การตายของ ทีโค บราห์ กับผู้ต้องสงสัยที่ชื่อ โยฮันเนส เคปเลอร์
ทีโค บราห์ เป็นชาวเดนมาร์ก เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เขาเป็นทั้งนักดาราศาสตร์ นักโหราศาสตร์ นักเล่นแร่แปรธาตุ ทีโคเกิดใน ค.ศ. 1546 เขาอยู่ในตระกูลชนชั้นสูง เคยดำรงตำแหน่งนักดาราศาสตร์หลวงที่ถวายงานให้แก่กษัตริย์เดนมาร์ก ต่อมาก็ย้ายไปอยู่ประจำราชสำนักของพระเจ้ารูดอล์ฟที่ 2 จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ผลงานที่โดดเด่นของทีโคคือหอสังเกตการณ์ที่วัดตำแหน่งของดาวได้อย่างแม่นยำโดยไม่ใช้กล้องโทรทรรศน์ ผลงานของหอสังเกตการณ์นี้มีบทบาทสำคัญในการพิสูจน์ได้ว่าดาวหางเป็นวัตถุที่อยู่ในอวกาศ ไม่ได้อยู่ในชั้นบรรยากาศโลกดังที่หลายคนในยุคนั้นเชื่อกัน
นอกจากนี้ทีโคยังเรียบเรียงบัญชีดาวฤกษ์ที่มีมากกว่า1,000 รายการ ค้นพบซูเปอร์โนวาใน ค.ศ. 1527 และงานด้านตำแหน่งของดาวฤกษ์ของทีโคนี้เองที่ โยฮันเนส เคปเลอร์ นำไปใช้ศึกษาวิเคราะห์จนเป็นที่มาของกฎการเคลื่อนที่สามข้อของดาวเคราะห์อันลื่อลั่น
ในวัย20 หนุ่มทีโคไปมีเรื่องมีราวกับคนอื่นจนถึงกับต้องดวลดาบกัน ผลคือทีโคได้รับบาดเจ็บถึงขั้นจมูกแหว่งไป เขาจึงต้องสวมจมูกเทียมมาตั้งแต่นั้น กล่าวกันว่าจมูกเทียมนั้นทำจากเงินหรือแม้แต่ทองคำเลยทีเดียว
วันหนึ่งในเดือนตุลาคมค.ศ.1601 ทีโคได้ร่วมงานเลี้ยงของราชสำนักในกรุงปราก ในระหว่างงานนั้น ทีโคเกรงใจแขกผู้ร่วมงานจนต้องยอมอั้นปัสสาวะแทนที่จะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งการกระทำเช่นนี้ส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต ทีโคเสียชีวิตในอีก 11 วันต่อมา มีบันทึกว่าเขาตายด้วยอาการแทรกซ้อนหลายอย่างเกี่ยวกับระบบปัสสาวะ กล่าวกันว่ากระเพาะปัสสาวะของทีโคถึงกับแตกเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามมีบางคนไม่เชื่อว่านั่นคือสาเหตุการตายที่แท้จริง ญาติคนหนึ่งของทีโคสงสัยว่าทีโคอาจตายเพราะถูกวางยาพิษ และผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนลงมือก็คือ โยฮันเนส เคปเลอร์
ขณะนั้นเคปเลอร์ยังไม่มีชื่อเสียงมีฐานะเป็นทั้งลูกจ้างและลูกศิษย์ของทีโค แต่ความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์คู่นี้ก็ไม่สู้ดีนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะนิสัยขี้โอ่ของทีโค และเขาก็มักเก็บผลงานของของเคปเลอร์ไว้ นี่อาจเป็นเหตุจูงใจให้เคปเลอร์ไม่พอใจและทำเรื่องดังกล่าวได้ ยิ่งหลังจากที่ทีโคเสียชีวิต เคปเลอร์ก็เข้าถึงข้อมูลที่ทีโคเก็บไว้และนำไปต่อยอดเป็นกฎการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ได้ ก็ยิ่งทำให้สมมุติฐานนี้มีน้ำหนักขึ้น
ในปีพ.ศ. 2444 เป็นปีที่ครบรอบ 300 ปีที่เขาเสียชีวิต นักวิทยาศาสตร์ได้ขุดศพของทีโคขึ้นมา และตรวจสอบโครงกระดูกพบว่ามีร่องรอยของปรอทอยู่ด้วย นี่ยิ่งเป็นการให้น้ำหนักแก่ทฤษฎีที่ว่าทีโคตายเพราะถูกวางยาพิษ
ต่อมาในพ.ศ. 2553 มีการขุดศพของทีโคมาตรวจสอบอีกครั้ง ในครั้งนี้เกิดขึ้นในยุคที่เทคโนโลยีทางนิติวิทยาศาสตร์ก้าวหน้ากว่าเมื่อศตวรรษก่อนมาก ผลการวิเคราะห์เส้นเคราและกระดูกพบว่าระดับของปรอทไม่สูงมากพอที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิต และระดับของปรอทที่ได้รับก็ดูจะลดลงในช่วงก่อนเสียชีวิตอีกด้วย ดังนั้นสมมุติฐานที่ว่าเขาตายเพราะถูกวางยาพิษจึงถูกปัดตกไป เคปเลอร์เป็นผู้บริสุทธิ์
การพิสูจน์ศพในครั้งหลังนี้ยังพบสิ่งนอกเหนือจากสาเหตุการตายนั่นคือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจมูกเทียม แม้จะไม่พบชิ้นส่วนของจมูกเทียมนั้น แต่นักวิทยาศาสตร์พบการสะสมของแร่ทองแดงและสังกะสีบริเวณจมูก สิ่งนี้บ่งชี้ว่า จมูกเทียมของทีโคที่กล่าวกันว่าทำมาจากเงินหรือทองคำนั้น แท้จริงทำมาจากทองเหลือง
ที่มา
●Tycho Brahe Died from Pee, Not Poison - livescience.com
●Body of Danish Astronomer Tycho Brahe Exhumed from Tomb - space.com
●Mercury Murder Mystery: An Analysis of the Demise of Tycho Brahe - retrospectjournal.com
●The astronomer’s nose: Tycho Brahe’s controversial prosthesis - entandaudiologynews.com
●Did Johannes Kepler Murder Tycho Brahe? - www.historynewsnetwork.org
ผลงานที่โดดเด่นของทีโคคือ
นอกจากนี้ทีโคยังเรียบเรียงบัญชีดาวฤกษ์ที่มีมากกว่า
ในวัย
วันหนึ่งในเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตาม
ขณะนั้นเคปเลอร์ยังไม่มีชื่อเสียง
ในปี
ต่อมาใน
การพิสูจน์ศพในครั้งหลังนี้ยังพบสิ่งนอกเหนือจากสาเหตุการตาย
ที่มา
●
●
●
●
●