ดาวแกมมาซีฟีอัส เป็นดาวสว่างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าดวงหนึ่ง อยู่ห่างจากโลก 45 ปีแสง เป็นดาวยักษ์เล็กมีชนิดสเปกตรัม K1 IV มีสีเหลืองส้ม มีความส่องสว่างประมาณ 12 เท่าของดวงอาทิตย์ มีมวลประมาณ 1.6 เท่าของดวงอาทิตย์ ดาวดวงนี้ได้เป็นเป้าหมายการสำรวจของนักดาราศาสตร์มานานกว่า 70 ปีเพราะมีการเปลี่ยนตำแหน่งไปมาตลอดเวลาอย่างน่าสังเกต
เมื่อไม่นานมานี้นักดาราศาสตร์จากหอสังเกตการณ์แมกดอนัลด์นำโดย อาร์ตี แฮตซ์ กับ วิลเลียม ดี.คอชแรน ก็เป็นอีกทีมหนึ่งที่เฝ้าสำรวจดาวดวงนี้พร้อม ๆ กับดาวดวงอื่นอีกร่วม 180 ดวง นักดาราศาสตร์คณะดังกล่าวได้พบว่าดาวแกมมาซีฟีอัสมีบริวารที่มีมวลประมาณ 0.4 เท่าของดวงอาทิตย์ (ประมาณ 400 เท่าของมวลดาวพฤหัสบดี) มีคาบการโคจรประมาณ 10 ปี อยู่ห่างจากดาวหลักประมาณ 12-30 หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณระยะห่างระหว่างดาวเนปจูนกับดวงอาทิตย์ ดาวสหายนี้มีแสงสว่างน้อยมาก จึงมองไม่เห็นแม้ผ่านกล้องโทรทรรศน์ คาดว่าเป็นดาวแคระแดง
นอกจากคาบการแกว่งไกวที่เกิดจากดาวแคระแดงแล้วยังพบว่ามีการแกว่งอย่างแผ่วเบาแต่สม่ำเสมอซ้อนอยู่บนคาบหลักด้วยคาบ 2.47 ปี นักดาราศาสตร์สันนิษฐานมาตั้งแต่ปี 2532 แล้วว่าการสั่นนี้อาจเกิดจากดาวเคราะห์บริวาร และการสำรวจของคณะแมกดอนัลด์ได้ครั้งนี้ก็ได้ยืนยันสมมติฐานนี้ ดาวเคราะห์บริวารที่มองไม่เห็นนี้มีมวลเป็น 1.8 เท่าของมวลดาวพฤหัสบดี โคจรรอบดาวแม่เป็นวงรีด้วยระยะห่าง 1.7-2.5 หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณวงโคจรของแถบดาวเคราะห์น้อย
ดาวแกมมาซีฟีอัสมีอันดับความสว่าง 3 เป็นดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดดวงหนึ่งในจำนวนดาวฤกษ์ 87 ดวงที่พบว่ามีดาวเคราะห์เป็นบริวาร
การค้นพบว่าดาวดาวคู่มีดาวเคราะห์บริวารไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าใดนักนักดาราศาสตร์ทราบมาเป็นเวลานานแล้วว่า ดาวเคราะห์สามารถมีวงโคจรเสถียรอยู่ภายในระบบดาวคู่ได้หากมีวงโคจรใกล้กับดาวฤกษ์ดวงใดดวงหนึ่งในระบบนั้นมาก ๆ และนอกจากแกมมาซีฟีอัสแล้วก็ยังมีดาวคู่อีกหลายดวงที่พบว่ามีดาวเคราะห์เป็นบริวาร แต่การกำเนิดดาวเคราะห์ภายในระบบดาวคู่ต่างหากที่เป็นเรื่องแปลกและไม่น่าเป็นไปได้ กรณีของดาวแกมมาซีฟีอัสนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการศึกษาอิทธิพลของดาวคู่ที่มีต่อกระบวนการกำเนิดดาวเคราะห์ต่อไป
เมื่อไม่นานมานี้
นอกจากคาบการแกว่งไกวที่เกิดจากดาวแคระแดงแล้ว
ดาวแกมมาซีฟีอัส
การค้นพบว่าดาวดาวคู่มีดาวเคราะห์บริวารไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าใดนัก