ดาวแคระน้ำตาล เป็นวัตถุที่มีสมบัติก้ำกึ่งระหว่างดาวเคราะห์กับดาวฤกษ์ ดูเผิน ๆ คล้ายดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ แต่ที่แก่นดาวมีปฏิกิริยาหลอมดิวทีเรียม จึงแผ่ความร้อนออกมาด้วย ดาวแคระน้ำตาลมีความหลากหลายในด้านสมบัติทางกายภาพมาก บางดวงอาจมีอุณหภูมิพื้นผิวได้เป็นพันองศาเซลเซียส ร้อนไม่ต่างจากดาวฤกษ์ แต่ก็เคยมีการพบดาวแคระน้ำตาลที่มีอุณหภูมิต่ำได้ถึงระดับอุณหภูมิห้องบนโลก บางดวงก็เย็นพอที่จะมีเมฆที่ประกอบด้วยไอน้ำได้ หรือบางดวงอาจมีลักษณะคล้ายดาวเคราะห์แก๊สยักษ์ที่มีบรรยากาศปั่นป่วน
ดาวแคระน้ำตาลที่อุณหภูมิต่ำที่สุดคือไวส์ 0855 ซึ่งถูกค้นพบในปี 2557 อยู่ห่างจากโลกเพียง 7 ปีแสง มีอุณหภูมิหนาวยะเยือกถึง -23 องศาเซลเซียส จนนักวิทยาศาสตร์บางคนคิดว่าอาจเป็นดาวเคราะห์อิสระเสียด้วยซ้ำ
เมื่อวันที่18 สิงหาคม 2563 องค์การนาซาได้ประกาศการค้นพบดาวแคระน้ำตาลเพิ่มขึ้นอีกมากถึง 95 ดวง ส่วนใหญ่อยู่ในละแวกใกล้กับระบบสุริยะของเรานี้เอง
ด้วยเหตที่เป็นวัตถุที่โดยทั่วไปมีอุณหภูมิต่ำแผ่รังสีออกมาได้น้อย ตรวจพบได้ยาก เป็นเหตุผลหนึ่งที่เพิ่งมาถูกค้นพบเอาป่านนี้แม้จะอยู่ใกล้มาก
ความน่าสนใจประการหนึ่งของการค้นพบครั้งนี้คือเกิดจากการร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์บ้านจำนวนมาก เป็นผลจากโครงการแบ็กยาร์ดเวิลส์ : แพลเน็ต 9 (Backyard Worlds: Planet 9) ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนโดยนาซา มีวัตถุประสงค์ในการค้นหาวัตถุใหม่จากคลังภาพถ่ายกองมหึมาที่ได้จากภารกิจต่าง ๆ เช่นดาวเทียมนีโอไวส์ กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ และจากโครงการนอยร์แล็บ (NOIRLab) ของมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯ
"การเพ่งหาจุดแปลกปลอมจากข้อมูลมหาศาลเช่นนี้ย่อมต้องใช้แรงงานมหาศาลเช่นกันโครงการนี้จึงใช้อาสาสมัครที่เรียกว่า "นักวิทยาศาสตร์ชาวบ้าน" มาช่วยงานในส่วนนี้ ซึ่งโครงการนี้มีอาสาสมัครกว่า 10,000 คนทั่วโลก" แอรอน ไมส์เนอร์ จาก นอยร์แล็บ ผู้ร่วมสนับสนุนโครงการและหัวหน้าผู้เขียนรายงานการค้นพบฉบับนี้อธิบาย
การค้นพบครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นว่าสาธารณชนก็มีส่วนสำคัญในการเพิ่มพูนองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอวกาศระยะใกล้ได้เหมือนกัน
ดาวแคระน้ำตาลที่อุณหภูมิต่ำที่สุดคือ
เมื่อวันที่
ด้วยเหตที่เป็นวัตถุที่โดยทั่วไปมีอุณหภูมิต่ำ
ความน่าสนใจประการหนึ่งของการค้นพบครั้งนี้คือ
"การเพ่งหาจุดแปลกปลอมจากข้อมูลมหาศาลเช่นนี้ย่อมต้องใช้แรงงานมหาศาลเช่นกัน
การค้นพบครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นว่า