ดาวเคราะห์ในปี 2557
ดาวเคราะห์สว่างที่เห็นได้ง่ายด้วยตาเปล่าจากโลกมี 5 ดวง ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ อีก 2 ดวง คือ ดาวยูเรนัสและเนปจูน ต้องอาศัยกล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ นอกจากดาวเคราะห์แล้ว ยังสามารถส่องเห็นดาวบริวารบางดวงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริวารของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
แผนภาพแสดงตำแหน่งดาวเคราะห์ตามมุมห่างจากดวงอาทิตย์ตลอดปี2557 ช่วยให้เห็นภาพรวมคร่าว ๆ ของการปรากฏของดาวเคราะห์ในแต่ละวัน เส้นตรงกลางในแนวดิ่งคือตำแหน่งดวงอาทิตย์ แถบที่แผ่ออกไปสองข้างจากแนวกลางเป็นส่วนที่มีแสงอาทิตย์รบกวน แกนนอนบอกมุมห่างจากดวงอาทิตย์ แกนตั้งบอกวันในแต่ละเดือน แถบที่พาดในแนวเฉียงบอกขอบเขตของกลุ่มดาวจักรราศี เมื่อดาวเคราะห์อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ไปทางตะวันตก (ขวามือ) แสดงว่ามองเห็นได้ดีในเวลาเช้ามืด เมื่อดาวเคราะห์อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ไปทางตะวันออก (ซ้ายมือ) แสดงว่ามองเห็นได้ดีในเวลาหัวค่ำ ดาวเคราะห์วงนอกจะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อทำมุม 180° แสดงว่าเป็นช่วงเวลาที่ดาวเคราะห์ดวงนั้นสว่างและใกล้โลกที่สุดในรอบปี
วงโคจรของดาวพุธมีความรีค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ทำให้ดาวพุธมีมุมห่างสูงสุดจากดวงอาทิตย์เปลี่ยนแปลงอยู่ระหว่าง 18°-28° ระนาบวงโคจรของดาวพุธเอียงทำมุมประมาณ 7° กับระนาบวงโคจรโลก หากดาวพุธโคจรมาอยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ในจังหวะที่มันอยู่ใกล้กับจุดตัดของระนาบวงโคจรทั้งสอง คนบนโลกจะมีโอกาสเห็นดาวพุธเป็นจุดดำขนาดเล็กเคลื่อนผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ซึ่งครั้งถัดไปจะเกิดในวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 ประเทศไทยสังเกตได้ขณะเริ่มปรากฏการณ์ระหว่างที่ดวงอาทิตย์กำลังตก
ด้วยมุมห่างที่ไม่สูงนักทำให้เรามีโอกาสสังเกตดาวพุธได้เฉพาะในเวลาพลบค่ำหรือรุ่งสาง เวลาที่สังเกตดาวพุธได้คือช่วงที่ดาวพุธทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากพอสมควร ปีนี้มีช่วงที่สังเกตดาวพุธได้ดีในเวลาเช้ามืดอยู่ 3 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายน ช่วงที่ 2 คือต้นเดือนถึงปลายเดือนกรกฎาคม โดยมีดาวศุกร์อยู่สูงเหนือดาวพุธไม่มากนัก ช่วงที่ 3 คือปลายเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน
ช่วงเวลาที่สังเกตดาวพุธได้ดีในเวลาหัวค่ำมี3 ช่วง ช่วงแรกเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงที่ 2 คือกลางเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน ช่วงสุดท้ายคือปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนตุลาคม
เมื่อสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวพุธมีการเปลี่ยนแปลงคล้ายดิถีของดวงจันทร์หากปรากฏในเวลาหัวค่ำ ดาวพุธจะเปลี่ยนจากสว่างเกือบเต็มดวงไปสว่างเป็นเสี้ยว และมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนเวลาเช้ามืดจะเปลี่ยนจากเป็นเสี้ยวไปสว่างเกือบเต็มดวง และมีขนาดเล็กลง
เมื่อดาวศุกร์ปรากฏในเวลาหัวค่ำ เราเรียกว่า "ดาวประจำเมือง" แต่ถ้าปรากฏในเวลาเช้ามืด เรียกว่า "ดาวประกายพรึก" หรือ "ดาวรุ่ง" วงโคจรของดาวศุกร์ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก ทำให้ดาวศุกร์ทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์ไม่เกิน 47° เมื่อสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวศุกร์เปลี่ยนแปลงรูปร่างเช่นเดียวกับดาวพุธ แต่เห็นได้ชัดกว่าเนื่องจากขนาดที่ใหญ่กว่ามาก
ระนาบวงโคจรของดาวศุกร์เอียงทำมุม3.4° กับระนาบวงโคจรโลก ดาวศุกร์มีโอกาสเคลื่อนผ่านหน้าดวงอาทิตย์ได้เช่นเดียวกับดาวพุธ โดยมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าดาวพุธ 5-6 เท่า สามารถเห็นดาวศุกร์เป็นดวงกลมดำเมื่อดูดวงอาทิตย์ผ่านแผ่นกรองแสง ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ครั้งล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ครั้งถัดไปจะเกิดในวันที่ 11 ธันวาคม 2660
สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม2557 ดาวศุกร์ยังคงเป็นดาวประจำเมืองในเวลาหัวค่ำ ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้ว โดยอยู่ใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตก ค่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ จากนั้นเคลื่อนเข้าใกล้ดวงอาทิตย์จนสังเกตได้ยาก วันที่ 11 มกราคม ดาวศุกร์จะอยู่ในทิศทางเดียวกับดวงอาทิตย์โดยมีตำแหน่งอยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
ปลายเดือนมกราคมดาวศุกร์ย้ายไปเป็นดาวประกายพรึกอยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืด มีตำแหน่งอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนยิงธนู จึงอยู่ค่อนไปทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ดาวศุกร์จะทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้นอย่างรวดเร็ว ห่างดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 23 มีนาคม ที่ระยะ 47° อยู่ในกลุ่มดาวแพะทะเล เมื่อดูด้วยกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายสูงในช่วงเวลานั้น จะเห็นดาวศุกร์สว่างครึ่งดวง
ดาวศุกร์ค่อยๆ เคลื่อนกลับเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ผ่านกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำในเดือนเมษายน เข้าสู่กลุ่มดาวปลาในวันท้าย ๆ ของเดือน ผ่านใกล้ดาวยูเรนัสในเช้ามืดวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ระยะ 1.2° ผ่านกลุ่มดาวแกะในช่วงครึ่งแรกของเดือนมิถุนายน จากนั้นเข้าสู่กลุ่มดาววัว กลางเดือนกรกฎาคมอยู่สูงเหนือดาวพุธ ดาวศุกร์จะผ่านกลุ่มดาวคนคู่ แล้วเข้าสู่กลุ่มดาวปู ผ่านใกล้ดาวพฤหัสบดีในเช้ามืดวันที่ 18 สิงหาคม ขณะนั้นทั้งคู่อยู่ใกล้กระจุกดาวรังผึ้งด้วย แต่มีตำแหน่งอยู่ต่ำใกล้ขอบฟ้าพอสมควรในขณะที่ท้องฟ้าเริ่มสว่าง
ปลายเดือนสิงหาคมดาวศุกร์เข้าสู่กลุ่มดาวสิงโต ผ่านใกล้ดาวหัวใจสิงห์ในเช้ามืดวันที่ 6 กันยายน จากนั้นกลางเดือนกันยายนน่าจะเป็นช่วงสุดท้ายที่มีโอกาสเห็นดาวศุกร์ในเวลาเช้ามืด ดาวศุกร์จะเคลื่อนไปอยู่แนวเดียวกับดวงอาทิตย์ในวันที่ 25 ตุลาคม โดยดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดาวศุกร์
กลางเดือนธันวาคมดาวศุกร์ทำมุมห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้น อาจเริ่มเห็นดาวศุกร์อยู่เรี่ยขอบฟ้าทิศตะวันตกในเวลาหัวค่ำ ขณะนั้นดาวศุกร์อยู่บริเวณกลุ่มดาวคนยิงธนู เมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม 2558 ดาวพุธจะขึ้นมาอยู่ใกล้ดาวศุกร์
ได้ชื่อว่าดาวแดงเนื่องจากปรากฏบนท้องฟ้าเป็นดาวสว่างสีแดง ชมพู หรือส้ม ต่างจากดาวเคราะห์ดวงอื่นและดาวฤกษ์ส่วนใหญ่บนท้องฟ้า บรรยากาศอันเบาบางทำให้เราสามารถส่องกล้องมองเห็นพื้นผิวดาวอังคารได้ ยกเว้นช่วงที่เกิดพายุฝุ่นปกคลุม และบางช่วงสามารถเห็นน้ำแข็งที่ขั้วดาว
ช่วงที่สังเกตดาวอังคารได้ดีที่สุดคือขณะที่ดาวอังคารอยู่ใกล้โลกตรงกับช่วงที่ดาวอังคารอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เกิดขึ้นเฉลี่ยทุก 2 ปี 2 เดือน วงโคจรของดาวอังคารที่เป็นวงรี ทำให้ดาวอังคารอยู่ห่างโลกไม่เท่ากันในการเข้าใกล้แต่ละครั้ง อาจใกล้เพียง 56 ล้านกิโลเมตร อย่างที่เกิดในปี 2546 หรือไกลถึง 101 ล้านกิโลเมตร อย่างที่เกิดในปี 2555 นั่นทำให้ขนาดปรากฏของดาวอังคารขณะอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์กว้างใหญ่ได้ถึง 25.1 พิลิปดา หรือเล็กเพียง 13.8 พิลิปดา
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่มีพิสัยความสว่างกว้างมากขณะใกล้โลกที่สุดเมื่อปี 2546 ดาวอังคารสว่างถึงโชติมาตร –2.9 เมื่ออยู่ไกลโลกที่สุดในปี 2562 ดาวอังคารสามารถจางลงได้ถึงโชติมาตร +1.8 แกนหมุนของดาวอังคารเอียงจากระนาบวงโคจรประมาณ 25° จึงเกิดฤดูต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของขั้วน้ำแข็งและเมฆในบรรยากาศ ส่วนใหญ่ดาวอังคารที่ปรากฏในกล้องโทรทรรศน์จะมีขนาดเล็ก ไม่สามารถสังเกตเห็นร่องรอยบนพื้นผิวได้ มีเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้นที่ดาวอังคารจะใกล้โลกจนใหญ่พอสำหรับการสังเกตรายละเอียดบนพื้นผิว
ต้นปีเป็นช่วงที่ดาวอังคารอยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดในกลุ่มดาวหญิงสาววันที่ 3 กุมภาพันธ์ ดาวอังคารผ่านใกล้ดาวรวงข้าวที่ระยะ 4.6° จากนั้นเริ่มหยุดนิ่งในวันที่ 1 มีนาคม ก่อนจะเคลื่อนที่ถอยหลังไปผ่านใกล้ดาวรวงข้าวอีกครั้งในวันที่ 26 มีนาคม ที่ระยะ 4.8° วันที่ 9 เมษายน 2557 ดาวอังคารผ่านตำแหน่งตรงข้ามกับดวงอาทิตย์เมื่อสังเกตจากโลก จากนั้นเข้าใกล้โลกที่สุดในวันที่ 14 เมษายน มีขนาดเชิงมุมประมาณ 15.2 พิลิปดา
วันที่20 พฤษภาคม ดาวอังคารเริ่มกลับมาเคลื่อนที่เดินหน้าอีกครั้ง ผ่านใกล้ดาวรวงข้าวเป็นครั้งที่ 3 ในคืนวันที่ 14 กรกฎาคม โดยใกล้ที่สุดใน 3 ครั้งนี้ที่ระยะ 1.3° ดาวอังคารย้ายเข้าสู่กลุ่มดาวคนชั่งในวันที่ 10 สิงหาคม และผ่านใกล้ดาวเสาร์ในวันที่ 25
แผนภาพแสดงตำแหน่งดาวเคราะห์ตามมุมห่างจากดวงอาทิตย์ตลอดปี
ดาวพุธ
ดาวพุธเป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์และเคลื่อนที่เร็วที่สุดด้วยมุมห่างที่ไม่สูงนัก
ช่วงเวลาที่สังเกตดาวพุธได้ดีในเวลาหัวค่ำมี
เมื่อสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวพุธมีการเปลี่ยนแปลงคล้ายดิถีของดวงจันทร์
ร่วมทิศแนววงนอก | - | 26 | 8 | 8 |
---|---|---|---|---|
ห่างดวงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันออกมากที่สุด | 31 | 25 | 22 | - |
ร่วมทิศแนววงใน | 16 | 20 | 17 | - |
ห่างดวงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันตกมากที่สุด | 14 | 13 | 1 | - |
ดาวศุกร์
ดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ที่สว่างที่สุดบนท้องฟ้าระนาบวงโคจรของดาวศุกร์เอียงทำมุม
ร่วมทิศแนววงใน | 11 |
ห่างดวงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันตกมากที่สุด | 23 |
ร่วมทิศแนววงนอก | 25 |
สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม
ปลายเดือนมกราคม
ดาวศุกร์ค่อย
ปลายเดือนสิงหาคม
กลางเดือนธันวาคม
ดาวอังคาร
ดาวอังคารมีวงโคจรอยู่ถัดไปจากโลกตามระยะห่างจากดวงอาทิตย์ช่วงที่สังเกตดาวอังคารได้ดีที่สุดคือขณะที่ดาวอังคารอยู่ใกล้โลก
ดาวอังคารจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลเมื่อ พ.ศ. 2542 (ภาพ – Jim Bell (Cornell University), Justin Maki (JPL), Mike Wolff (Space Sciences Institute), NASA)
ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่มีพิสัยความสว่างกว้างมาก
ต้นปีเป็นช่วงที่ดาวอังคารอยู่บนท้องฟ้าเวลาเช้ามืดในกลุ่มดาวหญิงสาว
วันที่