มาดูดาวเทียมกันไหม
เวลามีกิจกรรมสอนดูดาวเบื้องต้นแก่ผู้สนใจ ผู้บรรยายมักจะปลุกเร้าความสนใจของผู้ฟังด้วยการยกเอาวัตถุท้องฟ้าที่สวยงามน่าสนใจมาให้ชม เช่น กลุ่มดาว เนบิวลา ดาราจักร ดาวเคราะห์ กระจุกดาว และอาจบอกว่าในคืนนั้นจะมีวัตถุดวงใดให้เห็นบ้าง บ่อยครั้งจะมีคำถามหนึ่งจากผู้ร่วมกิจกรรมถามขึ้นมาว่า
"เห็นดาวเทียมด้วยไหมครับ"
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะขบขันของผู้ร่วมกิจกรรมคนอื่นคงคิดไปว่าเป็นคำถามเอาฮาเฉย ๆ หรือไม่ก็คงคิดว่าช่างเป็นคำถามที่งี่เง่าเสียจริง ๆ
แต่คำถามนี้ไม่ฮาและไม่งี่เง่าเพราะคำตอบคือ "เห็น" และไม่ได้เพียงแค่เห็นธรรมดา ยังสว่างมากเสียด้วย
ดาวเทียมคือสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์ส่งขึ้นไปโคจรรอบโลก ดาวเทียมมีวัตถุประสงค์ต่าง ๆ หลากหลาย เช่นเพื่อสำรวจทรัพยากร เพื่อศึกษาทางอุตุนิยมวิทยา เพื่อสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ใช้สอดแนมเพื่อทางการทหาร เพื่อการสื่อสาร
ดาวเทียมมีหลากหลายขนาดโดยทั่วไปมีขนาดไม่ใหญ่ไปกว่ารถยนต์ แต่บางดวงก็ใหญ่มาก เช่นสถานีอวกาศ ซึ่งถือเป็นดาวเทียมประเภทหนึ่ง สถานีอวกาศนานาชาติมีขนาดใหญ่โตมหึมาถึงขนาดที่นำไปวางบนสนามฟุตบอลได้เกือบเต็มสนามเลยทีเดียว ดาวเทียมส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก โดยเฉพาะในระยะหลัง ผู้สร้างดาวเทียมนิยมสร้างดาวเทียมขนาดเล็กที่ประสิทธิภาพสูง บางดวงมีขนาดเท่ากล่องกระดาษชำระเท่านั้นเอง
วงโคจรของดาวเทียมมีหลากหลายรูปแบบมากแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ ตามระดับความสูงของวงโคจรได้สามกลุ่ม ได้แก่ วงโคจรระดับต่ำ มีระดับความสูงจากพื้นดิน 160-1,500 กิโลเมตร วงโคจรปานกลาง มีระดับความสูงจากพื้นดิน 5,000-20,000 กิโลเมตร และ วงโคจรค้างฟ้า มีระดับความสูงจากพื้นดินประมาณ 35,000 กิโลเมตร
ในที่นี้จะมุ่งความสนใจเฉพาะแบบแรกคือดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำเท่านั้นเพราะเป็นดาวเทียมที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนดาวเทียมวงโคจรปานกลางกับวงโคจรค้างฟ้ามีระดับความสูงมาก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ช่วงเวลาที่มองเห็นดาวเทียมได้คือช่วงที่ดวงอาทิตย์อยู่ต่ำกว่าขอบฟ้าไม่มาก ซึ่งมีสองช่วงในแต่ละวัน คือช่วงหัวค่ำกับช่วงเช้ามืด ในช่วงเวลาดังกล่าวท้องฟ้าจะมืดหรือเริ่มมืดเพราะไม่ได้รับแสงอาทิตย์แล้ว แต่ดาวเทียมซึ่งอยู่สูงจากพื้นยังไม่เข้าสู่เงาโลก จึงยังได้รับแสงอาทิตย์อยู่ เมื่อดาวเทียมถูกแสงอาทิตย์ก็ปรากฏสว่างท่ามกลางท้องฟ้ามืด ทุกคนคงเคยสังเกตเห็นเครื่องบินบินผ่านหัวไปในช่วงใกล้พลบค่ำ จะสังเกตว่าเครื่องบินที่เห็นในช่วงเวลานี้จะสว่างจ้าโดดเด่นมาก ทั้งนี้เนื่องจากขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว แต่เครื่องบินบินอยู่สูงยังไม่เข้าเงาโลก จึงยังรับแดดเต็มที่อยู่ เรามองเห็นดาวเทียมได้ก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน
ลักษณะของดาวเทียมที่เราจะมองเห็นก็คือเป็นจุดสว่างคล้ายดาว เคลื่อนที่ไปบนฟ้าเป็นเส้นตรง ไม่ได้อยู่นิ่งแบบดาว ส่วนใหญ่มีทิศทางวิ่งจากทิศตะวันตกไปทางตะวันออก อาจขนานไปกับเส้นศูนย์สูตรหรืออาจเฉียงเหนือหรือเฉียงใต้ก็ได้ บางดวงอาจวิ่งในแนวเหนือ-ใต้ ดาวเทียมที่วิ่งสวนทางจากตะวันออกไปตะวันตกก็มีเหมือนกันแต่น้อยมาก
ต่างจากเครื่องบินและดาวตกอย่างไร?
เครื่องบินและดาวตก ก็เป็นจุดแสงเคลื่อนที่ไปบนฟ้าเหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันที่พอจะใช้แยกแยะได้ ดังนี้
เครื่องบินโดยทั่วไปจะมีดวงไฟมากกว่าหนึ่งดวงโดยมีบางดวงสว่างนิ่งและสองดวงกะพริบตลอดทางด้วยอัตราประมาณ 1 วินาทีละครั้ง อาจเร็วกว่าหรือช้ากว่านิดหน่อย หากเป็นเครื่องบินพาณิชย์ซึ่งบินระดับสูง อาจมองยากว่ามีมากกว่าหนึ่งดวงหรือหลายดวง ก็ให้สังเกตว่ามีการกะพริบหรือไม่ ถ้ากะพริบ ก็แสดงว่าเป็นเครื่องบินแน่นอน
ดาวตกเป็นจุดแสงเคลื่อนที่เหมือนกัน แต่มีลักษณะเหมือนดวงไฟพุ่งไปบนฟ้ามากกว่าหลอดไฟเคลื่อนที่ดังที่เห็นในเครื่องบิน แสงจากดาวตกจะเคลื่อนที่เร็วกว่าดาวเทียมมาก และมักทิ้งรอยทางสีเขียวเป็นเวลาสั้น ๆ บางครั้งอาจสังเกตเห็นการแตกสะเก็ดหลุดออกมาด้วย
แสงจากดาวเทียมจะปรากฏเป็นจุดสว่างเหมือนดาวความสว่างคงที่ไม่กะพริบ และเคลื่อนที่ไปเป็นเส้นตรงด้วยความเร็วไม่มากนัก ดาวเทียมแต่ละดวงจึงมักปรากฏให้เห็นเป็นเวลานานพอสมควร ครั้งหนึ่งอาจนานหลายสิบวินาทีหรือเป็นนาที
มีบางกรณีที่ดาวเทียมก็อาจมองเห็นเป็นแสงกะพริบช้าๆ ได้เหมือนกัน เกิดขึ้นกรณีที่ดาวเทียมดวงนั้นมีการหมุนควง เมื่อดาวเทียมซึ่งมีพื้นผิวสะท้อนแสงไม่เท่ากันในแต่ละมุมหมุนควง การสะท้อนแสงก็จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงด้วย คนบนโลกจึงมองเห็นเป็นการกะพริบ อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเห็นดาวเทียมกะพริบมีน้อยมาก เพราะดาวเทียมส่วนใหญ่ไม่หมุนควง
เห็นดาวเทียมของไทยบ้างไหม
ประเทศไทยมีดาวเทียมหลายดวงที่โคจรรอบโลกอยู่ที่รู้จักกันติดหูที่สุดก็คือดาวเทียมไทยคม ดาวเทียมไทยคมทั้งหมดเป็นดาวเทียมชนิดวงโคจรค้างฟ้าซึ่งอยู่ระดับสูงมาก หมดสิทธิ์มองเห็น ส่วนดาวเทียมที่มีวงโคจรระดับต่ำที่มีก็ล้วนแต่เป็นดาวเทียมขนาดเล็ก ดาวเทียมประเภทวงโคจรใกล้โลกที่ใหญ่ที่สุดที่ไทยเคยมีคือดาวเทียมทีออส (THEOS) มีความสว่างสูงสุดในระดับที่เกือบเห็นเท่านั้น แต่ก็ยังไม่เห็นอยู่ดี ณ ขณะนี้จึงไม่มีดาวเทียมของไทยที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลย
ปัจจุบันมีดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำอยู่กว่าหนึ่งหมื่นดวงที่โคจรรอบโลกอยู่ แต่ไม่ทุกดวงที่จะมองเห็นได้ ดาวเทียมที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าต้องมีขนาดใหญ่พอสมควร ดาวเทียมบางชนิด เช่นคิวบ์แซต มีขนาดเล็กเกินไป สว่างน้อยเกินกว่าจะมองเห็นได้ การจะเห็นดาวเทียมหรือไม่ นอกจากความสว่างของดาวเทียมแล้ว ต้องอยู่ที่วงโคจรด้วยว่า ในคืนนั้นดาวเทียมผ่านเหนือจุดสังเกตการณ์หรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว ณ สถานที่สังเกตการณ์หนึ่ง จะมีโอกาสมองเห็นดาวเทียมได้คืนละหลายสิบดวง
ทราบได้อย่างไรว่าดาวเทียมดวงใดบ้างจะผ่านเหนือหัวเราไปในแต่ละคืน
ปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลมากมายที่ให้ข้อมูลด้านดาวเทียมเพื่อประโยชน์ในการสังเกตการณ์ทั้งแอปพลิเคชันโทรศัพท์และเว็บไซต์ แอปพลิชันที่นิยมใช้กันเช่น Sattrack ส่วนเว็บไซต์ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ heavens-above.com เว็บไซต์นี้มีข้อมูลดาวเทียมอย่างละเอียด เพียงแต่ระบุตำแหน่งสถานที่ที่เราอยู่ เว็บก็จะคำนวณให้ว่า ในคืนนี้จะเห็นดาวเทียมดวงใดผ่านหัวบ้าง พร้อมทั้งเวลาและตำแหน่งให้ด้วย นับว่ามีประโยชน์มาก
แม้การดูดาวเทียมจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องโดยตรงกับดาราศาสตร์นักแต่ก็ช่วยในการเรียนรู้เรื่องของวงโคจร และเทคโนโลยีอวกาศได้ ยิ่งกว่านั้น การได้เห็นดาวเทียมบางดวงที่เป็นที่รู้จักกันดีด้วยตาตนเองก็ยิ่งน่าตื่นเต้น และกระตุ้นแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ท้องฟ้าและดาราศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างของดาวเทียมระดับซูเปอร์สตาร์ที่มีโอกาสเห็นได้ด้วยตาเปล่าเช่น กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล สถานีอวกาศนานาชาติ สถานีอวกาศเทียนกง
การที่ช่วงเวลาที่มองเห็นดาวเทียมเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ แค่ช่วงหัวค่ำกับช่วงเช้ามืด นักดูดาวก็อาจถือเป็นกิจกรรมเสริมนอกจากการสังเกตการณ์วัตถุท้องฟ้า โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ ระหว่างที่รอฟ้ามืดสนิทก็อาจมาดูดาวเทียมเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องกันก่อนก็ได้ ในกิจกรรมดูดาวภาคสนามที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมากเข้าคิวรอส่องดาวจากกล้องโทรทรรศน์ ผู้จัดกิจกรรมก็อาจชวนให้มองท้องฟ้าหาดาวเทียมระหว่างรอคิวก็ได้
"เห็นดาวเทียมด้วยไหมครับ"
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะขบขันของผู้ร่วมกิจกรรมคนอื่น
แต่คำถามนี้ไม่ฮาและไม่งี่เง่า
ดาวเทียม
ดาวเทียมมีหลากหลายขนาด
วงโคจรของดาวเทียมมีหลากหลายรูปแบบมาก
ในที่นี้จะมุ่งความสนใจเฉพาะแบบแรกคือดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำเท่านั้น
มองเห็นได้อย่างไร
ช่วงเวลาที่มองเห็นดาวเทียมได้
เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ต่ำกว่าขอบฟ้าไม่มาก ซึ่งได้แก่เวลาหัวค่ำและเช้ามืด ท้องฟ้าจะมืดเป็นกลางคืน ส่วนดาวเทียมที่อยู่สูงจากพื้นดินยังได้รับแสงแดดอยู่ ช่วงเวลาดังกล่าวจึงมองเห็นดาวเทียมลอยอยู่บนฟ้าได้
เห็นเป็นอย่างไร
ลักษณะของดาวเทียมที่เราจะมองเห็นก็คือ
ภาพเส้นของดาวเทียมที่เกิดจากการถ่ายภาพท้องฟ้าโดยเปิดหน้ากล้องเป็นเวลานาน (จาก MARIANA SUAREZ/AFP (Getty Images))
ต่างจากเครื่องบินและดาวตกอย่างไร?
เครื่องบิน
เครื่องบิน
ดาวตก
แสงจากดาวเทียมจะปรากฏเป็นจุดสว่างเหมือนดาว
มีบางกรณีที่ดาวเทียมก็อาจมองเห็นเป็นแสงกะพริบช้า
เห็นดาวเทียมของไทยบ้างไหม
ประเทศไทยมีดาวเทียมหลายดวงที่โคจรรอบโลกอยู่
ปัจจุบัน
ทราบได้อย่างไรว่าดาวเทียมดวงใดบ้างจะผ่านเหนือหัวเราไปในแต่ละคืน
ปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลมากมายที่ให้ข้อมูลด้านดาวเทียมเพื่อประโยชน์ในการสังเกตการณ์
แม้การดูดาวเทียมจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องโดยตรงกับดาราศาสตร์นัก
การที่ช่วงเวลาที่มองเห็นดาวเทียมเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้น



