สมาคมดาราศาสตร์ไทย

ดวงจันทร์ดวงที่สองของโลกที่แท้เป็นชิ้นส่วนดวงจันทร์

ดวงจันทร์ดวงที่สองของโลกที่แท้เป็นชิ้นส่วนดวงจันทร์

25 พ.ย. 2567
รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
โลกของเราปกติมีบริวารเพียงดวงเดียว คือ ดวงจันทร์ แต่เมื่อระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่โลกของเรามีบริวารสองดวง ดังที่เคยรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้

บริวารดวงที่สองที่เพิ่มเข้ามานอกจากดวงจันทร์ก็คือ ดาวเคราะห์น้อยชื่อ 2024 พีที 5 (2024 PT5) ที่ผ่านเข้ามาใกล้โลกแล้วถูกโลกคว้าจับมาโคจรรอบตัวเอง แต่วงโคจรนี้ไม่เสถียร หลังจากโคจรเพียงไม่ถึงรอบก็หลุดออกจากพันธนาการไป ซึ่งดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้หลุดไปเป็นอิสระตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายนแล้ว

ดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที เป็นดาวเคราะห์น้อยในกลุ่มอรชุน (Arjuna) ซึ่งเป็นกลุ่มของดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรเกือบเหมือนของโลก การที่มีวงโคจรใกล้เคียงวงโคจรโลกมาก จึงมีความเร็วสัมพัทธ์กับโลกต่ำ หากดาวเคราะห์น้อยในกลุ่มนี้เข้าใกล้โลกมากพอ ก็อาจถูกความโน้มถ่วงของโลกคว้าจับเอามาเป็นบริวารได้ ดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที ได้เข้ามาเป็นบริวารชั่วคราวของโลกในช่วงระหว่างวันที่ 29 กันยายน จนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 

แม้ช่วงที่ 2024 พีที เข้ามาเป็นบริวารของโลกจะเป็นเวลาเพียงสั้น แต่นักดาราศาสตร์ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะศึกษาดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อย่างละเอียด และพบบางอย่างที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ภาพในจินตนาการของศิลปิน แสดงโลกพร้อมกับบริวารสองดวง  (จาก Robert Lea)

ทฤษฎีการกำเนิดดวงจันทร์ที่ยอมรับกันโดยทั่วไปอธิบายว่า เมื่อราวสี่พันล้านปีก่อน มีวัตถุดวงใหญ่พุ่งชนโลกอย่างจัง แรงพุ่งชนทำให้เนื้อโลกส่วนหนึ่งหลุดกระเด็นออกไป ต่อมาวัสดุที่กระเด็นไปโคจรรอบโลกได้เย็นตัวลงและมาเกาะกันเป็นดวงกลายเป็นดวงจันทร์ แต่ก็ไม่ทั้งหมดที่มารวมกันเป็นดวงจันทร์ อาจมีบางส่วนที่ยังคงล่องลอยอยู่ในอวกาศ โคจรรอบดวงอาทิตย์โดยใช้วงโคจรร่วมกับโลก กลายเป็นดาวเคราะห์น้อยไป 

สภาพแวดล้อมบริเวณวงโคจรโลกไม่เคยว่างเปล่า แต่มีสะเก็ดดาวและดาวเคราะห์น้อยผ่านมาเป็นระยะ บางครั้งก็ชนเข้ากับโลกและดวงจันทร์ ดังที่ปรากฏรอยแผลถูกชนมากมายบนพื้นผิวดวงจันทร์ การชนดวงจันทร์บางครั้งก็รุนแรงจนเศษวัสดุจากดวงจันทร์กระเด็นออกไปกลายเป็นสะเก็ดดาวและดาวเคราะห์น้อยที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ไป 

ดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที ก็อาจเป็นหนึ่งในนั้น 

"หลักฐานสำคัญที่สนับสนุนสมมุติฐานนี้คืออัตราการหมุนรอบตัวเองที่เร็วมาก ดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที หมุนรอบตัวเองรอบหนึ่งใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง สิ่งนี้บ่งชี้ว่าวัตถุนี้เคยเป็นชิ้นส่วนของวัตถุอื่นที่ใหญ่กว่าแต่ถูกการกระทบกระแทกจนหลุดออกมา" คาร์ลอส เด ลา ฟูเอนเต มาร์กอส ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยกอมปลูเตนเซแห่งมาดริดอธิบาย

ภาพแสดงเหตุการณ์ที่โลกในอดีตเคยถูกวัตถุขนาดใหญ่พุ่งชนจนเกิดเศษเนื้อโลกกระเด็นออกไป ซึ่งต่อมาเศษวัสดุเหล่านั้นก็กลับมาเกาะกันเป็นดวงและกลายเป็นดวงจันทร์ในที่สุด   (จาก Ron Miller)


นอกจากนี้ สเปกตรัมของดาวเคระห์น้อยดวงนี้ก็ยังแสดงว่ามีองค์ประกอบทางเคมีตรงกับตัวอย่างหินจากดวงจันทร์ที่นำกลับมาโดยยานลูนาของโซเวียตและจากภารกิจอะพอลโลของนาซา สิ่งเหล่านี้ล้วนสนับสนุนว่า ดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที เกิดจากดวงจันทร์ นอกจากนี้ยังอาจหมายความว่าดาวเคราะห์น้อยในกลุ่มอรชุนทั้งหมดก็มีต้นกำเนิดแบบเดียวกันด้วย

ในเมื่อดวงจันทร์เกิดจากโลก และดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที ก็เกิดจากดวงจันทร์ นั่นหมายความว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ก็ไม่ใช่วัตถุแปลกปลอมที่ไหน เป็นทายาทของโลกนั่นเอง การเข้ามาเป็นบริวารโลกชั่วคราวของดาวเคราะห์น้อย 2024 พีที เมื่อเดือนก่อนจึงอาจเทียบได้กับการกลับมา "เยี่ยมญาติ" ของลูกหลานโลกเรานั่นเอง