สมาคมดาราศาสตร์ไทย

ธรรมเนียมแปลก ๆ ของมนุษย์อวกาศ

ธรรมเนียมแปลก ๆ ของมนุษย์อวกาศ

25 มีนาคม 2567 โดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 9 เมษายน 2567
นี่คือเหตุการณ์จริง

ณ ศูนย์อวกาศไบโกนูร์ ฐานส่งจรวดขนาดใหญ่ของรัสเซียในพื้นที่ของประเทศคาซัคสถาน  รถบัสสีเงินวาววับแล่นไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังแท่นส่งจรวดที่มีจรวดตั้งตระหง่านพร้อมออกเดินทาง ภายในรถมีมนุษย์อวกาศสามคนในชุดควบคุมความดันสีขาว เป้าหมายของรถคันนี้คือนำมนุษย์ทั้งสามไปขึ้นจรวดเพื่อขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนสถานีอวกาศนานาชาติที่โคจรอบโลกอยู่

แต่ก่อนจะไปถึงแท่นส่งจรวด รถบัสคันนี้ก็มีเหตุต้องจอดกลางทาง แล้วมนุษย์อวกาศทั้งสามก็ก้าวลงมา เดินไปทางท้ายรถ แล้วก็..ฉี่ 

หากนี่เป็นการขับรถท่องเที่ยวก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกคนย่อมเคยมีประสบการณ์ต้องจอดรถเพื่อไปยิงกระต่ายข้างทางระหว่างนั่งรถทางไกล แต่นี่คือการเดินทางไปนอกโลก ขั้นตอนทุกอย่างต้องมีการตระเตรียมอย่างถี่ถ้วน การต้องหยุดกลางทางเพื่อลงมาปัสสาวะจึงดูเป็นเรื่องประหลาดไม่น้อย

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะลูกเรือเตรียมตัวไม่ดีหรือเป็นเรื่องผิดแผน การลงไปปัสสาวะระหว่างทางเป็นธรรมเนียมที่มนุษย์อวกาศของโซเวียตต่อมาถึงรัสเซียปฏิบัติสืบต่อกันมานานกว่า 50 ปี มันคือพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์

ลูกเรือยานโซยุซกำลังปัสสาวะรดยางล้อรถก่อนขึ้นจรวดไปอวกาศ เป็นธรรมเนียมที่ทำมาตั้งแต่สมัยยูริ กาการิน (จาก Roscosmos)

การบินอวกาศ เป็นแขนงที่อยู่กับสุดยอดของสหวิทยาการ ต้องพึ่งพาความรู้ทั้งทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมชั้นสูง แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเชื่อ การถือเคล็ดและโชคลาง โดยเฉพาะช่วงก่อนออกเดินทาง ทั้งโดยลูกเรือและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน แล้วไม่ใช่เป็นเรื่องทำกันเล่น ๆ หรือพอสนุกสนาน เรื่องนี้เขาถือเป็นเรื่องจริงจังเสียจนแม้ในบางครั้งที่การส่งจรวดต้องมีการเลื่อนออกไป เมื่อถึงเวลาเดินทางครั้งถัดไป ขั้นตอนพิธีต่าง ๆ ทางความเชื่อเหล่านี้ก็ต้องทำซ้ำเหมือนเดิม

ย้อนหลังไปในปี 2504 ยูริ กาการิน มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก กำลังนั่งรถไปยังแท่นส่งจรวดที่มียานวอสตอก อยู่ ระหว่างนั่งรถอยู่นั้นกาการินเกิดปวดปัสสาวะจนรถต้องหยุดให้ลงไปปล่อยข้างทางก่อนจะเดินทางต่อ หลังจากที่ภารกิจวอสตอก ของโซเวียตประสบความสำเร็จ ยูริ กาการิน กลายเป็นมนุษย์คนแรกที่ไปถึงอวกาศและโคจรรอบโลกได้ นับจากนั้น การแวะฉี่ข้างทางจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์อวกาศที่จะเดินทางไปกับยานของโซเวียตและรัสเซียทุกคนต้องทำ โดยจะปัสสาวะรดที่ล้อหลังขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งล้อที่กาการินเคยปัสสาวะใส่ สำหรับมนุษย์อวกาศผู้หญิงไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรประเจิดประเจ้อถึงขนาดนั้น เขาจะเตรียมมาจากที่พักโดยปัสสาวะใส่ถ้วยเล็ก ๆ ไว้ แล้วเมื่อถึงเวลาก็มารดใส่ล้อรถ ทั้งนี้เป็นการเอาเคล็ด โดยเชื่อว่าทำแบบเดียวกับกาการินแล้วก็จะประสบความสำเร็จและปลอดภัยกลับมาเช่นเดียวกัน

นอกจากเรื่องการแวะปัสสาวะระหว่างทางแล้ว ยังมีพิธีรีตองอีกหลายอย่างที่มนุษย์อวกาศโซเวียตและรัสเซียปฏิบัติสืบต่อกันมายาวนาน 

ในหนึ่งสัปดาห์ก่อนออกเดินทาง มนุษย์อวกาศจะร่วมกันปลูกต้นไม้ที่ถนนสายคอสโมนอตอัลเลย์ นอกจากจะถือว่าต้นไม้ที่ปลูกจะเป็นที่ระลึกที่ครั้งหนึ่งมนุษย์มาทำภารกิจอวกาศร่วมกัน ต้นไม้นี้ยังใช้เป็นอนุสรณ์ที่มีชีวิตหากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับภารกิจและมนุษย์อวกาศไม่ได้กลับมา เช่นเดียวกับที่ต้นไม้ที่กาการินปลูกก็ยังยืนต้นแผ่กิ่งก้านจนถึงปัจจุบัน

มนุษย์อวกาศของโซยุซกำลังปลูกต้นไม้ที่ถนนคอสโมนอตอัลเลย์ เป็นหนึ่งในพีธีที่ต้องทำก่อนออกเดินทางไปอวกาศ (จาก esa.int)

จรวดที่ใช้เดินทางจะถูกนำมาตั้งบนแท่นส่งสองวันก่อนออกเดินทาง ขณะที่จรวดถูกบรรทุกมาบนรถไฟจากโรงประกอบมายังแท่นส่ง ลูกเรือในเที่ยวบินนั้นจะถูกกันไว้ไม่ให้ชมขั้นตอนนี้ เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี เมื่อใกล้ถึงแท่นส่ง วิศวกรที่ควบคุมจะเอาเหรียญไปวางไว้บนรางรถไฟเพื่อให้รถบดให้แบน โดยเชื่อว่าทำแล้วภารกิจจะลุล่วงไปด้วยดี เมื่อจรวดตั้งขึ้นที่แท่นเรียบร้อยแล้ว จึงอนุญาตให้ลูกเรือมาชมจรวดได้ ในช่วงนี้จะมีพิธีทางศาสนาโดยพระนิกายออร์โธดอกซ์มาสวดมนต์ให้พรและพรมน้ำมนต์แก่ลูกเรือจนชุ่มฉ่ำ

ส่วนของพิธีทางศาสนานี้ไม่ใช่ขั้นตอนดั้งเดิม พิธีนี้เริ่มในปี 2537 โดยเป็นไปตามคำขอของ อเล็กซานเดอร์ วิกตอเรนโก ลูกเรือในภารกิจโซยุซ ทีเอ็ม-20 ซึ่งเป็นการไปปฏิบัติงานบนสถานีอวกาศมีร์ นับจากนั้นมาพิธีนี้ก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมก่อนการเดินทางทุกครั้ง

พระนิกายออร์โธดอกซ์กำลังรดน้ำมนต์ให้แก่มนุษย์อวกาศก่อนออกเดินทาง (จาก theverge.com)

จรวดโซยุซกำลังถูกนำจากโรงประกอบมายังแท่นส่ง ขั้นตอนนี้ลูกเรือจะไม่มีทางได้เห็นเพราะถือกันว่าเป็นลางไม่ดี 

ในคืนก่อนออกเดินทาง หนึ่งในสิ่งที่มนุษย์อวกาศจะมาทำร่วมกันคือมาชมภาพยนตร์เรื่อง ไวท์ซันออฟเดอะเดสเสิร์ต ซึ่งเป็นภาพยนตร์คลาสสิกของโซเวียตที่ออกฉายตั้งแต่ปี 2513 ธรรมเนียมนี้มีการปฏิบัติสืบต่อมาตั้งแต่ภาพยนตร์เข้าโรงเลยทีเดียว และจะต้องดูเรื่องนี้เท่านั้น ไม่มีเรื่องอื่น มนุษย์อวกาศที่ขึ้นอวกาศเป็นครั้งที่สองครั้งที่สามก็ต้องดูเรื่องเดิม เปลี่ยนเรื่องไม่ได้

ในวันเดินทาง ลูกเรือจะร่วมกันเซ็นชื่อที่กำแพงของพิพิธภัณฑ์โคโรเลฟในไบโกนูร์และบานประตูห้องพักเพื่อเป็นที่ระลึก บานประตูของห้องพักจึงเต็มไปด้วยลายเซ็นของลูกเรือรุ่นแล้วรุ่นเล่า 

หน้ารถยนต์ยังมีตุ๊กตาหน้ารถได้ แล้วทำไมยานอวกาศจะมีตุ๊กตาบ้างไม่ได้ ภายในโมดูลที่ลูกเรืออยู่จะมีตุ๊กตาตัวเล็กห้อยอยู่ ตุ๊กตานี้ถือเป็นตัวนำโชคประจำเที่ยวบิน นอกจากนี้ยังใช้เป็นตัวแสดงภาวะไร้น้ำหนักอีกด้วย เมื่อเครื่องยนต์จรวดทั้งหมดดับลง ตุ๊กตาตัวนี้จะลอยเคว้งไม่ถูกรั้งโดยเชือกที่ผูกไว้อีกต่อไป นี่เป็นสิ่งที่มนุษย์อวกาศจะสังเกตได้เป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกว่ายานได้เข้าสู่ภาวะไร้น้ำหนักแล้ว 

ทางฝั่งนาซาของสหรัฐอเมริกาก็มูหนักไม่น้อยหน้ากันสักเท่าใดนัก บางเรื่องก็มีเหมือนกับฝั่งรัสเซียจนไม่รู้ว่าใครลอกใคร บางทีอาจไม่ใช่การลอก แต่เป็นเพียงความเชื่อดั้งเดิมของฝรั่งก็ได้ เช่น การห้อยตุ๊กตานำโชคในยานก็มีการปฏิบัติกันในฝั่งนาซาเหมือนกัน  หรือความกลัวเลข 13 ซึ่งทางอเมริกันเป็นเอามากยิ่งกว่ารัสเซียเสียอีก

เมื่อครั้งที่นาซาส่งกระสวยอวกาศในรอบปฐมฤกษ์ในปี 2524 นอร์ม คาร์ลสัน หนึ่งในผู้อำนวยการทดสอบได้นำซุปถั่วและขนมปังข้าวโพดไปกินในที่ทำงานด้วย โดยตั้งใจว่าจะกินหลังจากการส่งผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อการส่งกระสวยผ่านพ้นไปด้วยดี เหล่าเจ้าหน้าที่ที่หิวโหยและเคร่งเครียดมาหลายชั่วโมงก็มารุมสวาปามซุปถั่วและขนมปังของคาร์ลสันจนเกลี้ยง ไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวเองได้กินบ้างหรือเปล่า ในเที่ยวบินต่อมาคาร์ลสันก็ยังคงเตรียมซุปถั่วและขนมปังไปเช่นเคย แต่ต้องเตรียมไปมากกว่าเดิม และมากขึ้นในแทบทุกเที่ยวบินเพราะไม่เคยพอ หลังจากนั้น การกินซุปถั่วกับขนมปังข้าวโพดจึงเป็นธรรมเนียมของเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินของศูนย์การบินอวกาศเคเนดี แม้หลังคาร์ลสันเกษียณอายุไปแล้ว ธรรมเนียมนี้ก็ยังคงอยู่ โดยโรงครัวของนาซาต้องเตรียมถั่วมากถึง 60 แกลลอนในทุกเที่ยวบินเพื่อการเลี้ยงฉลองนี้ 

นอร์ม คาร์ลสัน ขณะกำลังตักซุปถั่วให้เพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นของว่างที่คนนาซาจะมากินกันทุกครั้งหลังการส่งจรวดผ่านพ้นไปด้วยดี (จาก Kennedy Space Center)

ทางฝั่งลูกเรือก็มีธรรมเนียมเรื่องกินเหมือนกัน โดยก่อนการเดินทางจะต้องมาร่วมโต๊ะกินซีตเค้ก สเต็ก และไข่คน รายการอาหารนี้ก็เหมือนกับที่ แอลัน เชปเพิร์ด มนุษย์อวกาศคนแรกของสหรัฐอเมริกากินก่อนออกเดินทางไปสร้างประวัติศาสตร์กับยานเมอร์คิวรีในปี 2504 ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการเดินทางกลางวันหรือกลางคืนก็ต้องมีอาหารมื้อพิเศษนี้ อย่างไรก็ตาม แม้อาหารจะมีไว้ให้อย่างเต็มคราบ แต่ลูกเรือมักกินได้ไม่มากนัก บางคนถึงกับกินอะไรไม่ลงเลย 

ก่อนจะเดินทางขึ้นไปยังกระสวยอวกาศ ลูกเรือจะต้องมาเล่นโปกเกอร์กันก่อน นี่ก็เป็นการถือเคล็ดอีกเช่นกัน เป็นโปกเกอร์กติกาพิเศษที่จะต้องเล่นไม่หยุดจนกว่าผู้บังคับการของภารกิจจะแพ้จึงออกไปขึ้นกระสวยได้ มีเรื่องเล่าว่าบางเที่ยวบินเกมโปกเกอร์นี้เกือบทำให้ตารางเวลาของการส่งจรวดต้องเลื่อนไปเลยทีเดียว

ลูกเรือของกระสวยอวกาศเที่ยวบินเอสทีเอส-132 ขณะเดินไปขึ้นรถเพื่อไปกระสวยอวกาศ คนที่สามจากซ้ายคือ เคนเนท แฮม ผู้บังคับการของเที่ยวบิน เดินยิ้มร่าหลังจากแพ้โปกเกอร์ ซึ่งเป็นเกมที่มนุษย์อวกาศจะต้องเล่นเอาเคล็ดกันก่อนออกเดินทาง 



ในระยะหลังมานี้ เริ่มมีธรรมเนียมใหม่ในฝั่งอเมริกัน นั่นคือมนุษย์อวกาศจะพกผ้าเช็ดตัวไปด้วย เป็นธรรมเนียมที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาพยนต์เรื่องฮิตช์ไฮเกอร์สไกด์ทูเดอะกาแล็กซี (คู่มือท่องกาแล็กซีฉบับนักโบก) แม้ว่าจะไม่ได้เอาไปใช้งานเป็นของสารพัดนึกแบบที่ปรากฏภาพยนตร์ก็ตาม 

การที่มนุษย์อวกาศและผู้เกี่ยวข้องกับการบินอวกาศมีธรรมเนียมและถือโชคถือลางอาจดูเป็นเรื่องไร้สาระ งมงายไม่เข้าเรื่อง แต่ลองคิดดูว่าหากเราต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับพวกเขาที่จะต้องเข้าไปอยู่ในกล่องเหล็กแคบ ๆ ที่ผูกติดอยู่กับถังที่มีเชื้อเพลิงหลายร้อยตันอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็จะจุดไฟที่ปลายถังอีกด้านหนึ่ง ความผิดพลาดแม้เพียงน้อยนิดก็อาจทำให้ร่างกายของคุณแหลกเหลวหรือไหม้เป็นผุยผง ก็คงอดไม่ได้ที่ต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจไว้บ้าง การทำอะไรบางอย่างตามความเชื่อในสภาวการณ์เช่นนี้อาจช่วยให้ลดความเครียดและความวิตกกังวลได้ ซึ่งย่อมเป็นผลดีต่อภารกิจ ตราบใดที่ความเชื่อโชคลางนั้นไม่ถูกยกขึ้นมาจนมีอิทธิพลเหนือเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ก็ย่อมไม่ใช่เรื่องไร้สาระ 

ในอนาคต หากมีคนไทยได้ไปอวกาศบ้าง ก็จงอย่าแปลกใจที่จะพบว่าตัวแทนจากไทยมีการพกผ้ายันต์ คล้องสายสินจน์ เจิมหน้าผาก หรือห้อยพระเครื่องเต็มคอไปอวกาศด้วย 

ข้อมูลอ้างอิง
Russia's Space Traditions! 14 Things Every Cosmonaut Does for Launch
The strangest space launch rituals
Astronauts Have Some Weird Pre-Launch Traditions
Why Cosmonauts Pee on the Bus That Picks Them Up for Launches
What are the last things an astronaut does before going into space?
The superstitions of space travel revealed: Fear of the number 13, peeing on tyres and tapping Snoopy's nose among bizarre rituals
Why Russian Astronauts Pee on Bus Tire Before Launching Into Space, and Other Pre-Flight Rituals
Journey of the Soyuz, from lift-off to landing
Space Shuttle Tradition that’s Full of Beans
Walking through the doors of history: unlocking space tradition

บทความที่เกี่ยวข้อง