อาร์เทมิส บันไดสามขั้นสู่การนำมนุษย์กลับไปเดินบนดวงจันทร์
อาร์เทมิส 1 เป็นภารกิจแรกของโครงการอาร์เทมิส ซึ่งมีเป้าหมายใหญ่อยู่ที่การนำมนุษย์กลับไปเยือนดวงจันทร์อีกครั้ง แม้องค์การนาซาจะเคยนำมนุษย์ไปเยือนดวงจันทร์มาแล้วตั้งแต่ครึ่งศตวรรษก่อนในโครงการอะพอลโล แต่โครงการอาร์เทมิสต่างจากโครงการอะพอลโลในหลายมิติ อะพอลโลมีเป้าหมายเพียงนำมนุษย์ไปให้ถึง ทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ และนำตัวอย่างดินหินจากดวงจันทร์กลับโลก ระยะเวลาของแต่ละภารกิจยาวนานเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ส่วนอาร์เทมิสจะไม่ทำแค่ไปเยือน แต่ตั้งใจจะไปตั้งฐานที่อยู่อาศัยบนดวงจันทร์ ตั้งสถานีอวกาศใกล้ดวงจันทร์ และยังมีเป้าหมายไปไกลถึงขั้นส่งมนุษย์ไปดาวอังคารอีกด้วย
โครงการอาร์เทมิสวางภารกิจไว้หลายขั้นในช่วงแรก ประกอบด้วยสามภารกิจ คือ อาร์เทมิส 1 - 3
ในภารกิจแรกคืออาร์เทมิส 1 ยานโอไรอันจะใช้เวลาราว 10 วันไปถึงดวงจันทร์ และจะโคจรรอบดวงจันทร์อยู่ราวสองสัปดาห์ หลังจากนั้นก็จะใช้เวลาอีก 10 วันเดินทางกลับสู่โลก ภารกิจนี้ไม่มีการลงจอดบนดวงจันทร์ และไม่มีลูกเรือที่เป็นมนุษย์ มีเพียงหุ่นยนต์สามตัวเพื่อทดสอบให้แน่ใจว่ายานทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยที่จะนำมนุษย์ไปในภารกิจต่อไป
หากอาร์เทมิส1 ประสบความสำเร็จ ก้าวต่อไปก็จะเป็นภารกิจอาร์เทมิส 2 คราวนี้จะมีลูกเรือที่เป็นมนุษย์ไปโคจรรอบดวงจันทร์ด้วย แต่ก็ยังไม่มีการลงจอดบนดวงจันทร์ คาดว่าอาร์เทมิส 2 จะออกเดินทางได้ในปี 2567
ภารกิจอาร์เทมิส3 จะเป็นภารกิจที่มีสีสันมากที่สุดภารกิจหนึ่ง ไม่เพียงแต่เป็นภารกิจแรกของโครงการที่มีมนุษย์ลงไปเดินบนดวงจันทร์เท่านั้น แต่ขั้นตอนต่าง ๆ ในภารกิจล้วนเป็นสิ่งแปลกใหม่ ซับซ้อน และพิสดารอย่างมาก
ใครที่เคยติดตามภารกิจอะพอลโลตั้งแต่ภารกิจอะพอลโล 11 ถึง อะพอลโล 17 จะจดจำขั้นตอนการเดินทางและลงจอดได้ดี เพราะมีขั้นตอนเหมือนกันคือ ยานอะพอลโล ซึ่งประกอบด้วย มอดูลสั่งการ มอดูลบริการ และมอดูลดวงจันทร์ บรรจุอยู่ที่ห้องสัมภาระส่วนบนสุดของจรวดแซตเทิร์น 5 ระหว่างทางที่มุ่งสู่ดวงจันทร์ มอดูลบริการและมอดูลสั่งการจะแยกตัวออกจากช่องเก็บมอดูลดวงจันทร์ แล้วจะกลับลำเพื่อนำส่วนหัวของมอดูลสั่งการมาเชื่อมกับส่วนหัวของมอดูลดวงจันทร์ เมื่อเชื่อมต่อกันได้แล้วจึงเดินเครื่องถอยหลังเพื่อดึงมอดูลดวงจันทร์ออกมาจากช่องเก็บ แล้วมอดูลทั้งสามก็จะเดินทางไปด้วยกันจนเข้าสู่วงโคจรรอบดวงจันทร์ เมื่อถึงเวลาลงดวงจันทร์ ลูกเรือจะมุดเข้าไปในมอดูลดวงจันทร์ แล้วแยกตัวออกมาเพื่อลงจอดบนดวงจันทร์โดยอาศัยเครื่องยนต์ในการชะลอความเร็ว ส่วนมอดูลสั่งการและมอดูลบริการก็โคจรรออยู่รอบดวงจันทร์
เมื่อถึงเวลากลับมอดูลดวงจันทร์ก็เดินเครื่องพุ่งขึ้นมาจากพื้นผิวเพื่อไปเชื่อมต่อกับมอดูลสั่งการบนวงโคจร หลังจากที่เชื่อมต่อได้และลูกเรือมุดกลับเข้าไปในมอดูลสั่งการแล้ว ก็ปลดมอดูลดวงจันทร์ทิ้งใส่ดวงจันทร์ไปแล้วมุ่งหน้ากลับสู่โลก
แต่ในภารกิจอาร์เทมิส3 ยานลงจอดบนดวงจันทร์กับยานโอไรอันไม่ได้ไปด้วยกัน ทั้งสองส่วนจะต่างฝ่ายต่างไปแล้วไปเจอกันที่ดวงจันทร์ ยานลงจอดของอาร์เทมิสนั้นมีขนาดใหญ่โตเกือบเท่าเอสแอลเอสเลยทีเดียว มีชื่อว่า เอชแอลเอส (HLS--Human Landing System) พัฒนาโดยสเปซเอกซ์ ตัวยานเอชแอลเอสความจริงแล้วก็คือยานสตาร์ชิปรุ่นดัดแปลงนั่นเอง บางครั้งก็เรียกชื่อว่า สตาร์ชิป-เอชแอลเอส ยานเอชแอลเอสจะเดินทางไปโคจรอยู่ใกล้ดวงจันทร์รอก่อนโดยใช้ซูเปอร์เฮฟวีเป็นจรวดส่ง
การเดินทางของเอชแอลเอสก็ไม่ธรรมดาเพราะเอชแอลเอสมีขนาดใหญ่ สัมภาระมาก แรงขับของซูเปอร์เฮฟวีทำได้เพียงพาขึ้นไปโคจรรอบโลกเท่านั้น ไม่มากพอที่จะพาไปถึงดวงจันทร์ ดังนั้นจึงต้องมีการเติมเชื้อเพลิงกลางอวกาศ เมื่อเอชแอลเอสขึ้นไปโคจรรอบโลกได้แล้ว จะมีการส่งจรวดตามขึ้นไปอีกหลายลำเพื่อนำเชื้อเพลิงไปเติมให้เอชแอลเอส เมื่อเติมเชื้อเพลิงมากพอแล้วจึงออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ต่อไป
เมื่อเอชแอลเอสไปถึงดวงจันทร์จะรออยู่ที่วงโคจรรอบดวงจันทร์ ส่วนยานโอไรอันก็จะขี่จรวดเอสแอลเอสเดินทางตามไป เมื่อไปถึงดวงจันทร์ ยานทั้งสองก็นัดพบและเชื่อมต่อกันในวงโคจร มนุษย์อวกาศสองนายจะเข้าไปในยานเอชแอลเอส แล้วเอชแอลเอสก็แยกตัวลงมาจอดลงบนดวงจันทร์ในแบบตั้งขึ้น มนุษย์อวกาศจะใช้เวลาบนดวงจันทร์ราวหนึ่งสัปดาห์ ในระหว่างนี้จะออกไปปฏิบัติหน้าที่บนพื้นผิวดวงจันทร์ไม่น้อยกว่าสองครั้ง เมื่อถึงเวลากลับ ยานเอชแอลเอสก็เดินเครื่องขึ้นแบบจรวด เพื่อนำมนุษย์อวกาศทั้งสองกลับไปที่ยานโอไรอัน แล้วยานโอไรอันก็จะมุ่งหน้ากลับโลก
ภารกิจอาร์เทมิส3 มีลูกเรือ 4 นาย ในจำนวนนี้จะมีผู้หญิงและชาวผิวสีด้วย มีกำหนดออกเดินทางอย่างเร็วปี 2568
โครงการอาร์เทมิสไม่ได้จบแค่นี้อาร์เทมิส 3 เป็นเพียงแค่ภารกิจสุดท้ายของภาคแรกเท่านั้น ภารกิจนับจากอาร์เทมิส 4 ถึง อาร์เทมิส 6 จะเน้นไปที่การสร้างสถานีอวกาศบนวงโคจรใกล้ดวงจันทร์ สถานีนี้มีชื่อว่า ลูนาร์เกตเวย์ สถานีแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญในโครงการอาร์เทมิส เป็นทั้งห้องทดลองในอวกาศ ศูนย์การสื่อสาร และที่พักอาศัยของมนุษย์อวกาศ โครงการลูนาร์เกตเวย์เป็นโครงการยักษ์ใหญ่ระดับนานาชาติ เกิดจากความร่วมมือระหว่างพันธมิตรเดิมที่มีส่วนในโครงการสถานีอวกาศนานาชาติ ได้แก่ องค์การนาซา องค์การอีซา องค์การแจ็กซา องค์การอวกาศแคนาดา ส่วนขาใหญ่อย่างรัสเซียไม่มีส่วนร่วมด้วย
ภารกิจอาร์เทมิส7 ถึงอาร์เทมิส 11 ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่แผนที่นาซาวางไว้คือจะเป็นภารกิจที่เน้นไปที่การวางโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ คาดว่าจะเริ่มภารกิจในภาคนี้ได้ในปี 2572
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้สองทศวรรษจากนี้ เส้นทางสัญจรระหว่างโลกกับดวงจันทร์จะกลับมาอึกทึกไปด้วยภารกิจอวกาศมากมายยิ่งกว่าที่เคยเกิดขึ้นในยุคอะพอลโลหลายเท่า แต่การที่ภาพฝันนั้นจะเป็นจริงตามเวลาที่กำหนด ภารกิจต่าง ๆ จะต้องไม่สะดุดหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก
เพราะประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่าภารกิจด้านอวกาศไม่เคยราบรื่น
หมายเหตุ
1.อาร์เทมิส 1 ได้ขึ้นสู่อวกาศแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13:47 น. ตามเวลาประเทศไทย
โครงการอาร์เทมิสวางภารกิจไว้หลายขั้น
ในภารกิจแรก
หากอาร์เทมิส
ภารกิจอาร์เทมิส
ใครที่เคยติดตามภารกิจอะพอลโล
เมื่อถึงเวลากลับ
แต่ในภารกิจอาร์เทมิส
การเดินทางของเอชแอลเอสก็ไม่ธรรมดา
เมื่อเอชแอลเอสไปถึงดวงจันทร์
ภารกิจอาร์เทมิส
ภาคต่อไป
โครงการอาร์เทมิสไม่ได้จบแค่นี้
ภารกิจอาร์เทมิส
หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
เพราะประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่า
หมายเหตุ
1.