ที่ใจกลางของดาราจักรทางช้างเผือกที่เราอาศัยอยู่ มีหลุมดำมวลยวดยิ่งดวงหนึ่งสถิตอยู่ นักดาราศาสตร์สำรวจพบดาวฤกษ์หลายร้อยดวงที่โคจรรอบหลุมดำดวงนี้ ดาวส่วนใหญ่ในจำนวนนี้อยู่ห่างจากหลุมดำมากพอที่การเคลื่อนที่ของมันพออธิบายและพยากรณ์ได้ด้วยหลักความโน้มถ่วงของนิวตันและกฎเคปเลอร์ แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ใกล้หลุมดำมากจนต้องใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของ แอลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มาใช้อธิบายการเคลื่อนที่
หลุมดำมวลยวดยิ่งในดาราจักรทางช้างเผือกมีชื่อเรียกว่าคนยิงธนูเอ* (Sagittarious A*) มีมวลประมาณ 4 ล้านมวลสุริยะ นักดาราศาสตร์ทราบมวลจากการสังเกตความเร็วในการเคลื่อนที่ของดาวที่โคจรอยู่ในะระยะใกล้
ดาวฤกษ์ที่ใกล้คนยิงธนูเอ*ที่มีการศึกษามากที่สุดมีชื่อว่า เอส 2 เป็นดาวยักษ์สีน้ำเงินสว่าง โคจรรอบใจกลางทางช้างเผือกครบรอบทุก 16 ปี เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ดาวเอส 2 ได้ผ่านเข้าใกล้จุดใกล้หลุมดำมากที่สุด เปิดโอกาสให้นักดาราศาสตร์ได้สังเกตปรากฏการณ์การเลื่อนไปทางแดงเหตุโน้มถ่วง ที่เกิดขึ้นกับดาวดวงนี้
การเลื่อนไปทางแดงเหตุความโน้มถ่วงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นเมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านสนามความโน้มถ่วง แสงจะเสียพลังงานไปซึ่งปรากฏออกมาในรูปของความยาวคลื่นที่เพิ่มขึ้น เปรียบเทียบคล้ายกับเมื่อเราโยนหินขึ้นไปบนฟ้า ก้อนหินจะเคลื่อนที่ช้าลงเพราะความโน้มถ่วงดึงไว้ แต่ถ้าเราฉายไฟฉายขึ้นไปบนฟ้า แสงจากไฟฉายไม่ช้าลง แต่จะมีความยาวคลื่นมากขึ้น สีของแสงจะเปลี่ยนไปทางสีแดงมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้เคยมีการพิสูจน์ได้จริงในห้องทดลองมาแล้ว และการสำรวจเอส 2 ก็พบว่าขณะเข้าใกล้หลุมดำ สเปกตรัมของดาวก็เลื่อนไปทางแดงตามที่ทฤษฎีพยากรณ์เอาไว้จริง
เป็นเวลานานมาแล้วที่นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวเอส2 เป็นดาวที่อยู่ใกล้หลุมดำคนยิงธนูเอ* มากที่สุด แต่เมื่อปี 2562 นักดาราศาสตร์พบดาวอีกดวงหนึ่ง มีชื่อว่า เอส 62 ดาวดวงนี้มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์สองเท่า และโคจรรอบหลุมดำครบรอบทุก 10 ปี เป็นดาวที่อยู่ใกล้หลุมดำคนยิงธนูเอ* มากที่สุดยิ่งกว่าดาวเอส 2 จากการคำนวณพบว่า ที่จุดใกล้หลุมดำที่สุด ดาวดวงนี้จะมีควาเร็วถึง 8% ของความเร็วแสง ซึ่งถือว่าเร็วมากจนทำให้เห็นผลของการยืดเวลาได้ชัดเจน เป็นผลให้เวลาหนึ่งชั่วโมงบนดาวดวงนี้จะยาวนานเท่ากับเวลา 100 นาทีบนโลก
การที่อยู่ใกล้หลุมดำคนยิงธนูเอ*มาก ยังทำให้เกิดปรากฏการณ์อีกชนิดหนึ่ง นั่นคือการส่ายของวงโคจรที่เกิดจากความโน้มถ่วง ปรากฏการณ์นี้พบในวงโคจรของดาวพุธเช่นกัน แต่กรณีของดาวพุธเกิดขึ้นเป็นปริมาณน้อยกว่ามาก สำหรับดาวเอส 62 การส่ายของวงโคจรทำให้วงโคจรแต่ละรอบเหลื่อมกันมากถึงราว 10 องศา
ในปี2565 ดาวเอส 62 จะโคจรไปถึงจุดใกล้คนยิงธนูเอ* ที่สุดอีกครั้ง นักดาราศาสตร์เตรียมจะถือโอกาสนี้วัดสเปกตรัมของดาวนี้อีกครั้งเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีสัมพัทธภาพในระดับที่แม่นยำยิ่งกว่าที่เคยวัดกับดาวเอส 2
หลุมดำมวลยวดยิ่งในดาราจักรทางช้างเผือกมีชื่อเรียกว่า
ดาวฤกษ์ที่ใกล้คนยิงธนูเอ*
การเลื่อนไปทางแดงเหตุความโน้มถ่วง
เป็นเวลานานมาแล้วที่นักดาราศาสตร์เชื่อว่าดาวเอส
การที่อยู่ใกล้หลุมดำคนยิงธนูเอ*
ในปี