สมาคมดาราศาสตร์ไทย

มนุษย์อวกาศอึยังไง?

มนุษย์อวกาศอึยังไง?

โดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com) 16 มิถุนายน 2568
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 25 มิถุนายน 2568
เป็นเวลาเช้าตรู่ของวันที่ พฤษภาคม พ.ศ.2504 แอลัน เชปเพิร์ด ในชุดมนุษย์อวกาศกำลังเตรียมพร้อมอยู่ในยานฟรีดอม ที่ตั้งอยู่บนฐานปล่อย เขากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ขึ้นสู่อวกาศ 

การนับถอยหลังกำลังดำเนินไปจนกระทั่งเหลืออีกเพียงไม่กี่นาทีจะถึงเวลาปล่อย แต่ทันใดนั้นเองศูนย์ควบคุมก็ได้ยินเสียงจากเชปเพิร์ดแจ้งมาว่า “เอ่อ… ผมปวดฉี่”

หากคุณเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมภารกิจในวันนั้น คุณจะทำอย่างไร? 

นี่คือสิ่งไม่คาดฝันโดยแท้ ภารกิจครั้งนั้นเป็นภารกิจสั้น ๆ เพียงนำยานขึ้นสัมผัสอวกาศแล้วก็กลับลงสู่พื้นโลก กินเวลาตั้งแต่ทะยานขึ้นจนถึงกลับลงสู่ผิวโลกเพียง 15 นาทีเท่านั้น ผู้วางแผนภารกิจคิดว่าการขับถ่ายคงไม่เกิดขึ้น จึงมองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ในความเป็นจริงวันนั้นเชปเพิร์ดต้องเตรียมพร้อมอยู่ในยานเพื่อรอปล่อยเป็นเวลานานถึงห้าชั่วโมง ชุดอวกาศที่ใส่ก็พะรุงพะรังไปด้วยอุปกรณ์ตรวจวัด หากจะต้องถอดชุดเพื่อลงมาเข้าส้วมแล้วกลับมาสวมใหม่ จะต้องใช้เวลาอีกนับชั่วโมง กระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ที่ดำเนินมาอาจต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด ผู้ควบคุมภารกิจจึงตัดสินใจให้เชปเพิร์ดปล่อยใส่ชุดไปเลยเพื่อให้ภารกิจดำเนินต่อไปตามตารางเวลา ด้วยเหตุนี้ การเดินทางสู่อวกาศครั้งแรกอันน่าภาคภูมิของชาวอเมริกันจึงคละคลุ้งและชุ่มโชกไปด้วยปัสสาวะของเชปเพิร์ด

แอลัน เชปเพิร์ด นักบินอวกาศคนแรกของสหรัฐอเมริกา (จาก NASA)

เรื่องการขับถ่ายบนอวกาศเป็นเรื่องใหญ่และชวนใคร่รู้อย่างมาก มนุษย์อวกาศอเมริกันหลายคนกล่าวว่า เมื่อต้องไปปรากฏตัวต่อสาธารณะเพื่อให้ความรู้และบอกเล่าประสบการณ์ในอวกาศ จะมีคำถามยอดนิยมจากผู้ฟังอยู่สองคำถามที่ต้องได้ยินทุกครั้งไป คือ อยู่บนอวกาศมองเห็นกำแพงเมืองจีนจริงไหม กับคำถามว่าอยู่บนอวกาศอึยังไง นั่นแสดงว่าเรื่องการขับถ่ายในอวกาศเป็นสิ่งที่อยู่ในความสนใจของผู้คนเสมอ

หลังจากภารกิจของเชปเพิร์ดครั้งนั้น นาซาต้องมาขบคิดอย่างจริงจังว่าจะรับมือกับสถานการณ์ธรรมชาติเรียกร้องได้อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อภารกิจในยุคถัดมาต้องกินเวลานานขึ้นเป็นวันหรือหลายวัน ยิ่งเป็นภารกิจไปดวงจันทร์ก็จะต้องใช้เวลานานนับสัปดาห์

แม้มนุษย์อวกาศทุกคนจะได้รับการจัดสรรอาหารโดยเลือกให้เป็นอาหารเส้นใยต่ำ เพื่อให้มีการขับถ่ายให้น้อยที่สุด แต่ก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อร่างกายเข้าสู่สภาพไร้น้ำหนัก หรือจะเรียกให้ถูกต้องมากกว่าก็คือ ภาวะความโน้มถ่วงน้อย การเคลื่อนที่ของของเหลวในร่างกายจะเปลี่ยนไป ซึ่งไตจะรับรู้และตอบสนองด้วยการขับปัสสาวะ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเพียงภายในสองชั่วโมงหลังจากที่ขึ้นจากโลกไป



การรับมือเรื่องขับถ่ายขณะเดินทางท่องอวกาศมีความท้าทายอย่างมาก กิจกรรมที่เป็นเรื่องพื้นฐานเมื่ออยู่บนโลกกลับกลายเป็นเรื่องวุ่นวายเมื่อต้องเดินทางขึ้นสู่ห้วงอวกาศ เพราะเมื่ออยู่ในภาวะความโน้มถ่วงน้อย ของเสียไม่ว่าจะเป็นของเหลวหรือของแข็งเมื่อออกจากร่างกายก็จะไม่ตกลงสู่เบื้องล่าง กลับเกาะติดอยู่กับร่างกาย หรือไม่ก็ลอยละล่อง จะทำอย่างไรให้ของเสียเหล่านั้นไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่ 

วิธีปลดทุกข์ของมนุษย์อวกาศมีวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ย้อนหลังไปในยุคของโครงการเมอร์คิวรี ซึ่งเป็นโครงการนำร่องก่อนยุคอะพอลโล ในยานเมอร์คิวรีมีอุปกรณ์เก็บปัสสาวะ ซึ่งบางครั้งก็สร้างปัญหา เช่นเมื่อครั้งที่ กอร์ดอน คูเปอร์ ออกไปนอกอวกาศในภารกิจโคจรรอบโลก 22 รอบเป็นเวลา 34 ชั่วโมง ในภารกิจนั้นระบบต่าง ๆ ในยานทำงานรวนหลายครั้ง จนคูเปอร์ถึงกับต้องเข้าควบคุมด้วยมือแทนในขณะกลับสู่โลก การสืบสวนภายหลังพบว่าสาเหตุของปัญหานั้นเกิดจากละอองปัสสาวะรั่วจากถุงเก็บไปเปื้อนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คูเปอร์เกือบต้องตายเพราะปัสสาวะของตัวเอง

ละอองปัสสาวะไม่ได้เป็นภัยเฉพาะต่ออุปกรณ์ภายในยานเท่านั้น แม้เมื่อถูกปล่อยออกนอกยานก็อาจสร้างปัญหาได้เช่นกัน เคยมีการตรวจสอบหาสาเหตุที่แผงเซลสุริยะของสถานีอวกาศมีร์ของรัสเซียลดประสิทธิภาพลงไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์ พบว่าสาเหตุคือละอองปัสสาวะที่ปล่อยออกมาจากยานครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดเวลาการใช้งานอันยาวนานไปจับเป็นคราบอยู่บนแผง 

การขับถ่ายในยานอวกาศเป็นประสบการณ์ไม่น่ารื่นรมย์นัก ดังจะเห็นว่ามนุษย์อวกาศมักจะกินอาหารน้อยกว่าที่เตรียมไป เพราะเขาไม่อยากต้องขับถ่ายบ่อยนัก 

ถัดจากโครงการเมอร์คิวรีคือยุคของโครงการเจมินี ซึ่งมีมนุษย์อวกาศสองคน และปฏิบัติงานนานถึงสองสัปดาห์ แน่นอนว่าเลี่ยงไม่พ้นการขับถ่าย วิธีที่ใช้ในโครงการนี้คือ ถ่ายใส่ถุงเก็บ

ถุงเก็บเป็นวิธีมาตรฐานของนาซาที่ใช้มาต่อเนื่องจนถึงยุคอะพอลโล การขับถ่ายด้วยวิธีนี้เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เมื่อมนุษย์อวกาศต้องการถ่ายหนัก จะต้องถ่ายใส่ถุงเก็บที่แปะแนบสนิทกับก้นด้วยเทปกาว เมื่อถ่ายเสร็จก็ต้องใช้นิ้วสอดเข้าไปในปลอกที่ปากถุงเพื่อปลดอุจจาระออกจากตัวเพราะอุจจาระไม่ขาดเองในสภาวะไร้น้ำหนัก ต่อจากนั้นใส่ยาฆ่าเชื้อเข้าไปในถุงเก็บแล้วนวดคลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อป้องกันการหมักซึ่งอาจทำให้เกิดแรงดันแก๊สจนทำให้ถุงเก็บระเบิดได้ ส่วนการถ่ายปัสสาวะก็จะใช้อุปกรณ์คล้ายถุงยางอนามัยที่ปลายอีกด้านหนึ่งต่อเข้ากับท่อที่จะนำปัสสาวะไปปล่อยออกนอกยาน

ชุดเก็บปัสสาวะที่ใช้ในโครงการอะพอลโล (จาก NASA)

ถุงถ่ายหนักในโครงการอะพอลโล (จาก NASA)

อย่าได้คิดไปว่าขั้นตอนอันน่าสะอิดสะเอียนนี้จะได้ทำในห้องหับที่เป็นส่วนตัว เนื่องจากยานอะพอลโลไม่มีส้วม การขับถ่ายทั้งหลายก็ทำในห้องนักบินนั่นเอง ห้องนักบินของยานอะพอลโลก็คับแคบมาก ที่นั่งประจำของนักบินทั้งสามคนเรียงติดกันในสภาพแออัดเหมือนคนสามคนนั่งเบียดกันอยู่ในเบาะหลังของรถเก๋ง เมื่อมีใครต้องการทำธุระส่วนตัว ก็ต้องย้ายมาทำที่ริมด้านหนึ่ง ส่วนอีกสองคนที่เหลือก็ต้องขยับร่นหนีไปให้ห่างที่สุด ทำได้แค่นี้จริง ๆ และเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นมาในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งของการจัดการของเสีย ความสยดสยองย่อมบังเกิด ดังที่เคยเกิดขึ้นในภารกิจอะพอลโล 10 ที่จู่ ๆ ก็เกิดมีเศษอุจจาระปริศนาลอยขึ้นมาในห้องนักบิน


ส่วนหนึ่งของบทสนทนาที่ถอดจากแถบบันทึกเสียงในยานอะพอลโล 10 ภารกิจนี้มี ทอม สแตฟฟอร์ด เป็นผู้บังคับการ จอห์น ยัง เป็นนักบินยานสั่งการ และยูจีน เชอร์แนน เป็นนักบินยานลงดวงจันทร์ เหตุเกิดขึ้นในวันที่ ของภารกิจ แสดงถึงช่วงเวลาลำบากอันน่าขันที่นักบินทั้งสามต้องประสบเนื่องจากปัญหาการจัดการของเสีย และจนถึงบัดนี้ปริศนาก็ยังไม่คลายว่าใครคือเจ้าของสิ่งนั้น 

สแตฟฟอร์ด:“เฮ่ย นั่นใครทำน่ะ?”
ยัง:“ทำอะไรครับ?”
เชอร์แนน:“อะไรเหรอ?”
สแตฟฟอร์ด:“ใครทำ?” (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
เชอร์แนน:“มันมาจากไหนเนี่ย?”
สแตฟฟอร์ด:“หยิบผ้าเช็ดหน้าให้ที อึใครไม่รู้ลอยขึ้นมา”
ยัง:“ผมปล่าวนา ไม่ใช่ของผม”
เชอร์แนน:“ไม่ใช่ของผมเหมือนกัน”
สแตฟฟอร์ด:“ถ้าเป็นของผมมันต้องหนืด ๆ กว่านี้หน่อย เขวี้ยงมันทิ้งไป!”
ยัง:“โอ พระเจ้า!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”


เมื่อถึงเวลาต้องออกไปปฏิบัติงานภายนอกยาน ทุกคนที่ออกไปย่ำดวงจันทร์ต้องใส่ผ้าอ้อมไว้ข้างใน ซึ่งก็เป็นวิธีที่สร้างความลำบากในการปฏิบัติภารกิจไม่น้อย ดีที่ตลอดภารกิจอะพอลโลไม่มีใครต้องถ่ายใส่ผ้าอ้อมจริง ๆ เลย อย่างไรก็ตาม การใช้ผ้าอ้อมก็ถือว่ามีประสิทธิภาพดี และยังคงเป็นวิธีที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสำหรับการปฏิบัติภารกิจนอกยาน รวมถึงขณะที่ขึ้นจากโลกและเมื่อกลับเข้าสู่โลกด้วย

กว่าที่มนุษย์อวกาศจะมีส้วมใช้ก็ต้องรอมาถึงยุคของสถานีอวกาศ ทั้งสถานีซัลยุตของโซเวียตและสกายแลบของสหรัฐอเมริกามีส้วมติดตั้งอยู่ภายใน สถานีซัลยุตมีระบบกรองน้ำปัสสาวะเพื่อนำน้ำสะอาดกลับมาใช้ดื่มกิน มีโถสำหรับถ่ายหนักที่มีระบบดูดของเสียไปเก็บไว้ในแคปซูลเพื่อรอกำจัดโดยการทิ้งใส่โลกเพื่อให้เผาไหม้ไปในบรรยากาศ ส่วนสกายแลบ ของเสียจากร่างกายจะถูกอบให้แห้งแล้วเก็บไว้เพื่อรอนำกลับโลกมาวิจัยต่อไป 

สกายแลบคือสถานีอวกาศแห่งแรกของสหรัฐอเมริกา เป็นโครงการยักษ์ใหญ่ไม่แพ้อะพอลโล สถานีสกายแล็บมีการออกแบบภายในหรูหรา มีพื้นที่กว้างขวาง มนุษย์อวกาศมีโต๊ะกินข้าว มีเครื่องออกกำลังกาย มีแม้แต่ห้องอาบน้ำฝักบัว แต่สกายแลบไม่มีระบบหมุนเวียนใช้น้ำซ้ำ จึงต้องขนน้ำขึ้นไปเก็บไว้บนสถานีมากถึงหนึ่งพันแกลลอน และที่แย่ที่สุดคือ ไม่มีสิ่งที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นส้วม สิ่งที่วิศวกรผู้ออกแบบเตรียมไว้ให้มนุษย์อวกาศใช้ขับถ่ายมีชื่อแสนไพเราะว่า ระบบจัดการของเสีย (Waste Management System) แต่ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกน่าเรียกว่า "รูอึ" มากกว่า นอกจากรูปลักษณ์ไม่โสภาแล้ว ระบบจัดการของเสียของสกายแลบยังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ขับถ่ายได้ลำบากและมีขั้นตอนที่ออกจะน่าอับอาย แถมยังมีการจัดการกลิ่นที่ไม่ดี ระบบลมดูดปัสสาวะแรงดูดน้อยเกินไป ส้วมของสกายแลบจึงเป็นหนึ่งในความขายหน้าของนาซาที่เสริมเข้าไปในความล้มเหลวของโครงการสกายแลบ

ในบรรดาส้วมอวกาศทั้งหมดที่เคยมีการสร้างกันมา ส้วมที่มีรูปลักษณ์ภายนอกดูดีที่สุดน่าจะเป็นของกระสวยอวกาศ บนกระสวยอวกาศมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้าง การขับถ่ายของมนุษย์อวกาศจึงน่าจะสะดวกสบายและให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการขับถ่ายบนโลกมากขึ้น มีโถถ่ายหนักที่มีแผ่นรองนั่งคล้ายโถทั่วไปบนโลก ภายในทำงานด้วยระบบลมดูด มีกรวยสำหรับสำหรับถ่ายปัสสาวะแยกออกมาต่างหาก มีสายรัดเท้าและรัดเอวเพื่อให้ร่างกายอยู่ติดกับโถอย่างแนบแน่นเวลาใช้งานมิให้ตัวลอยขึ้นมาขณะขับถ่าย แต่มนุษย์อวกาศของนาซาดูจะไม่ค่อยชอบระบบนี้สักเท่าใดนัก เพราะหลายคนกล่าวว่าตนเลือกใช้วิธีเอามือค้ำฝ้าเพดานด้านบนมากกว่า 

หัวข้อหนึ่งในการฝึกซ้อมการใช้การส้วมของกระสวยอวกาศ คือการฝึกการเล็งให้ตรง ส้วมที่ใช้ฝึกซ้อมจะมีโถที่ทำขึ้นพิเศษคล้ายของที่ใช้งานจริงบนกระสวย ภายในโถจะมีไฟสว่างและมีกล้องวิดีโอถ่ายจากภายใน ภาพจากกล้องจะปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์ที่ตั้งอยู่หน้านักบินเพื่อช่วยฝึกหย่อนก้นให้ลงตรงกลางช่องที่กว้างเพียงสี่นิ้วพอดีและแนบสนิท ผู้ออกแบบส้วมนี้กล่าวว่าการเล็งเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะความสยดสยองย่อมบังเกิดหากหย่อนก้นไม่ตรงกลางปากโถหรือไม่สนิทแนบเนื้อ แล้วเหตุสยองที่ว่าก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วจริง ๆ บนสกายแลบ 

ห้องอาบน้ำ (ซ้าย) กับห้องขับถ่าย (ขวา) บนสกายแลบ (จาก NASA)

บนยานโซยุซของรัสเซียก็มีส้วมเช่นกัน ส้วมของโซยุซอยู่ในโมดูลโคจร มีขนาดเล็กจนน่าจะเรียกว่าส้วมมือถือ ดูเผิน ๆ อาจคิดว่าเป็นอุปกรณ์รดน้ำต้นไม้ ไม่มีโถให้นั่ง เวลาจะใช้งานต้องนำมาแนบเข้าหว่างขา ทำงานด้วยระบบลมดูด นับเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ระบบส้วมของโซยุซนี้มีใช้งานมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นแล้ว ซึ่งในช่วงเวลานั้นมนุษย์อวกาศฝั่งอเมริกายังใช้ถุงแปะก้นอยู่เลย

การปัสสาวะดูจะวุ่นวายน้อยกว่า มนุษย์อวกาศทั้งหญิงชายต้องถ่ายใส่ปากท่อยาวที่มีปลายถอดเปลี่ยนได้สำหรับผู้ใช้แต่ละคน สำหรับผู้ชายปลายของท่อเป็นรูปกรวยปากกลม เมื่อต้องการใช้ก็เพียงจ่อใกล้ ๆ แล้วปล่อยได้ ระบบลมดูดในท่อจะดูดปัสสาวะเข้าไปเก็บไว้ในช่องเก็บเอง ส่วนสำหรับผู้หญิงปลายท่อจะเป็นรูปกรวยปากรีที่เวลาใช้ต้องแนบสนิทกับร่างกาย

“ส้วมมือถือ” ที่ใช้บนยานโซยูซ ชุดบนสำหรับผู้หญิง (ไม่ได้ต่อท่อลมไว้) ชุดล่างสำหรับผู้ชาย  (จาก วิกิมีเดียคอมมอนส์)


จีนก็มีสถานีอวกาศของตนเองเหมือนกัน สถานีอวกาศแห่งแรกของจีนคือ เทียนกง-1 เป็นสถานีขนาดเล็ก อีกทั้งการปฏิบัติภารกิจแต่ละครั้งจะต้องมียานเฉินโจวซึ่งมีส้วมในตัวอยู่แล้วมาเชื่อมต่ออยู่ จึงไม่จำเป็นต้องสร้างห้องส้วมในเทียนกง-1 ให้ซ้ำซ้อน เมื่อลูกเรือต้องการขับถ่าย ก็มาทำธุระในเฉินโจวแทน ส้วมของเฉินโจวมีระบบบำบัดน้ำปัสสาวะเช่นกัน ส่วนอุจจาระจะถูกนำไปตากแห้งและบดเป็นผงก่อนปล่อยออกสู่นอกยาน 

ส่วนสถานีเทียนกง ซึ่งเป็นสถานีอวกาศรุ่นใหม่สุดของจีน (อย่าสับสนกับชื่อ จีนมีสถานีอวกาศสามสถานี สถานีแรกชื่อ เทียนกง สถานีที่สองชื่อ เทียนกง สถานีที่สามซึ่งใช้กันในปัจจุบันชื่อ เทียนกง) มีห้องส้วมในตัวด้วย แต่รายละเอียดของส้วมเทียนกงไม่เป็นที่เปิดเผย จึงไม่อาจทราบว่าใช้ระบบอย่างไรและใช้งานได้ดีเพียงใด 

ถ้าจะมองหาห้องส้วมอวกาศที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ก็คงต้องอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ ปัจจุบันสถานีอวกาศนานาชาติมีส้วมประจำอยู่สามแห่ง คือที่มอดูลนาอูกากับมอดูลซเวซดาของฝั่งรัสเซีย และที่มอดูลทรานควิลิตีของฝั่งอเมริกา เดิมทีส้วมที่ติดตั้งในมอดูลฝั่งอเมริกันก็เป็นส้วมของรัสเซีย อเมริกาซื้อจากรัสเซียมาติดตั้งตรง ๆ เลย ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่รับประกันว่าส้วมรัสเซียต้องดีจริง ดีจนอเมริกาเลือกที่จะซื้อไปติดตั้งในมอดูลของตนแทนที่จะพัฒนาขึ้นมาเอง

แม้ส้วมอวกาศรัสเซียหน้าตาไม่น่านั่งนัก ดูรูปร่างเหมือนปั้มไฮดรอลิกมากกว่าโถส้วม แต่ก็เป็นส้วมที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า ปรับปรุงมาจากส้วมรุ่นบุกเบิกที่ใช้กันในสถานีซัลยุต มีโถถ่ายหนักขนาดกะทัดรัด ช่องปากโถแคบเพียงไม่กี่นิ้ว ของเสียที่ออกจากร่างกายจะถูกดูดเข้าสู่ระบบกักเก็บด้วยระบบลมดูด อากาศภายในโถที่ใช้ในการพัดพาจะถูกดูดไปเข้าเครื่องกรองอากาศก่อนจะปล่อยกลับออกมาเพื่อหมุนเวียนใช้ในยานต่อไป

มนุษย์อวกาศอเมริกันต้องใช้ส้วมอวกาศของรัสเซียมาตลอด จนปี 2563 ก็ถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อนาซาได้พัฒนาระบบส้วมอวกาศของตัวเองที่สดใหม่ไฉไลกว่าเดิม มีชื่อว่า ระบบกำจัดของเสียสากล (Universal Waste Management System) ส้วมที่แพงระยับถึง 23 ล้านดอลลาร์นี้พัฒนามาเพื่อใช้ในภารกิจบนสถานีอวกาศและบนยานโอไรอันที่จะใช้พามนุษย์กลับไปดวงจันทร์รวมถึงดาวอังคาร  ส้วมรุ่นใหม่นี้ใช้ได้ทั้งหญิงชาย มีขนาดเล็กกะทัดรัดกว่าของรัสเซียถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ส้วมนี้ได้รับการติดตั้งในมอดูลทรานควิลิตีแทนส้วมรัสเซียและประจำการถาวรมานับแต่บัดนั้น ส่วนจะใช้งานได้ดีหรือไม่ ยังต้องให้เวลาช่วยพิสูจน์กันต่อไป

ระบบจัดการของเสียสากล หรือส้วมอวกาศรุ่นล่าสุดของนาซา 

ห้องสุขาในโมดูลซเวซดาบนสถานีอวกาศนานาชาติ ทางขวาล่างคือโถถ่ายหนัก ท่อยาวที่มีปากแตรคือท่อสำหรับปัสสาวะ  


ซาแมนทรา คริสโตฟอเรตตี นักบินอวกาศชาวอิตาลีขณะอยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ กำลังสาธิตการใช้สุขาในอวกาศ  


ห้องสุขารุ่นแรกในโมดูลทรานควิลิตีของสถานีอวกาศนานาชาติ ใช้ระบบโถของรัสเซียก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นระบบของอเมริกัน 

อย่างไรก็ตาม ระบบถุงเก็บก็ยังไม่ถูกละทิ้งไปเสียทีเดียว เพราะยังคงมีประจำอยู่ในสถานีอวกาศในฐานะระบบสำรองในกรณีที่ส้วมอวกาศขัดข้อง และที่ผ่านมาระบบสำรองนี้ก็ต้องถูกนำมาใช้หลายครั้งแล้ว

ขณะนี้ นาซาและองค์การอวกาศอื่นเริ่มมีความคิดที่จะส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์อีกครั้ง รวมไปถึงการส่งมนุษย์ไปไกลถึงดาวอังคาร ทำให้ปัญหาเรื่องขับถ่ายยิ่งยากขึ้นไปอีก เพราะภารกิจเช่นนี้อาจเกิดกรณีที่มนุษย์อวกาศต้องใส่ชุดอวกาศออกไปอยู่กลางแจ้งนานนับสัปดาห์ จะทำอย่างไรหากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดปวดปัสสาวะ ปวดอุจจาระ หรือมีประจำเดือน? ผ้าอ้อมไม่เหมาะกับการใช้งานระยะยาวแบบนั้น จะถอดชุดไปนั่งยองกลางทุ่งก็ไม่ได้ มีทางเดียวคือต้องมีระบบจัดการและจัดเก็บของเสียทั้งหลายอยู่ภายในชุดอวกาศนั้นเลย

โจทย์นี้หนักหนาเสียจนนาซาต้องขอระดมความคิดจากสาธารณชน โดยจัดโครงการประกวดแนวคิดในการออกแบบชุดอวกาศที่มี "ส้วมในตัว" โดยมีเงื่อนไขว่าชุดนี้จะต้องใช้งานได้ทั้งหญิงชาย กำจัดของเสียจากร่างกาย ทั้งอุจจาระ ปัสสาวะ รวมถึงของเหลวจากการมีประจำเดือนได้โดยมนุษย์อวกาศไม่ต้องลงมือทำเอง และต้องทำงานได้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหกวันติดต่อกัน โครงการนี้ได้จัดขึ้นและตัดสินไปแล้วตั้งแต่ปี 2560 ผลงานของผู้เข้าประกวดได้ให้แนวคิดใหม่ ๆ มากกว่าร้อยแบบ แนวคิดดังกล่าวถูกนำไปพัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้ใช้งานได้จริงต่อไป คงอีกไม่นานที่เราจะได้ยลโฉมชุดอวกาศแห่งอนาคตที่มีส้วมในตัวนี้

นักบินอวกาศและวิศวกรของศูนย์การบินอวกาศจอห์นสันกำลังทดสอบชุดอวกาศที่จะใช้ในโครงการโอไรอัน  

บรรณานุกรม

Pogue, William R. (2014). How Do You Go To the Bathroom in Space?.  New York. Tom Doherty Associates. 
Amy Shira Teitel. (2015). Here Are Some Weird Facts About Pooping in Space. สืบค้นเมื่อ พฤจิกายน 2560, จาก popsci.com: http://www.popsci.com/brief-history-pooping-in-space
Space Poop. สืบค้นเมื่อ พฤจิกายน 2560, จาก herox.com: https://herox.com/SpacePoop/overview
Richard L. Sauer, George K. Jorgensen. (2015). SP-368 Biomedical Results of Apollo. สืบค้นเมื่อ พฤจิกายน 2560, จาก nasa.gov: https://history.nasa.gov/SP-368/s6ch2.htm
Ross Pomeroy. (2015). Why Space Travel Can Be Absolutely Disgusting. สืบค้นเมื่อ 15 มีนาคม 2560, จาก space.com: https://www.space.com/36056-why-space-travel-can-be-absolutely-disgusting.html
Calla Cofield. (2018). NASA's New Spacesuit Has Built-In Toilet. สืบค้นเมื่อ 15 มิถุนายน 2560, จาก space.com: https://www.space.com/39710-orion-spacesuit-waste-disposal-system.html



หมายเหตุ *
ดัดแปลงจากบทความ "สุขาอวกาศ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต" ที่ตีพิมพ์ในวารสารทางช้างเผือก ฉบับเดือน เมษายน-มิถุนายน 2560