สมาคมดาราศาสตร์ไทย

ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ 25 กรกฎาคม 2567

ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ 25 กรกฎาคม 2567

17 กรกฎาคม 2567
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 5 ตุลาคม 2567
โดย: วรเชษฐ์ บุญปลอด
ปีนี้มีปรากฏการณ์ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ที่สามารถสังเกตได้ในประเทศไทย ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นในเช้ามืดวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 สังเกตได้ทั่วประเทศ ครั้งที่ เกิดขึ้นในช่วงก่อนเช้ามืดวันที่ 15 ตุลาคม 2567 (รอสังเกตในคืนวันที่ 14 ตุลาคม) แต่เห็นได้เฉพาะตอนบนของประเทศเท่านั้น กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดไม่เห็นการบังครั้งที่ 2

เช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 เป็นข้างแรม ดวงจันทร์มีส่วนสว่างค่อนดวง เมื่อเริ่มการบัง ดวงจันทร์และดาวเสาร์อยู่บนท้องฟ้าด้านทิศใต้ มีมุมเงยประมาณ 70° การบังเริ่มขึ้นขณะดาวเสาร์อยู่ที่ขอบด้านซ้ายมือซึ่งเป็นด้านสว่างของดวงจันทร์ (ด้านบนคือทิศเหนือ หรือทิศที่ชี้ไปยังจุดเหนือศีรษะ) ช่วงสิ้นสุดการบัง ดาวเสาร์จะโผล่ออกมาจากหลังดวงจันทร์ที่ด้านตรงข้ามซึ่งเป็นด้านมืด

ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์สว่างดวงหนึ่งสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า แต่การที่ดวงจันทร์สว่างเกือบเต็มดวงมาอยู่ใกล้ จะทำให้สังเกตได้ยาก กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์จะช่วยให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น กล้องที่มีกำลังขยายสูงสามารถส่องเห็นวงแหวนของดาวเสาร์ได้ ขณะเริ่มบังใช้เวลาราว นาทีครึ่ง นับตั้งแต่ขอบดวงจันทร์เริ่มสัมผัสขอบด้านหนึ่งไปถึงขอบอีกด้านหนึ่งของวงแหวน ระยะเวลาดังกล่าวมีความยาวนานไม่เท่ากันสำหรับแต่ละพื้นที่ ขึ้นอยู่กับแนวการเคลื่อนที่ของดาวเสาร์ที่สัมพัทธ์กับดวงจันทร์

แผนภาพแสดงแนวการเคลื่อนที่ของดาวเสาร์เทียบกับดวงจันทร์ระหว่างดวงจันทร์บังดาวเสาร์ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 (จาก วรเชษฐ์ บุญปลอด)

ดาวเสาร์และบริวารไททันก่อนจะถูกดวงจันทร์บังราว 1-2 นาที (จาก Stellarium)

ขณะเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์มีส่วนสว่าง 84% ดาวเสาร์มีขนาดปรากฏ 18.6 พิลิปดา วงแหวนมีความกว้างในแนวศูนย์สูตรประมาณ 43 พิลิปดา หากใช้จุดศูนย์กลางของดาวเสาร์เป็นจุดอ้างอิงสำหรับการคำนวณ ได้ผลการคำนวณดังตารางด้านล่าง โดยขณะสิ้นสุดการบัง ดวงจันทร์จะเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และดาวเสาร์โผล่ออกมาจากหลังด้านมืดของดวงจันทร์

ดวงจันทร์บังดาวเสาร์ 25 กรกฎาคม 2567
สถานที่เริ่มบังมุมเงยสิ้นสุดการบังมุมเงย
กรุงเทพฯ03:1170°04:2765°
ขอนแก่น03:1967°04:3561°
เชียงใหม่03:1565°04:3461°
นครราชสีมา03:1669°04:3163°
นครศรีธรรมราช03:0474°04:1372°
ประจวบคีรีขันธ์03:0771°04:2268°
ระยอง03:1271°04:2566°
สงขลา03:0575°04:1073°
อุบลราชธานี03:2368°04:3460°


แผนที่จังหวัดในประเทศไทย ใช้หาเวลาเริ่มและสิ้นสุดการบังสำหรับสถานที่ใด ๆ โดยต้องทราบตำแหน่งโดยประมาณของสถานที่สังเกตการณ์ (จาก วรเชษฐ์ บุญปลอด)

พื้นที่อื่น ๆ ของโลก ได้แก่ บางส่วนทางด้านตะวันออกของทวีปแอฟริกา และบางส่วนของทวีปเอเชียก็สังเกตการบังครั้งนี้ได้ แต่เอเชียตะวันออกเกิดในเวลากลางวัน

แผนที่แสดงบริเวณที่เห็นดวงจันทร์บังดาวเสาร์ (ภายในขอบเขตของเส้นสีน้ำเงิน) นอกจากนี้ เส้นสีแดงเป็นแนวคั่นระหว่างด้านกลางคืนกับด้านกลางวันที่กึ่งกลางของปรากฏการณ์ โดยด้านซ้ายมือเป็นกลางคืน ด้านขวามือเป็นกลางวัน (จาก วรเชษฐ์ บุญปลอด)

ดวงจันทร์บังดาวเคราะห์ครั้งถัดไปที่สังเกตได้ในประเทศไทยเป็นดวงจันทร์บังดาวเสาร์อีกเช่นเดียวกัน เกิดขึ้นในช่วงก่อนเช้ามืดวันที่ 15 ตุลาคม 2567 (รอสังเกตในคืนวันที่ 14 ตุลาคม) แต่เห็นได้เฉพาะตอนบนของประเทศเท่านั้น กรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดไม่เห็นการบังครั้งนี้