หากคุณอาศัยอยู่บนดวงจันทร์นิกซ์หรือไฮดราของดาวพลูโต คุณคงจะต้องปวดหัวกับการตั้งนาฬิกาปลุกแน่ ๆ เพราะคุณจะไม่รู้เลยว่าวันไหนดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาใด และจะขึ้นจากทิศไหน
นิกซ์และ ไฮดรา เป็นดวงจันทร์บริวารของดาวพลูโต ค้นพบโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลในปี 2548
นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของดาวพลูโตที่ถ่ายไว้ในช่วงปี2548-2555 พบว่าแสงที่สะท้อนจากดวงจันทร์นิกซ์และไฮดราผันแปรอย่างคาดเดาไม่ได้ สันนิษฐานได้ว่าเป็นเพราะสองดวงนี้หมุนกลิ้งแบบไม่แน่นอน คาดว่าดวงจันทร์ดวงเล็กอีกสองดวงคือเคอร์เบรอสกับสติกซ์ก็อาจมีพฤติกรรมแบบเดียวกันด้วย
เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากดวงจันทร์ดวงเล็กเหล่านี้โคจรอยู่ในสนามความโน้มถ่วงที่มีพลวัตอย่างมากที่เกิดจากดาวพลูโตและคารอนสนามความโน้มถ่วงที่ผันแปรทำให้เกิดทอร์กที่ทำให้ดวงจันทร์ดวงเล็กหมุนกลิ้งอย่างคาดเดาไม่ได้ การที่ดวงจันทร์เหล่านี้มีรูปร่างเป็นทรงรียิ่งทำให้ทอร์กนี้รุนแรงยิ่งขึ้น
จากการเฝ้ามองดวงจันทร์สี่ดวงเล็กของดาวพลูโตโดยกล้องฮับเบิลพบว่า ดวงจันทร์ นิกซ์ สติกซ์ และไฮดรา มีคาบการโคจรพ้องเป็นอัตราส่วนกัน แฮมิลตันอธิบายว่า "การโคจรในลักษณะนี้คล้ายกับกรณีของดวงจันทร์สามดวงใหญ่ของดาวพฤหัสบดี หากคุณยืนอยู่บนดวงจันทร์นิกซ์ คุณจะเห็นดวงจันทร์สติกซ์โคจรรอบดาวพลูโตสองรอบใช่เวลาเท่ากับไฮดราโคจรรอบดาวพลูโต"
การค้นพบนี้เกิดขึ้นจากการใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลนำโดย มาร์ก โชวอลเตอร์ จากสถาบันเซติในเมาน์เทนวิว แคลิฟอร์เนีย และดัก แฮมิลตัน จากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ ณ คอลเลจปาร์ก รายงานการวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ฉบับวันที่ 4 มิถุนายน
จอห์นกรันเฟลด์ รองผู้บริหารภารกิจวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาในวอชิงตันดีซี กล่าวว่า "ฮับเบิลช่วยให้เรามองเห็นว่าการโคจรในระบบของดาวพลูโตและดวงจันทร์เป็นการเริงระบำในจังหวะสับสนอลหม่าน และเมื่อยานนิวเฮอไรซอนส์ไปถึงดาวพลูโตในเดือนกรกฎาคมนี้ เราจะได้เห็นอย่างเต็มตาว่าดวงจันทร์แต่ละดวงมีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีสมบัติเฉพาะตัวเป็นอย่างไร"
ฮับเบิลยังสร้างความประหลาดใจให้แก่นักดาราศาสตร์อีกอย่างหนึ่งนั่นคือพบว่าดวงจันทร์เคอร์เบรอสมีพื้นผิวคล้ำพอ ๆ กับถ่าน ในขณะที่บริวารดวงอื่นขาวโพลนเหมือนหาดทราย นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะเคอร์เบรอสปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองจากบริวารดวงอื่นที่กระเด็นมาด้วยการกระแทกของอุกกาบาต
ยานนิวเฮอไรซอนส์ของนาซาซึ่งมีกำหนดพุ่งเข้าเฉียดระบบพลูโตในเดือนกรกฎาคม 2558 นี้ อาจตอบคำถามนี้ได้
สภาพอลวนในระบบพลูโต-คารอนอาจช่วยให้นักดาราศาสตร์จินตนาการได้ถึงดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์คู่ว่าจะมีพฤติกรรมการโคจรอย่างไร แฮมิลตันอธิบายต่อ "สภาพเช่นนี้อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วไปในระบบดาวคู่ และอาจถึงกับมีผลต่อสิ่งมีชีวิตในระบบดังกล่าวด้วย" ที่ผ่านมากล้องโทรทรรศน์เคปเลอร์ของนาซาได้พบระบบดาวเคราะห์หลายแห่งที่โคจรรอบดาวคู่"
นิกซ์
นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของดาวพลูโตที่ถ่ายไว้ในช่วงปี
เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากดวงจันทร์ดวงเล็กเหล่านี้โคจรอยู่ในสนามความโน้มถ่วงที่มีพลวัตอย่างมากที่เกิดจากดาวพลูโตและคารอน
จากการเฝ้ามองดวงจันทร์สี่ดวงเล็กของดาวพลูโตโดยกล้องฮับเบิล
การค้นพบนี้เกิดขึ้นจากการใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล
จอห์น
ฮับเบิลยังสร้างความประหลาดใจให้แก่นักดาราศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง
ยานนิวเฮอไรซอนส์ของนาซา
สภาพอลวนในระบบพลูโต-คารอนอาจช่วยให้นักดาราศาสตร์จินตนาการได้ถึงดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์คู่