สตราดีวารี เป็นชื่อที่นักดนตรีรู้จักกันดีว่าเป็นยี่ห้อไวโอลินที่ดีที่สุดในโลก เริ่มสร้างโดย อันโตนีโอ สตราดีวารี ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง 1644-1737 แม้เวลาจะผ่านมาหลายร้อยปี แต่เคล็ดลับในการทำไวโอลินที่ให้เสียงสุดยอดของสตราดีวารียังเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน มีทฤษฎีเกิดขึ้นหลายทฤษฎีเพื่อไขความลับนี้ บ้างก็แสนพิลึกกึกกือ เช่นกล่าวว่าสตราดีวารีทำไวโอลินจากไม้คานของวิหารโบราณ หรือมีการนำไม้ไปชุบน้ำปัสสาวะสูตรพิเศษก่อนเอามาทำไวโอลิน
แต่ทฤษฎีล่าสุดที่เสนอโดยลอยด์ เอช. เบิร์กเคิล นักโบราณชีววิทยาจากหอสังเกตการณ์โลกลามอนต์-โดเฮอร์ตี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โยงสตราดีวารีเข้ากับดาราศาสตร์
เบิร์กเคิลอธิบายว่า สตราดีวารีมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับช่วงต่ำสุดมอนเดอร์ (Maunder minimum) ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีกัมมันตภาพต่ำผิดปรกติจนแทบไม่มีจุดมืดเกิดขึ้นเลยต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1645 ถึงปี 1715 ดังนั้นไม้ที่สตราดีวารีนำมาทำไวโอลินในช่วงท้ายของชีวิตซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของเขาจึงเป็นไม้ที่เจริญเติบโตในช่วงต่ำสุดมอนเดอร์ การที่ดวงอาทิตย์แผ่รังสีน้อยลงกว่าปรกติต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ลมฟ้าอากาศของโลกหนาวเย็นต่อเนื่องตามไปด้วย ลมฟ้าอากาศเช่นนี้ทำให้ต้นไม้หลายชนิดในเขตอบอุ่นรวมถึงสปรูซนอร์เวย์ ซึ่งสตราดีวารีชอบใช้ทำแผ่นขยายเสียงในไวโอลินเติบโตช้าลง เนื้อไม้จึงแน่นและแข็งขึ้น ทำให้เสียงออกมาดีขึ้นด้วย
แต่ทฤษฎีล่าสุดที่เสนอโดย
เบิร์กเคิลอธิบายว่า สตราดีวารีมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาเดียวกับช่วงต่ำสุดมอนเดอร์ (Maunder minimum) ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีกัมมันตภาพต่ำผิดปรกติจนแทบไม่มีจุดมืดเกิดขึ้นเลยต่อเนื่องกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1645 ถึงปี 1715 ดังนั้นไม้ที่สตราดีวารีนำมาทำไวโอลินในช่วงท้ายของชีวิตซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของเขาจึงเป็นไม้ที่เจริญเติบโตในช่วงต่ำสุดมอนเดอร์ การที่ดวงอาทิตย์แผ่รังสีน้อยลงกว่าปรกติต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ลมฟ้าอากาศของโลกหนาวเย็นต่อเนื่องตามไปด้วย ลมฟ้าอากาศเช่นนี้ทำให้ต้นไม้หลายชนิดในเขตอบอุ่นรวมถึงสปรูซนอร์เวย์ ซึ่งสตราดีวารีชอบใช้ทำแผ่นขยายเสียงในไวโอลินเติบโตช้าลง เนื้อไม้จึงแน่นและแข็งขึ้น ทำให้เสียงออกมาดีขึ้นด้วย