สถานีอวกาศกับกระสวยอวกาศ
ค่ำวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 สถานีอวกาศนานาชาติและกระสวยอวกาศแอตแลนติสจะโคจรผ่านเหนือท้องฟ้าประเทศไทยโดยเห็นเป็นจุดสว่างคล้ายดาวแต่เคลื่อนที่ได้ สำหรับกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง สถานีอวกาศและกระสวยอวกาศเริ่มปรากฏในเวลาประมาณ 19.35 น. ตรงบริเวณใกล้ขอบฟ้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากนั้นเคลื่อนสูงขึ้นโดยเฉียงไปทางซ้ายมือ ถึงจุดสูงสุดบนท้องฟ้าในเวลา 19.38 น. ที่มุมเงยราว 60 องศา ต่อมามันจะจางลงเมื่อเคลื่อนเข้าสู่เงามืดของโลกในอีกไม่เกิน 20 วินาที สถานีอวกาศและกระสวยอวกาศหายไปที่มุมเงยประมาณ 40-50 องศา บนท้องฟ้าด้านทิศใต้
กระสวยอวกาศแอตแลนติสขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่วันที่7 กุมภาพันธ์ 2551 โดยไปเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศนานาชาติในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว กระสวยอวกาศแยกตัวออกจากสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นทั้งคู่เคลื่อนห่างออกจากกัน กระสวยอวกาศมีกำหนดกลับสู่พื้นโลกในเช้าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่นที่ฟลอริดา นั่นหมายความว่าในคืนวันอังคารนี้หากฟ้าเปิด ประเทศไทยจะมีโอกาสเห็นสถานีอวกาศนานาชาติและกระสวยอวกาศแอตแลนติส เป็นดาวสว่างสองดวงเคลื่อนข้ามท้องฟ้าโดยจะเห็นกระสวยอวกาศเคลื่อนนำหน้าสถานีอวกาศหลายองศา และห่างจากกันมากขึ้นเมื่อมีมุมเงยสูงขึ้น
สถานีอวกาศจัดว่าเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นและโคจรอยู่รอบโลกที่สว่างมากดวงหนึ่งบนท้องฟ้า(ยังมีการสว่างจ้าของดาวเทียมอิริเดียม ซึ่งสว่างกว่าหลายเท่า) แต่สถานีอวกาศไม่ได้มาปรากฏให้เห็นได้ทุกวัน เนื่องจากมันเคลื่อนที่รอบโลกด้วยคาบประมาณ 90 นาที และทุกรอบที่เคลื่อนที่ไปนั้น วงโคจรของสถานีอวกาศเมื่อเทียบกับพิกัดบนพื้นโลกจะเปลี่ยนไปทุกรอบ ประกอบกับเรามีโอกาสมองเห็นสถานีอวกาศรวมทั้งดาวเทียมดวงอื่น ๆ ได้เฉพาะเวลาหัวค่ำและก่อนรุ่งเช้าเท่านั้น อันเป็นจังหวะเวลาที่แสงอาทิตย์ตกกระทบสถานีอวกาศและท้องฟ้ามืดเพียงพอ
การเห็นกระสวยอวกาศและสถานีอวกาศนานาชาติพร้อมกันสำหรับประเทศไทยไม่ค่อยเกิดบ่อยนักช่วงที่กระสวยอวกาศขึ้นไปปฏิบัติภารกิจในอวกาศ โดยมากเป็นช่วงที่มันมักจะไม่โคจรผ่านท้องฟ้าประเทศไทยในเวลาที่เหมาะสม
กระสวยอวกาศแอตแลนติสขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่วันที่
สถานีอวกาศจัดว่าเป็นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้นและโคจรอยู่รอบโลกที่สว่างมากดวงหนึ่งบนท้องฟ้า
การเห็นกระสวยอวกาศและสถานีอวกาศนานาชาติพร้อมกันสำหรับประเทศไทยไม่ค่อยเกิดบ่อยนัก