โลกหมุนรอบตัวเองครบรอบใช้เวลา 24 ชั่วโมง หนึ่งวันจึงมีระยะเวลา 24 ชั่วโมง
แต่เมื่อวันที่29 มิถุนายน 2565 โลกหมุนครบรอบใช้เวลาเพียง 23 ชั่วโมง 59 นาที 59.99841 วินาที ขาดไป 1.59 มิลลิวินาที เป็นวันที่สั้นที่สุดนับจากที่มีการใช้นาฬิกาอะตอมเป็นนาฬิกามาตรฐาน
โลกหมุนรอบตัวเองในอัตราไม่คงที่อัตราการหมุนขึ้นลงเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอจากหลายปัจจัย ดังนั้นวงการวิทยาศาสตร์จึงเลิกใช้อัตราหมุนของโลกเป็นตัวกำหนดเวลามาตรฐาน โดยหันไปใช้นาฬิกาอะตอมที่เที่ยงตรงมากกว่าแทนตั้งแต่ทศวรรษ 1960 เมื่อใช้นาฬิกาอะตอมแล้วจึงอาจเกิดการเหลื่อมเวลาระหว่างนาฬิกาอะตอมและอัตราการหมุนของโลก นักวิทยาศาสตร์แก้ปัญหาความเหลื่อมนี้โดยการเพิ่มอธิกวินาทีซึ่งเป็นวินาทีพิเศษที่เพิ่มเข้าไปในวันสิ้นปีหรือ 30 มิถุนายน เพื่อรักษาจังหวะของเวลามาตรฐานสากลให้สอดคล้องกับการหมุนของโลก โดยสถิติแล้ว มีการเพิ่มอธิกวินาทีประมาณทุกสองปีโดยเฉลี่ย
โดยปกติโลกจะหมุนรอบตัวเองช้าลงทีละน้อย โลกหมุนช้าลงศตวรรษละ 2 มิลลิวินาที หากคิดแบบคร่าว ๆ ในระยะยาวก็น่าจะต้องมีการเพิ่มอธิกวินาทีบ่อยขึ้น แต่ในทางความเป็นจริงกลับพบว่าหลายปีที่ผ่านมาโลกหมุนเร็วกว่าเดิม จึงไม่มีการเพิ่มอธิกวินาทีมาหลายปีแล้ว ครั้งล่าสุดที่มีการเพิ่มอธิกวินาทีคือวันที่ 31 ธันวาคม 2559 หรือเกือบหกปีก่อน
ในปี2563 มีสถิติใหม่วันที่สั้นที่สุดมากถึง 28 วัน โดยวันที่สั้นที่สุดในปีนั้นคือวันที่ 19 กรกฎาคม มีระยะเวลาสั้นกว่า 24 ชั่วโมงไป 1.47 มิลลิวินาที
ในปี2564 โลกก็ยังหมุนเร็วกว่าปกติ แม้จะไม่มีการสร้างสถิติใหม่ขึ้นก็ตาม แต่ในปี 2565 โลกก็ยังหมุนเร็วขึ้นอีกโดยสร้างสถิติใหม่ในวันที่ 29 มิถุนายนดังที่กล่าวมาแล้ว อีกเดือนต่อมา ในวันที่ 26 กรกฎาคม โลกก็หมุนเร็วเกือบจะทำสถิติใหม่ได้อีกด้วยเวลา -1.50 มิลลิวินาที
สาเหตุที่โลกหมุนเร็วขึ้นในช่วงที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ยังคงไร้คำตอบที่แน่ชัด อาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการบางอย่างที่แกนโลก หรือในมหาสมุทร การเกิดน้ำขึ้นลง หรือแม้แต่ลมฟ้าอากาศ ณ ขณะนี้ยังไม่อาจสรุปได้
ในที่ประชุมสมาคมวิทยาศาสตร์โลกเอเชียโอเชียเนียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเลโอนิด โซตอฟ และ คริสเตียน บิซูวาร์ด นิโคไล ซิโดเรนคอฟ เสนอความเห็น่า สาเหตุที่โลกหมุนเร็วขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการส่ายชานเดลอร์
การส่ายชานเดลอร์(Chandler's wobble) คือการส่ายของขั้วโลกเป็นระยะทางสั้น การส่ายนี้ทำให้อัตราหมุนรอบตัวเองของโลกเปลี่ยนแปลงไปด้วย โดยปกติการส่ายชานเดลอร์มีค่าประมาณปีละ 3-4 เมตรที่ผิวโลก แต่ในช่วงปี 2560-2563 การส่ายนี้กลับหายไป
หากโลกหมุนเร็วขึ้นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อาจไม่มีอธิกวินาทีอีก ในทางตรงข้าม อาจเป็นไปได้ที่จะต้องริเริ่มให้มีการตัดวินาทีออกไปแทนที่จะเพิ่มวินาทีเข้ามาก็เป็นได้ ซึ่งหากต้องมีการตัดวินาที อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวงการสารสนเทศ เพราะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงระบบต่าง ๆ ครั้งมโหฬาร
อย่างไรก็ตามดร.โซตอฟกล่าวว่า ถึงตอนนี้ตนค่อนข้างมั่นใจว่าอัตราหมุนของโลกจะกลับไปสู่ภาวะปกติในไม่ช้า ดังนั้นแนวคิดเรื่องการตัดวินาทีคงไม่ต้องมีการนำมาใช้
แต่เมื่อวันที่
โลกหมุนรอบตัวเองในอัตราไม่คงที่
โดยปกติ
ในปี
ในปี
สาเหตุที่โลกหมุนเร็วขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ในที่ประชุมสมาคมวิทยาศาสตร์โลกเอเชียโอเชียเนียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
การส่ายชานเดลอร์
หากโลกหมุนเร็วขึ้นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย
อย่างไรก็ตาม