สมาคมดาราศาสตร์ไทย

สุริยุปราคาวงแหวน 26 ธันวาคม 2562

สุริยุปราคาวงแหวน 26 ธันวาคม 2562

24 พฤศจิกายน 2562
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 26 ธันวาคม 2562
โดย: วรเชษฐ์ บุญปลอด
     ถ่ายทอดสด สุริยุปราคาวงแหวน จาก อูตี้ ประเทศอินเดีย โดยทีมงานสมาคมดาราศาสตร์ไทย

     วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2562 เกิดสุริยุปราคาวงแหวน ดวงจันทร์อยู่ห่างโลกจนมีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ บังดวงอาทิตย์ไม่มิด มีลักษณะปรากฏคล้ายวงแหวน เราเห็นสุริยุปราคาชนิดนี้ได้เมื่ออยู่ในแนวเส้นทางแคบ ๆ ตามศูนย์กลางเงาดวงจันทร์ที่ลากผ่านผิวโลก สุริยุปราคาครั้งนี้แนวคราสวงแหวนเริ่มต้นในตะวันออกกลาง ผ่านซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน จากนั้นลงสู่ทะเลอาหรับ


     แนวคราสวงแหวนเคลื่อนผ่านอินเดียและศรีลังกา หลังจากผ่านมหาสมุทรอินเดียจะไปขึ้นฝั่งที่อินโดนีเซีย ผ่านมาเลเซีย สิงคโปร์ ทางใต้สุดของเกาะมินดาเนาในฟิลิปปินส์ สิ้นสุดในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยผ่านเกาะกวม จุดกลางคราสของสุริยุปราคาวงแหวนครั้งนี้อยู่ในทะเลใกล้อินโดนีเซียและสิงคโปร์ ที่นั่นเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนาน นาที 40 วินาที (สิงคโปร์อยู่ในแนวที่ขอบเขตด้านทิศเหนือของแนวคราสวงแหวนลากผ่าน จะเห็นสุริยุปราคาวงแหวนได้ก็ต่อเมื่ออยู่ทางตอนใต้ของเกาะ หากอยู่ทางตอนเหนือจะเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน) สำหรับที่จุดเริ่มต้นและสิ้นสุดของแนวคราสเกิดสุริยุปราคาวงแหวนนานประมาณ นาที

     สุริยุปราคาครั้งนี้เงามัวของดวงจันทร์สัมผัสผิวโลกระหว่างเวลา 09:30 15:06 น. ตามเวลาประเทศไทย ศูนย์กลางเงาที่ทำให้เกิดคราสวงแหวนสัมผัสผิวโลกระหว่างเวลา 10:36 13:59 น. บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วน ได้แก่ ตะวันออกกลาง ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกา ส่วนใหญ่ของเอเชียและมหาสมุทรอินเดีย บางส่วนทางเหนือและตะวันตกของออสเตรเลีย ด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก

ขั้นตอนการเกิดสุริยุปราคา 26 ธันวาคม 2562
เหตุการณ์เวลาพิกัด
1. เงามัวเริ่มสัมผัสผิวโลก09:29:51.0ละติจูด 17° 47.3′ ลองจิจูด 60° 33.8′ E
2. ศูนย์กลางเงาคราสวงแหวนเริ่มสัมผัสผิวโลก10:36:03.8ละติจูด 25° 59.1′ ลองจิจูด 48° 12.3′ E
3. กึ่งกลางคราส (ขนาดอุปราคา 0.97010)12:17:43.3ละติจูด 1° 00.5′ ลองจิจูด 102° 14.9′ E
4. ศูนย์กลางเงาคราสวงแหวนออกจากผิวโลก13:59:25.5ละติจูด 18° 54.0′ ลองจิจูด 156° 42.4′ E
5. เงามัวออกจากผิวโลก15:05:43.5ละติจูด 10° 37.3′ ลองจิจูด 143° 59.8′ E


     ประเทศไทยสามารถสังเกตสุริยุปราคาในวันนี้ได้โดยเห็นเป็นแบบบางส่วน คือ ดวงอาทิตย์แหว่งเนื่องจากถูกดวงจันทร์บังไปบางส่วน โดยต้องใช้แผ่นกรองแสงสำหรับดูดวงอาทิตย์ เส้นทางคราสวงแหวนอยู่ห่างไปทางทิศใต้ของประเทศไทย ภาคใต้จึงเห็นดวงอาทิตย์แหว่งลึกมากกว่าภาคอื่น กรุงเทพฯ เกิดสุริยุปราคาบางส่วนระหว่างเวลา 10:18 – 13:58 น. ดวงอาทิตย์แหว่งลึกที่สุดในเวลา 12:05 น. โดยดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์ไปเป็นสัดส่วน ใน วัดตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลาง หรือคิดเป็นพื้นที่ 57% ของวงกลมดวงอาทิตย์

ภาพจำลองสุริยุปราคาขณะดวงอาทิตย์ถูกบังลึกที่สุด (เวลาประเทศไทย) 

     ตารางต่อไปนี้แสดงผลการคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเมื่อสังเกตที่กรุงเทพฯ และอำเภอเมืองของทุกจังหวัด

ขั้นตอนการเกิดสุริยุปราคา 26 ธันวาคม 2562
สถานที่ เริ่ม บังเต็มที่ สิ้นสุด
เวลามุมเงยเวลามุมเงยมุมทิศขนาดพื้นที่เวลามุมเงย
กระบี่10:12 45°12:02 58° 170° 0.811  75.2%14:00 51°
กรุงเทพมหานคร10:18 43°12:05 53° 175° 0.659  56.8%13:58 46°
กาญจนบุรี10:16 42°12:02 52° 172° 0.658  56.7%13:54 46°
กาฬสินธุ์10:30 44°12:17 50° 184° 0.583  48.0%14:03 41°
กำแพงเพชร10:18 40°12:01 50° 172° 0.599  49.9%13:50 45°
ขอนแก่น10:28 43°12:14 50° 182° 0.585  48.2%14:01 42°
จันทบุรี10:23 45°12:12 54° 180° 0.680  59.3%14:05 45°
ฉะเชิงเทรา10:20 43°12:08 53° 177° 0.657  56.6%14:00 45°
ชลบุรี10:20 44°12:07 53° 177° 0.666  57.6%14:00 45°
ชัยนาท10:18 41°12:03 51° 174° 0.626  53.0%13:54 45°
ชัยภูมิ10:25 43°12:11 51° 180° 0.603  50.2%14:00 43°
ชุมพร10:13 43°12:02 56° 171° 0.747  67.4%13:58 49°
เชียงราย10:23 38°12:01 47° 173° 0.519  40.8%13:45 42°
เชียงใหม่10:19 38°11:58 47° 171° 0.549  44.1%13:44 44°
ตรัง10:14 46°12:05 59° 172° 0.820  76.4%14:02 51°
ตราด10:24 46°12:14 54° 181° 0.687  60.2%14:06 45°
ตาก10:17 39°11:59 49° 171° 0.592  49.0%13:48 45°
นครนายก10:21 43°12:08 52° 177° 0.644  55.1%13:59 45°
นครปฐม10:17 42°12:04 53° 174° 0.659  56.9%13:56 46°
นครพนม10:36 44°12:21 49° 187° 0.557  45.1%14:05 39°
นครราชสีมา10:24 44°12:11 52° 180° 0.622  52.5%14:01 43°
นครศรีธรรมราช10:15 46°12:06 58° 174° 0.795  73.3%14:03 50°
นครสวรรค์10:19 41°12:03 51° 174° 0.614  51.6%13:53 45°
นนทบุรี10:18 43°12:05 53° 175° 0.657  56.6%13:58 46°
นราธิวาส10:20 49°12:14 60° 180° 0.839  78.7%14:10 49°
น่าน10:24 40°12:05 48° 176° 0.539  43.0%13:50 42°
บึงกาฬ10:33 43°12:16 48° 184° 0.538  42.9%14:00 40°
บุรีรัมย์10:28 45°12:16 52° 183° 0.618  52.0%14:04 42°
ปทุมธานี10:19 43°12:05 53° 175° 0.652  56.0%13:57 45°
ประจวบคีรีขันธ์10:15 43°12:03 55° 173° 0.710  62.9%13:58 48°
ปราจีนบุรี10:21 43°12:09 53° 178° 0.647  55.5%14:00 45°
ปัตตานี10:18 48°12:11 60° 178° 0.830  77.6%14:08 49°
พระนครศรีอยุธยา10:19 42°12:05 52° 175° 0.644  55.1%13:57 45°
พะเยา10:22 39°12:01 47° 173° 0.535  42.5%13:46 43°
พังงา10:11 44°12:00 58° 169° 0.803  74.3%13:58 51°
พัทลุง10:15 47°12:06 59° 174° 0.816  75.8%14:04 50°
พิจิตร10:20 41°12:04 50° 175° 0.595  49.4%13:53 44°
พิษณุโลก10:20 40°12:03 50° 174° 0.587  48.4%13:52 44°
เพชรบุรี10:16 43°12:03 53° 173° 0.678  59.0%13:57 47°
เพชรบูรณ์10:23 42°12:07 50° 177° 0.592  49.0%13:56 43°
แพร่10:21 40°12:02 48° 174° 0.557  45.0%13:49 43°
ภูเก็ต10:10 44°12:00 58° 168° 0.819  76.2%13:58 52°
มหาสารคาม10:29 44°12:16 50° 183° 0.589  48.7%14:03 41°
มุกดาหาร10:35 45°12:21 50° 187° 0.578  47.4%14:07 40°
แม่ฮ่องสอน10:16 37°11:54 47° 168° 0.545  43.6%13:40 44°
ยโสธร10:32 45°12:19 51° 186° 0.596  49.5%14:06 41°
ยะลา10:18 49°12:12 60° 178° 0.838  78.6%14:09 49°
ร้อยเอ็ด10:30 44°12:17 51° 184° 0.591  48.9%14:04 41°
ระนอง10:11 43°12:00 56° 169° 0.764  69.5%13:57 50°
ระยอง10:20 44°12:09 54° 178° 0.682  59.5%14:02 46°
ราชบุรี10:16 42°12:03 53° 173° 0.668  57.9%13:56 47°
ลพบุรี10:20 42°12:05 52° 175° 0.633  53.8%13:57 45°
ลำปาง10:20 39°12:00 48° 172° 0.557  45.0%13:47 44°
ลำพูน10:19 38°11:58 48° 171° 0.553  44.6%13:45 44°
เลย10:26 42°12:09 49° 178° 0.565  45.9%13:56 42°
ศรีสะเกษ10:32 46°12:20 51° 186° 0.612  51.3%14:08 41°
สกลนคร10:33 44°12:19 49° 185° 0.564  45.8%14:04 40°
สงขลา10:16 47°12:09 59° 176° 0.824  76.9%14:06 50°
สตูล10:15 47°12:07 60° 174° 0.842  79.1%14:05 51°
สมุทรปราการ10:19 43°12:06 53° 175° 0.662  57.2%13:58 46°
สมุทรสงคราม10:17 42°12:04 53° 174° 0.670  58.1%13:57 46°
สมุทรสาคร10:18 43°12:05 53° 174° 0.665  57.6%13:57 46°
สระแก้ว10:23 44°12:12 53° 180° 0.650  55.8%14:03 44°
สระบุรี10:20 43°12:07 52° 176° 0.638  54.3%13:58 45°
สิงห์บุรี10:19 42°12:05 52° 175° 0.632  53.6%13:56 45°
สุโขทัย10:19 40°12:02 49° 173° 0.585  48.2%13:50 44°
สุพรรณบุรี10:18 42°12:04 52° 174° 0.643  55.0%13:55 46°
สุราษฎร์ธานี10:13 45°12:03 57° 171° 0.781  71.5%14:00 50°
สุรินทร์10:29 45°12:17 52° 184° 0.620  52.2%14:06 42°
หนองคาย10:29 42°12:13 49° 181° 0.552  44.4%13:58 41°
หนองบัวลำภู10:28 42°12:12 50° 180° 0.569  46.4%13:58 42°
อ่างทอง10:19 42°12:05 52° 175° 0.639  54.5%13:56 45°
อำนาจเจริญ10:34 45°12:21 51° 187° 0.594  49.2%14:08 40°
อุดรธานี10:29 43°12:13 49° 181° 0.562  45.6%13:59 41°
อุตรดิตถ์10:21 40°12:02 49° 174° 0.569  46.4%13:50 44°
อุทัยธานี10:18 41°12:03 51° 174° 0.622  52.5%13:54 45°
อุบลราชธานี10:34 46°12:23 51° 188° 0.608  50.9%14:09 40°


หมายเหตุ :
    มุมเงย คือ มุมที่วัดจากขอบฟ้า จุดจอมฟ้าหรือจุดเหนือศีรษะมีมุมเงย 90°
    มุมทิศ คือ มุมที่วัดจากทิศเหนือ กวาดไปทางขวามือ ทิศเหนือ 0° ทิศตะวันออก 90° ทิศใต้ 180° และทิศตะวันตก 270°
    ขนาด คือ ขนาดความลึกของสุริยุปราคา แสดงสัดส่วนที่ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์โดยวัดตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ ยิ่งมีค่ามากแสดงว่าดวงอาทิตย์ยิ่งแหว่งเว้ามาก (0.5 หมายถึงดวงอาทิตย์ถูกบังครึ่งดวง เป็นต้น)
    พื้นที่ คือ พื้นที่วงกลมของดวงอาทิตย์ในส่วนที่ถูกดวงจันทร์บัง


การสังเกตสุริยุปราคา


โดยทั่วไป ไม่ว่าในยามปรกติ ขณะเกิดสุริยุปราคาบางส่วน หรือสุริยุปราคาวงแหวน ห้ามดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า เนื่องจากแสงอาทิตย์ที่สว่างเจิดจ้าสามารถทำอันตรายต่อดวงตาของเราได้ แต่บางครั้งเราอาจสังเกตดวงอาทิตย์ได้เป็นเวลาสั้น ๆ ขณะที่ดวงอาทิตย์เพิ่งขึ้นเหนือขอบฟ้าหรือใกล้ตกลับขอบฟ้า ซึ่งเป็นช่วงที่แสงอาทิตย์ต้องเดินทางผ่านบรรยากาศเป็นระยะทางไกลกว่าเมื่ออยู่สูงบนท้องฟ้า

สุริยุปราคาบางส่วนในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 ประเทศไทยเกิดสุริยุปราคาขณะดวงอาทิตย์อยู่สูงจากขอบฟ้าจนมีความสว่างมากแล้ว จึงห้ามดูด้วยตาเปล่า และอย่าดูผ่านกล้องที่ไม่มีแผ่นกรองแสงปิดหน้ากล้อง วิธีการสังเกตที่ปลอดภัยคือใช้แผ่นกรองแสง ได้แก่ แว่นสุริยะ หน้ากากหรือแว่นตาที่ช่างเชื่อมโลหะใช้ (ต้องทึบมากพอ ดูแล้วสบายตา ที่แนะนำคือเบอร์ 14 ขึ้นไป) ฟิล์มเอกซ์เรย์ซ้อนกันหลายชั้น (ใช้ได้เฉพาะส่วนมืดที่ไม่มีภาพเท่านั้น) และอย่าดูต่อเนื่องเป็นเวลานาน

แว่นสุริยะของสมาคมดาราศาสตร์ไทย 

วัสดุกรองแสงที่ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ กระจกรมควัน (เป็นวิธีหนึ่งที่แนะนำกันในอดีต แต่ในทางปฏิบัติ การรมควันอาจไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดรอยขีดข่วน หรือเสี่ยงต่อการแตก) แว่นกันแดด กระดาษห่อลูกอม แผ่นดิสเก็ตต์ แผ่นซีดี ฟิล์มเอกซ์เรย์ส่วนที่มีภาพ ฟิล์มถ่ายรูป ฯลฯ อย่านำมาใช้ดูดวงอาทิตย์ แม้ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีความสามารถในการกรองแสงย่านแสงขาว แต่รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านได้ ไม่ปลอดภัยต่อดวงตา รวมทั้งให้ภาพที่ไม่คมชัด


นอกจากการสังเกตทางตรง ยังมีวิธีสังเกตทางอ้อม คือการให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านกล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาไปตกที่ฉากรับภาพ หากไม่มีกล้องโทรทรรศน์ สามารถสังเกตได้ด้วยหลักการของกล้องรูเข็ม โดยนำกระดาษมาเจาะเป็นรูขนาด เซนติเมตร แล้วเอาไปประกบกับกระจกเงาด้วยเทปกาว จากนั้นนำกระจกที่ปิดให้เหลือช่องขนาดเล็กนี้ไปรับแสงอาทิตย์ ให้แสงสะท้อนไปที่ผนัง ดวงกลมที่ปรากฏบนผนังคือภาพดวงอาทิตย์ มีลักษณะแหว่งเว้าตามสุริยุปราคาที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า


ขนาดของภาพดวงอาทิตย์บนฉากแปรผันตามระยะห่างระหว่างกระจกกับฉากรับภาพ โดยที่ระยะ เมตรจะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาดประมาณ มิลลิเมตร ดังนั้นที่ระยะห่าง 10 เมตร จะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาด เซนติเมตร วิธีนี้ทำให้เราสามารถสังเกตสุริยุปราคาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่พึงระวังอย่าให้ใครที่เดินผ่านไปมามีโอกาสหันมามองแสงอาทิตย์ที่สะท้อนออกมาจากกระจก

สถิติการเกิดสุริยุปราคาวงแหวน


สุริยุปราคาวงแหวนมีโอกาสเกิดได้มากกว่าสุริยุปราคาเต็มดวง สถิติสุริยุปราคาในระยะเวลา 5,000 ปี นับตั้งแต่ 2000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ถึง ค.ศ. 3000 มีสุริยุปราคาเกิดขึ้นทั้งหมด 11,898 ครั้ง เป็นสุริยุปราคาบางส่วน 35.3% สุริยุปราคาวงแหวน 33.2% สุริยุปราคาเต็มดวง 26.7% และแบบผสม (พื้นที่บางส่วนในแนวเส้นทางสุริยุปราคาเห็นเป็นแบบเต็มดวง ที่เหลือเห็นเป็นแบบวงแหวน) 4.8% ส่วนระยะเวลาที่เกิดสุริยุปราคาวงแหวนนานที่สุดคือ 12.4 นาที

 
สุริยุปราคาวงแหวนเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 (จาก Brocken Inaglory)

สุริยุปราคาวงแหวนอาจไม่น่าสนใจเท่าสุริยุปราคาเต็มดวง เนื่องจากไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ต้องใช้แผ่นกรองแสงช่วยลดทอนแสงอาทิตย์ ท้องฟ้าไม่มืดสลัวลงอย่างในช่วงที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง แต่ก็มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ อย่างในช่วงที่เริ่มและสิ้นสุดการเป็นวงแหวน ขณะที่ขอบดวงจันทร์แตะขอบดวงอาทิตย์ หลายครั้งเราจะสังเกตได้ว่าพื้นผิวที่ไม่เรียบบนดวงจันทร์ก่อให้เกิดแนวสว่างของขอบดวงอาทิตย์ที่ไม่ต่อเนื่อง ในสุริยุปราคาเต็มดวงรู้จักกันดีในชื่อลูกปัดเบลี โดยมองเห็นจุดสว่างหลายจุดตรงบริเวณแนวรอยต่อระหว่างขอบดวงจันทร์กับขอบดวงอาทิตย์เรียงต่อกันดูคล้ายลูกปัด

สุริยุปราคาวงแหวนในประเทศไทย


ประเทศไทยเห็นสุริยุปราคาวงแหวนครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 โดยแนวคราสวงแหวนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดสุริยุปราคาวงแหวนที่เส้นกลางแนวคราสในประเทศไทยนานประมาณ นาทีครึ่ง ครั้งถัดไปจะเห็นได้ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2574 โดยบริเวณที่เห็นสุริยุปราคาวงแหวนอยู่ทางภาคใต้ตอนล่าง ผ่านตอนล่างสุดของตรัง ส่วนใหญ่ของสตูลและสงขลา ทางใต้ของปัตตานี ยะลา และเกือบทั้งหมดของนราธิวาส เกิดสุริยุปราคาวงแหวนที่เส้นกลางแนวคราสในยะลานานประมาณ นาทีครึ่ง

แนวคราสวงแหวนผ่านประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2585 โดยแนวคราสเกือบจะซ้อนทับกับเมื่อปี 2574 แต่เห็นได้เป็นบริเวณกว้างกว่า เริ่มตั้งแต่บริเวณตอนใต้ของสุราษฎร์ธานีลงไป และเกิดหลังจากดวงอาทิตย์ขึ้นไม่นาน ที่เส้นกลางแนวคราสบริเวณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เห็นสุริยุปราคาวงแหวนนานประมาณ นาทีเศษ

แนวสุริยุปราคาวงแหวนที่ผ่านประเทศไทย เราจะเห็นสุริยุปราคาวงแหวนได้เมื่ออยู่ภายในแนวนี้ 

สุริยุปราคาครั้งถัดไป


หลังจากครั้งนี้ สุริยุปราคาที่เห็นได้ในประเทศไทยครั้งถัดไปเป็นสุริยุปราคาในวันที่ 21 มิถุนายน 2563 โดยเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนอีกเช่นเดียวกัน ครั้งนั้นดวงจันทร์อยู่ห่างโลก ทำให้เกิดเป็นสุริยุปราคาวงแหวน เห็นได้ภายในแนวแคบ ๆ ลากผ่านทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง อินเดีย จีน และไต้หวัน

ดูเพิ่ม


 สุริยุปราคา จันทรุปราคา และดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์ในปี 2562
 กิจกรรมการสังเกตสุริยุปราคาบางส่วน วันที่ 26 ธันวาคม 2562 ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ)