นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวฤกษ์ที่ใหญ่ที่สุดและหนักที่สุดเท่าที่เคยรู้จัก มันหนักกว่าดวงอาทิตย์ถึง 300 เท่า และสว่างกว่าดวงอาทิตย์ถึง 10 ล้านเท่า
ในบรรดาดาวฤกษ์นับล้านที่อยู่บนท้องฟ้ามีมวลมากน้อยต่างกัน บางดวงอาจมีมวลเพียงเสี้ยวของดวงอาทิตย์ แต่บางดวงอาจมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์หลายเท่า นักดาราศาสตร์ระบุขีดจำกัดล่างของมวลดาวฤกษ์ได้ค่อนข้างชัดเจนว่าอยู่ที่ประมาณ 0.1 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ แต่ขีดจำกัดสูงสุดของมวลดาวฤกษ์ยังเป็นตัวเลขที่คลุมเครือ เหตุหนึ่งเพราะดาวฤกษ์มวลสูงมาก ๆ มีจำนวนน้อย เดิมทีนักดาราศาสตร์คะเนคร่าว ๆ ว่าดาวฤกษ์มีมวลสูงสุดได้ราว 150 เท่าของดวงอาทิตย์
คณะนักดาราศาสตร์ที่นำโดยพอล ครอวเทอร์ จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ในอังกฤษ ได้ค้นพบดาวดวงนี้ในขณะที่กำลังศึกษากระจุกดาวฤกษ์กระจุกหนึ่ง ดาวดวงนี้มีชื่อว่า อาร์เอ็มซี 136 เอ (RMC 136a) หรือ อาร์ 136 เอ (R 136a) อยู่ในเนบิวลาบึ้ง (Tarantula Nebula) ดาราจักรเมฆมาเจลันใหญ่ และวัดมวลของดาวดวงนี้ได้ว่ามีมวลถึง 265 เท่าของดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์ปกติจะมีมวลลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นเมื่อนักดาราศาสตร์คำนวณย้อนหลังเพื่อหามวลแรกเกิดของมัน ก็พบว่ามีมวลมากถึง 320 เท่าของดวงอาทิตย์
ดาวอาร์เอ็มซี136 เอ 1 ไม่เพียงแต่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์เท่านั้น แต่ยังมีอุณหภูมิพื้นผิวสูงถึงกว่า 40,000 องศาเซลเซียส เปรียบเทียบกับดวงอาทิตย์ที่มีอุณหภูมิพื้นผิว 6,000 องศาเซลเซียส และยังมีความสว่างมากกว่าดวงอาทิตย์หลายล้านเท่าอีกด้วย
หากเอาดาวดวงนี้มาวางที่ตำแหน่งแทนดวงอาทิตย์แน่นอนว่าไม่เพียงแต่คนบนโลกจะอยู่ไม่ได้ แต่โลกทั้งใบจะต้องถูกเผาเกรียมไปด้วย
นักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบไม่แน่ใจนักว่าดาวดวงนี้มีต้นกำเนิดและมีขนาดใหญ่โตอย่างนี้ได้อย่างไร มันอาจจะเป็นดาวยักษ์มาตั้งแต่แรก หรืออาจเกิดจากดาวมากกว่าหนึ่งดวงมาหลอมรวมกันจนเป็นดาวยักษ์ก็เป็นได้
หากนึกถึงวาระสุดท้ายของดาวดวงนี้แล้วนักดาราศาสตร์ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร โดยปกติ ดาวฤกษ์ที่มีมวล 8 ถึง 150 เท่าของดวงอาทิตย์ใช้พลังงานไปจนหมด จะระเบิดออกเป็นซูเปอร์โนวา แล้วกลายเป็นหลุมดำหรือดาวนิวตรอน แต่สำหรับดาวที่มีมวลสูงกว่านั้นมากอย่างอาร์ 136 เอ จะมีจุดจบอย่างไร ก็ยากจะจินตนาการ
ทฤษฎีที่ยอมรับโดยทั่วไปในปัจจุบันกล่าวว่าเมื่อดาวฤกษ์ที่มีมวลมากกว่า 150 เท่าของดวงอาทิตย์ใช้พลังงานไปจนหมด จะระเบิดออกอย่างรุนแรงยิ่งกว่าจนไม่เหลือซาก ไม่เหลือแม้แต่หลุมดำหรือดาวนิวตรอน
ในบรรดาดาวฤกษ์นับล้านที่อยู่บนท้องฟ้า
คณะนักดาราศาสตร์ที่นำโดย
ดาวอาร์เอ็มซี
หากเอาดาวดวงนี้มาวางที่ตำแหน่งแทนดวงอาทิตย์
นักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบไม่แน่ใจนักว่า
หากนึกถึงวาระสุดท้ายของดาวดวงนี้แล้ว
ทฤษฎีที่ยอมรับโดยทั่วไปในปัจจุบันกล่าวว่า