สมาคมดาราศาสตร์ไทย

ภารกิจมาร์สเอกซ์พลอเรชันโรเวอร์

6 มกราคม 2547 โดย: วรเชษฐ์ บุญปลอด (worachateb@yahoo.com)
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 27 ธันวาคม 2559

ความคืบหน้าล่าสุด

มกราคม 2547
 
ภาพ มิติที่ได้จากยานสปิริต ภาพ NASA 

ภาพถ่ายและความคืบหน้าอื่นๆ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของนาซา

มกราคม 2547 12.57 น.
นาซามีกำหนดจะแถลงข่าวในเวลาเที่ยงของวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ หรือตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทยเกี่ยวกับสถานภาพและภาพสีที่ถ่ายได้จากยานสปิริต ขณะนี้สามารถใช้สายอากาศกำลังสูงของยานติดต่อกับโลกได้ ทำให้นับจากนี้ไป เจ้าหน้าที่โครงการจะสามารถควบคุมยานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มกราคม 2547 03.08 น.
ศูนย์ควบคุมภารกิจรายงานว่าบริเวณลงจอดของยานสปิริตมีอุณหภูมิประมาณ -98 องศาฟาเรนไฮต์ (-72 องศาเซลเซียส)

มกราคม 2547 00.38 น.
องค์การนาซาเผยภาพถ่ายบริเวณลงจอดของยานสปิริตที่ถ่ายได้จากยานมาร์สโอดิสซีย์เทียบกับภาพที่ถ่ายได้จากยานสปิริตขณะร่อนลงบนดาวอังคาร

บริเวณลงจอดของยานสปิริต ภาพซ้ายถ่ายจากยานสปิริต ภาพขวาถ่ายจากยานมาร์สโอดิสซีย์ ภาพ NASA 

มกราคม 2547 17.00 น.
แม้ว่า ใน ของยานอวกาศที่เดินทางไปยังดาวอังคารประสบความล้มเหลว แต่ขณะนี้สัญญาณจากยานสปิริตที่ถ่ายทอดผ่านทางยานมาร์สโอดิสซีย์ที่โคจรรอบดาวอังคารในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่ายานสปิริตอยู่ในสภาพดี ไม่มีปัญหาทางเทคนิคใดๆ ที่เป็นอุปสรรค นาซาได้รับภาพแรกจากยานสปิริตเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ตามเวลาในไทย คาดว่าภาพสีจะส่งมาในเวลาค่ำตามเวลาในสหรัฐฯ หรือตรงกับพรุ่งนี้เช้าตามเวลาในไทย


ภาพขาว-ดำภาพแรกๆ จากยานสปิริต ภาพ NASA TV, Spaceflightnow.com  

ภาพขาว-ดำภาพแรกๆ จากยานสปิริต ภาพ NASA TV, Spaceflightnow.com  

ภาพขาว-ดำภาพแรกๆ จากยานสปิริต ภาพ NASA TV, Spaceflightnow.com  

ภาพขาว-ดำภาพแรกๆ จากยานสปิริต ภาพ NASA TV, Spaceflightnow.com  

 
มกราคม 2547 12.00 น.
เครือข่ายดีปสเปซของนาซายืนยันว่าขณะนี้ยานสปิริตลงจอดบนดาวอังคารเรียบร้อยแล้ว!

แปลและเรียบเรียงจาก: SpaceflightNow.comNASA


หลังจากที่องค์การอวกาศยุโรปส่งยานอวกาศที่มีชื่อว่ามาร์สเอกซ์เพรสพร้อมกับยานลูก "บีเกิล 2" ขึ้นสู่อวกาศ องค์การนาซาของสหรัฐฯ ก็ส่งยานอวกาศ ลำ ในภารกิจมาร์สเอกซ์พลอเรชันโรเวอร์ เดินทางออกจากโลกในวันที่ 10 มิถุนายน และ กรกฎาคม ตามลำดับ ยานอวกาศทั้ง ลำของนาซานี้ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่เสมือนนักธรณีวิทยาที่จะสำรวจดินและหินบนดาวอังคาร เพื่อนำไปสู่การศึกษาสภาวะอากาศในอดีตของดาวอังคาร เพื่อตอบคำถามขั้นพื้นฐานว่าดาวอังคารเคยมีสภาวะอากาศที่อบอุ่นเพียงพอที่น้ำจะสามารถคงอยู่ได้บนพื้นผิวนานพอที่สิ่งมีชีวิตแบบง่ายๆ จะถือกำเนิดขึ้นได้หรือไม่


ยานมาร์สเอกซ์พลอเรชันโรเวอร์เอ (MER-A) หรือ "สปิริต (Spirit)" มีกำหนดลงแตะพื้นผิวดาวอังคารในวันที่ มกราคม เวลา 11.35 น. ตามเวลาในไทย ขณะที่ยานมาร์สเอกซ์พลอเรชันโรเวอร์บี (MER-B) หรือ "ออปพอร์ทูนิตี (Opportunity)" มีกำหนดลงแตะพื้นผิวดาวอังคารในวันที่ 25 มกราคม เวลา 12.25 น.

ซ้าย: ยานสปิริตลงจอดบนหลุมกูซอฟ ขวา: ออปพอร์ทูนิตีลงจอดบนที่ราบเมอริดิอานีพลานัม (ภาพ JPL/NASA) 

บริเวณที่ยานสปิริตลงจอดเป็นหลุมอุกกาบาตขนาด 150 กิโลเมตรชื่อว่า "หลุมกูซอฟ (Gusev)" ที่อาจเคยเป็นทะเลสาบมาก่อน ก่อตัวขึ้นจากการพุ่งชนของอุกกาบาตเมื่อประมาณ 3,000-4,000 ล้านปีที่แล้ว มีช่องเปิดด้านหนึ่งของหลุมที่เชื่อว่าเป็นช่องทางพากระแสน้ำและน้ำแข็งเข้าสู่หลุม ส่วนบริเวณที่ยานออปพอร์ทูนิตีลงจอดมีชื่อว่า "เมอริดิอานีพลานัม (Meridiani Planum)" ที่ราบที่คาดว่าอาจเป็นบริเวณทับถมของแร่ธาตุที่ก่อตัวขึ้นในสภาวะที่เต็มไปด้วยน้ำในอดีต

นาซาส่งยานอวกาศไปสำรวจดาวอังคารมานับตั้งแต่โครงการมาริเนอร์ในกลางทศวรรษ 1960 และโครงการไวกิงในกลางทศวรรษ 1970 จากนั้นยานมาร์สพาทไฟน์เดอร์ของสหรัฐฯ ก็ลงแต่พื้นผิวดาวอังคารในปี พ.ศ. 2540 ตามด้วยยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์ และยาน 2001 มาร์สโอดิสซีย์ไปถึงดาวอังคารในปี พ.ศ. 2542 และ 2544

ขั้นตอนนำยานลงสู่พื้นผิวดาวอังคาร (ภาพ NASA) 

สำหรับมาร์สเอกซ์พลอเรชันโรเวอร์ นาซาใช้ระบบการลงจอดแบบเดียวกับที่ใช้ในยานมาร์สพาทไฟน์เดอร์ คือใช้ร่มชูชีพและถุงลมเพื่อชะลอความเร็วของยานขณะลงสู่พื้นผิวดาวอังคารเพื่อหลีกเลี่ยงการพุ่งชน รถหกล้อทั้งสองคันจะลงในตำแหน่งที่ห่างไกลจากกัน และใช้เวลาราว เดือนเพื่อเก็บตัวอย่างดิน โดยเดินทางไปบนดาวอังคารด้วยพลังขับเคลื่อนจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีกล้องถ่ายภาพที่สามารถถ่ายภาพสี และอุปกรณ์สำหรับขุดดินบนดาวอังคาร

ข้อมูลจากรถสำรวจทั้งสองจะถูกส่งขึ้นไปในรูปของสัญญาณวิทยุไปยังยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์และยานมาร์สโอดิสซีย์ที่ทำหน้าที่เป็นดาวเทียมโคจรอยู่รอบดาวอังคารในขณะนี้ และส่งต่อมายังโลกเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์กำหนดเส้นทางเดินของรถสำรวจทั้งสองในวันต่อๆ ไป คาดว่ารถ คันนี้จะสำรวจพื้นที่รอบๆ จุดลงจอดและออกเดินทางเป็นระยะทางราว 500 เมตรบนพื้นผิวดาวอังคารตลอดภารกิจ

ยานในภารกิจมาร์สเอกซ์พลอเรชันโรเวอร์เทียบกับแบบจำลองของรถสำรวจในภารกิจมาร์สพาทไฟน์เดอร์ (ภาพ JPL/NASA) 

ก่อนหน้านี้ เราได้ข้อมูลดาวอังคารเป็นจำนวนมากจากยานอวกาศสองลำที่โคจรอยู่รอบดาวอังคาร ซึ่งได้เผยให้เห็นสภาพภูมิประเทศและองค์ประกอบบนพื้นผิวด้วยความละเอียดสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งแสดงให้เห็นหุบเขา ที่ราบสูงชัน ร่องธาร และร่องรอยต่างๆ ที่ดูคล้ายภูมิประเทศบนโลก ภาพถ่ายความละเอียดสูงจากยานอวกาศสองลำที่โคจรรอบดาวอังคารในขณะนี้ยังแสดงให้นักวิทยาศาสตร์เห็นว่าหินบนดาวอังคารแบ่งเป็นชั้นๆ ซึ่งดูเหมือนเป็นชั้นของตะกอนที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำ หลายคนเชื่อว่าในอดีตดาวอังคารมีบรรยากาศที่หนาแน่นพอที่จะกักความร้อนไว้และทำให้เกิดน้ำบนพื้นดิน หุบเขาขนาดใหญ่หลายแห่งและบริเวณที่ดูเหมือนถูกกัดเซาะนี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว นักดาราศาสตร์หวังว่ายานที่ส่งไปยังดาวอังคารทั้งหมดจะช่วยให้เรามีข้อมูลที่ชัดเจนและเข้าใจสภาพทางภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา การมีอยู่ของน้ำ และวิวัฒนาการบนดาวอังคารได้ดียิ่งขึ้น

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง

Mars Exploration Rover Mission - NASA

บทความที่เกี่ยวข้อง