สนามแม่เหล็กโลกเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาล ไม่เพียงแค่ทำให้เข็มทิศชี้ไปทางทิศเหนือเท่านั้น แต่สนามแม่เหล็กโลกช่วยปกป้องโลกจากรังสีคอสมิกพลังงานสูงจากอวกาศไม่ให้กร้ำกรายเข้ามาทำอันตรายสิ่งมีชีวิตบนโลกได้ หากโลกปราศจากสนามแม่เหล็กแล้ว สิ่งมีชีวิตบนโลกรวมทั้งคนคงต้องตายหมดอย่างแน่นอน
แต่สนามแม่เหล็กโลกไม่ใช่สิ่งคงที่ตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์โลก สนามแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีทั้งเข้มขึ้น อ่อนลง เลื่อนขั้ว จนถึงขั้นสลับทิศ ช่วงเวลา 400 ล้านปีที่ผ่านมา สนามแม่เหล็กโลกเคยสลับขั้วมาแล้วนับร้อยครั้ง และอ่อนกำลังลงราว 5 เปอร์เซ็นต์ต่อศตวรรษ การสลับขั้วได้ว่างเว้นมานานมากแล้ว ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อราว 73,000 ปีที่แล้วซึ่งนับเป็นการเว้นช่วงที่ยาวนานที่สุด บางทีอาจโลกอาจใกล้ถึงเวลาสลับขั้วอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
การสลับขั้วแม่เหล็กแต่ละครั้งกินเวลาหลายพันปีช่วงเวลานี้สนามแม่เหล็กจะอ่อนกำลังลงและปั่นป่วนไร้ระเบียบ จนอาจเผยจุดอ่อนให้อนุภาคอันตรายจากอวกาศบุกรุกเข้ามาถึงโลกได้
อย่างนี้หากสนามแม่เหล็กโลกเกิดสลับขั้วพรุ่งนี้มะรืนนี้ขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไรดี?
คำอธิบายล่าสุดจากนักวิทยาศาสตร์คงช่วยให้เย็นใจได้
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเก. เท. เบียร์ค และ ฮา. เลช จากสถาบันดาราศาสตร์และฟิสิกส์ดาราศาสตร์มิวนิก และ เซ. คอน จากสถาบันฟิสิกส์พลาสมามักซ์พลังค์ ได้รายงานผลการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้และอธิบายว่า เมื่อสนามแม่เหล็กโลกอ่อนกำลังลงหรือสูญหายไป สนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ที่ถูกพัดพามากับลมสุริยะจะทำปฏิกิริยากับบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ของโลกและคลุมโลกเอาไว้ ปรากฏการณ์นี้พบเห็นได้ในดาวศุกร์และดาวหาง นอกจากนั้นยังพบว่า การเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างลมสุริยะกับไอโอโนสเฟียร์ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กขึ้นในไอโอโนสเฟียร์เองและมีความเข้มมากพอๆ กับสนามแม่เหล็กโลกในปัจจุบันเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าแม้สนามแม่เหล็กโลกจะสูญหายไปจนหมด สิ่งมีชีวิตบนโลกก็ยังคงปลอดภัยจากเกราะชั้นที่สองซึ่งก็คือไอโอโนสเฟียร์นั่นเอง
แต่สนามแม่เหล็กโลกไม่ใช่สิ่งคงที่
การสลับขั้วแม่เหล็กแต่ละครั้งกินเวลาหลายพันปี
อย่างนี้หากสนามแม่เหล็กโลกเกิดสลับขั้วพรุ่งนี้มะรืนนี้ขึ้นมาจริง
คำอธิบายล่าสุดจากนักวิทยาศาสตร์คงช่วยให้เย็นใจได้
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน