วันที่ 11 ธันวาคม 2541 คอลลีน วิลสัน-ฮอดจ์ นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากศูนย์การบินอวกาศมาร์แชลของนาซา ได้ค้นพบสิ่งแปลกประหลาดสิ่งหนึ่งบนท้องฟ้า เป็นพัลซาร์ดวงหนึ่งกำลังโคจรรอบดาวฤกษ์ขนาดยักษ์อยู่
ดาวฤกษ์ที่เป็นดาวสหายของพัลซาร์ดวงนี้เป็นดาวฤกษ์ชนิด B[e] มีสีน้ำเงินและอุณหภูมิพื้นผิวสูงมาก มีมวลประมาณ 8 ถึง 15 เท่าของดวงอาทิตย์ และสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เส้นเปล่งแสง (emission line) ของสเปกตรัมที่เกิดจากไฮโดรเจนและออกซิเจนที่ถูกพ่นเป่าออกมาจากดาวดวงนี้
วิลสัน-ฮอดจ์ได้ค้นพบพัลซาร์ดวงนี้ในปี 2538 โดยเครื่องมือ BATSE (Burst and Transient Source Experiment) ของสถานีสังเกตการณ์รังสีแกมมาคอมป์ตัน (Compton Gamma Ray Observatory) และเธอยังศึกษาพัลซาร์ดวงนี้เพิ่มเติมโดยใช้ RXTE (Rossi X-ray Timing Explorer) ผลการศึกษาพบว่าพัลซาร์ดวงนี้กำลังโคจรรอบวัตถุที่มองไม่เห็นก้อนหนึ่ง ในการโคจรแต่ละรอบ พัลซาร์นี้จะมีการปล่อยพลังงานมากขึ้นกว่าปกติสองครั้ง พอจะสันนิษฐานได้ว่า มันเกิดจากการที่พัลซาร์นี้โคจรผ่านเข้าไปในจานก่อตัว (accretion disk) ของวัตถุสหายลึกลับนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นดาวฤกษ์ชนิด B[e] พัลซาร์ดวงนี้ขณะนี้มีชื่อเรียกว่า GRO J2058+42
ดาวฤกษ์ที่เป็นดาวสหายของพัลซาร์ดวงนี้
วิลสัน-ฮอดจ์