแท่นปล่อยเพียง 73 วินาที ชีวิตลูกเรือทั้งหมดต้องดับสูญไปพร้อมกับความฝันของเด็ก ๆ
หนึ่งในเศษซากที่เจ้าหน้าที่กู้กลับขึ้นมาได้คือลูกฟุตบอลของโอะนิซุกะ จากนั้นลูกฟุตบอลลูกนั้นได้ถูกส่งกลับไปยังโรงเรียนเดิมและถูกตั้งแสดงไว้นับจากนั้น
ผ่านมา31 ปี รอเบิร์ต เชน คิมโบร นักบินอวกาศนาซา ซึ่งมีลูกชายเรียนอยู่ที่โรงเรียนเคลียร์เลกเหมือนกันได้รับรู้เรื่องราวของลูกฟุตบอลลูกนั้น จึงอยากสานต่อภารกิจที่คั่งค้าง ด้วยการนำมันขึ้นสู่อวกาศอีกครั้ง คิมโบรได้นำลูกฟุตบอลนี้ขึ้นไปพร้อมกับภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และเพิ่งเผยแพร่ภาพถ่ายทางทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพเป็นลูกฟุตบอลเก่าคร่ำมีลายเซ็นลอยอยู่ในห้องทดลองสถานี เบื้องหลังคือหน้าต่างที่มองเห็นภาพโลกอยู่ข้างนอก
ฝันของนักฟุตบอลโรงเรียนเคลียร์เลกและภารกิจโอะนิซุกะได้เป็นจริงในที่สุด
ลูกบอลนั้นไปไม่ถึงอวกาศ
หนึ่งในเศษซากที่เจ้าหน้าที่กู้กลับขึ้นมาได้คือ
ผ่านมา
ฝันของนักฟุตบอลโรงเรียนเคลียร์เลกและภารกิจโอะนิซุกะได้เป็นจริงในที่สุด