สมาคมดาราศาสตร์ไทย

กลุ่มดาวคนคู่

กลุ่มดาวคนคู่

โดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com) 16 กันยายน 2568
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 10 ตุลาคม 2568
ยุคนี้ใคร ๆ ก็รู้จักใช้เอไอกันทั้งนั้น เอไอ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเข้ามาอยู่ในส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เอไอรูปแบบหนึ่งที่คุ้นเคยกันดีคือ แช็ตบอต นั่นคือเป็นเอไอที่ตอบคำถาม รับส่งข้อมูลและสั่งการผ่านข้อความเป็นหลัก ซึ่งมีอยู่หลายเจ้า เจ้าหนึ่งที่รู้จักกันแพร่หลายมากก็คือ Gemini ของกูเกิล 

นั่นแหละ วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก Gemini กัน ไม่ใช่ Gemini ที่เป็นเอไอ แต่เป็น Gemini ที่เกี่ยวกับดาว

คำว่า Gemini ฝรั่งอ่านออกเสียงได้สองแบบ คือ /เจม-มิ-นาย/ กับ /เจม-มิ-นี/ คนส่วนใหญ่ดูจะเรียกแบบแรกมากกว่า อย่างนั้นต่อไปถ้าจะเขียนเป็นไทย จะขอเขียนว่า เจมิไน ตอนอ่านก็ลากเสียงพยางค์ท้ายให้ยาว ๆ หน่อย แต่ถ้าใครอยากอ่านเจมินีก็ไม่ผิดหรอก

ที่ว่ามันเกี่ยวกับดาว ก็เพราะว่า Gemini มาจากชื่อกลุ่มดาวหนึ่งบนท้องฟ้า นั่นคือกลุ่มดาวคนคู่ เป็นกลุ่มดาวที่เป็นที่รู้จักกันดี เพราะดูง่าย และเป็นกลุ่มดาวจักรราศี คนชอบดูดวงน่าจะร้องอ๋อ เพราะเป็นกลุ่มดาวประจำราศีมิถุน 



คำว่ากลุ่มดาวประจำราศี หมายความว่า ถ้าดวงอาทิตย์มาอยู่ในกลุ่มดาวประจำราศีไหน เดือนนั้นก็จะมีชื่อตามราศีนั้น เช่น เมื่อดวงอาทิตย์มาอยู่ในกลุ่มดาวคนยิงธนูซึ่งเป็นกลุ่มดาวประจำราศีมกร เดือนนั้นจึงมีชื่อว่า เดือนมกราคม การที่บอกว่ากลุ่มดาวคนคู่เป็นกลุ่มดาวประจำราศีมิถุนก็แปลว่า ในเดือนมิถุนายนดวงอาทิตย์จะอยู่ในราศีมิถุนซึ่งมีกลุ่มดาวคนคู่เป็นกลุ่มดาวประจำอยู่

คำว่า gemini มาจากภาษาละติน แปลว่าฝาแฝด ในประมวลเรื่องปารัมปรากรีกเล่าว่า มีฝาแฝดคู่หนึ่ง คนหนึ่งชื่อ คัสเตอร์ อีกคนชื่อ พอลลักซ์ เป็นแฝดแบบไหนไม่ทราบ เพราะมีแม่เดียวกันแต่คนละพ่อ เมื่อคัสเตอร์ตายไป พอลลักซ์จึงวิงวอนต่อเทพซูสขออย่าได้ให้ทั้งสองต้องพรากจากกัน เทพซูสจึงนำฝาแฝดคู่นี้ไปสถิตอยู่บนท้องฟ้าเป็นกลุ่มดาวคนคู่ที่ทั้งสองจะยืนเคียงข้างกันตลอดไป

แฝดคัสเตอร์กับพอลลักซ์ ในแผนที่ดาวอูราโนกราเฟีย 

กลุ่มดาวคนคู่เป็นกลุ่มดาวโบราณ ตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยของทอเลมีเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 
 
กลุ่มดาวคนคู่สังเกตง่าย เพราะมีดาวสว่างหลายดวง และมีตำแหน่งอยู่ในบริเวณที่รายล้อมไปด้วยกลุ่มดาวชื่อดัง ตำแหน่งของดาวในกลุ่มเรียงกันเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า คนไทยมองเป็นดาวโลง ในกลุ่มดาวนี้มีดาวสว่างหลายดวง มีดาวที่มีอันดับความสว่างน้อยกว่า ถึง 13 ดวง ดวงที่สว่างที่สุดคือดาวพอลลักซ์ มีอันดับความสว่าง 1.2 รองลงมาคือดาวคัสเตอร์ มีอันดับความสว่าง 1.9 

ถึงแม้ดาวพอลลักซ์สว่างกว่าดาวคัสเตอร์ แต่ดาวคัสเตอร์กลับมีชื่อตามระบบเบเยอร์ว่า แอลฟาคนคู่ (α Gem) ส่วนดาวพอลลักซ์เป็น บีตาคนคู่ (β Gem) ทั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดในการวัดความสว่างของ โยฮันน์ ไบเออร์ ผู้เรียบเรียงระบบการตั้งชื่อดาวระบบนี้

ดาวคัสเตอร์ไม่ใช่ดาวเดี่ยว แต่เป็นระบบดาวหกดวงซึ่งพบได้ยากมาก อยู่ห่างจากโลก 52 ปีแสง มีสีน้ำเงิน ส่วนดาวพอลลักซ์เป็นดาวยักษ์สีส้ม อยู่ห่างจากโลก 34 ปีแสง ที่น่าสนใจคือ ดาวพอลลักซ์มีดาวเคราะห์เป็นบริวารด้วย มีชื่อว่า เทสเทียส (Thestias) การที่ดาวสว่างสองดวงนี้มีสีต่างกันมากและอยู่ใกล้กัน จึงสังเกตความแตกต่างของสีนี้ได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า 

กลุ่มดาวคนคู่เป็นกลุ่มดาวจักรราศี เพราะมีเส้นสุริยวิถีพาดผ่าน ตำแหน่งจึงอยู่ระหว่างกลุ่มดาววัวกับกลุ่มดาวปู  อยู่ติดกลุ่มดาวสารถี กลุ่มดาวแมวป่า ส่วนทางอีกฟากหนึ่งของเส้นสุริยวิถี มีกลุ่มดาวหมาเล็ก กลุ่มดาวยูนิคอร์น กลุ่มดาวนายพราน 

แผนที่ฟ้ามุมกว้าง แสดงตำแหน่งของกลุ่มดาวคนคู่และกลุ่มดาวข้างเคียง 
แผนที่ฟ้ามุมแคบ แสดงตำแหน่งดาวในกลุ่มดาวคนคู่ 

นอกจากกูเกิลจะนำชื่อกลุ่มดาวนี้ไปเป็นชื่อผลิตภัณฑ์เอไอของตัวเองแล้ว โครงการอวกาศหนึ่งขององค์การนาซาก็ตั้งชื่อตามกลุ่มดาวนี้เหมือนกัน หลายคนอาจลืมไปแล้ว เมื่อครั้งที่สหรัฐอเมริกับกับโซเวียตกำลังทำศึกชิงดวงจันทร์กันอยู่ โดยต่างฝ่ายต่างพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศขึ้นเพื่อพาคนของตัวเองไปดวงจันทร์ให้ได้ ฝ่ายอเมริกาเริ่มต้นจากโครงการเมอคิวรี ซึ่งมีลูกเรือทีละคน ถัดจากโครงการเมอคิวรีก็เริ่มโครงการใหม่โดยที่จะใช้ลูกเรือลำละสองคน และเนื่องจากมีลูกเรือสองคน จึงเอาชื่อกลุ่มดาวคนคู่มาเป็นชื่อโครงการเสียเลย แต่ชื่อโครงการนี้นาซาเขาเรียกว่า เจมินี ไม่ได้เรียก เจมิไน และโครงการอวกาศประวัติศาสตร์นี้นี่เองที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทีมของกูเกิลนำชื่อไปตั้งเป็นชื่อเอไอโมเดลของตัวเอง แต่กูเกิลออกเสียงว่า /เจมินาย/ เหมือนคนส่วนใหญ่

ยานเจมินี (จาก NASA)

หอดูดาวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งก็มีชื่อว่า หอดูดาวเจมิไน เป็นหอดูดาวที่เป็นความร่วมมือระหว่างนานาประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ชิลี บราซิล อาร์เจนตินา และเกาหลีใต้ มีหอดูดาวสองแห่งคือ หอดูดาวเจมิไนเหนือ อยู่ที่ฮาวาย และหอดูดาวเจมิไนใต้ อยู่ที่ชิลี หอดูดาวทั้งสองมีกล้องโทรทรรศน์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.1 เมตร นับเป็นกล้องโทรทรรศน์เชิงแสงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ ในจำนวนกล้องที่ประจำการอยู่ 

นอกจากเป็นกลุ่มดาวโดดเด่น เป็นกลุ่มดาวจักรราศีแล้ว มีอีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรทำความรู้จักกลุ่มดาวคนคู่ให้ดี เพราะเป็นกลุ่มดาวที่เป็นตำแหน่งของจุดกระจายของฝนดาวตกคนคู่ ซึ่งเป็นฝนดาวตกที่เด่นที่สุดสำหรับประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทย มีอัตราตกสูงสุดสูงกว่า 100 ดวงต่อชั่วโมง ตำแหน่งของจุดกระจายฝนดาวตกคนคู่อยู่ใกล้ดาวคัสเตอร์ มีช่วงที่ตกชุกที่สุดประมาณวันที่ 13-14 ของเดือนธันวาคมของทุกปี 



กลุ่มดาวคนคู่ยังเป็นกลุ่มดาวที่เกิดการค้นพบครั้งสำคัญทางดาราศาสตร์หลายครั้ง ในปี ค.ศ. 1781 วิลเลียม เฮอร์เชล ค้นพบดาวยูเรนัสขณะที่ยังอยู่ที่กลุ่มดาวคนคู่ ต่อมาในปี ค.ศ. 1930 ไคลด์ ทอมบอก์ ก็ค้นพบดาวพลูโตขณะที่อยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ พัลซาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดดวงหนึ่งที่ชื่อ เจมิงกา ก็อยู่ในกลุ่มดาวนี้เช่นกัน

วัตถุท้องฟ้า

กลุ่มดาวคนคู่อยู่ใกล้แนวทางช้างเผือก พื้นที่บางส่วนของกลุ่มดาวมีทางช้างเผือกพาดผ่าน กลุ่มดาวนี้จึงมีกระจุกดาวเปิดเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วมีความสว่างไม่มาก มีวัตถุเมซีเยเพียงวัตถุเดียวเท่านั้น นั่นคือกระจุกดาว เอ็ม 35 กระจุดาวนี้มีความสว่างประมาณ 5.1 ซึ่งมองเห็นได้ยากด้วยตาเปล่าแม้ในคืนที่มืดสนิท แต่มองได้ชัดเจนด้วยกล้องสองตา วัตถุอีกดวงหนึ่งที่มีชื่อเสียงในกลุ่มดาวนี้คือ เอ็นจีซี 2392 หรืออีกชื่อที่รู้จักกันดีคือ เนบิวลาเอสกิโม ลองดูรูปแล้วจะเข้าใจว่าเหตุใดจึงได้ชื่อนี้

เนบิวลาเอสกิโม หรือ เอ็นจีซี 2392 (NGC 2392) ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล 
M35 (จาก 2MASS/NASA.)

กลุ่มดาวคนคู่มีตำแหน่งอยู่ที่ไรต์แอสเซนชัน 7h เดคลิเนชัน +20° ซึ่งอยู่ใกล้จุดครีษมายัน ดังนั้นฤดูที่เหมาะสำหรับดูกลุ่มดาวคนคู่คือฤดูหนาว ในเดือนตุลาคมกลุ่มดาวคนคู่จะขึ้นจากขอบฟ้าทางตะวันออกเฉียงเหนือในลักษณะเอาขาชี้ขึ้น และจะเห็นได้ตลอดจนถึงเช้ามืด และนับวันก็จะจะขึ้นจากขอบฟ้าเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนในเดือนธันวาคมก็จะเห็นได้ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงรุ่งเช้าเลยทีเดียว