ใครที่ชอบชมพระอาทิตย์ตกที่ขอบฟ้าเหนือทะเลหรือขึ้นจากขอบฟ้าเหนือทะเล อาจเคยพบปรากฏการณ์ชนิดหนึ่ง เรียกว่า แสงแวบเขียว (green flash) ปรากฏการณ์ชนิดนี้จะเห็นเป็นแสงสีเขียวคล้ายฟ้าแลบเกิดขึ้นระหว่างขอบล่างของดวงอาทิตย์กับเส้นขอบฟ้า
แสงสีขาวที่ตามองเห็นเกิดจากแสงความยาวคลื่นต่างๆ ผสมกัน เมื่อแสงอาทิตย์ส่องผ่านบรรยากาศโลก แสงบางสีเกิดการหักเหออก ปรากฏการณ์นี้เองที่ทำให้ท้องฟ้าตอนกลางวันมีสีฟ้า เนื่องจากแสงสีฟ้าในแสงอาทิตย์เกิดการกระเจิงในบรรยากาศ
ในสภาพและเงื่อนไขที่จำเพาะเจาะจงแสงอาทิตย์อาจแยกออกเป็นสองทาง โดยเฉพาะเมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ขอบฟ้า แสงอาทิตย์ต้องเฉือนผ่านชั้นบรรยากาศเป็นมุมแคบจึงต้องเดินทางผ่านบรรยากาศมากกว่าปกติกว่าจะมาถึงผู้สังเกตบนพื้นโลก
เมื่อแสงส่องผ่านชั้นบรรยากาศแสงที่มีความยาวคลื่นสั้น เช่นแสงสีฟ้า สีม่วง จะกระเจิงออกไปมากที่สุด ในขณะที่แสงที่มีความยาวคลื่นยาว เช่นสีแดง ส้ม หรือเหลือง จะถูกดูดกลืนไปในบรรยากาศ เหลือเพียงแสงสีเขียวที่เหลือรอดมาถึงสายตาผู้สังเกต อย่างไรก็ตาม การจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ มุมต่าง ๆ ต้องเหมาะเจาะพอดี นั่นคือเหตุผลที่ปรากฏการณ์แสงแวบเขียวจึงเกิดขึ้นเป็นเวลาสั้นมาก
แสงแวบเขียวไม่ได้เกิดกับดวงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เวลาเช้ามืด ปีเตอร์ โรเซน ช่างภาพชาวสวีเดนถ่ายภาพแสงแวบเขียวเกิดขึ้นกับดาวศุกร์ได้ในสตอกโฮล์ม
แสงแวบเขียวของดาวศุกร์ในครั้งนี้เกิดขึ้นนานราว1 วินาที มีสีเขียวเป็นสีหลัก แต่ก็มีสีเหลือง สีส้ม และสีน้ำเงินแทรกอยู่ในบางส่วนด้วย
แสงแวบเขียวจากดาวศุกร์เกิดขึ้นได้จากอากาศหนาวจัด ต่างจากแสงแวบเขียวจากดวงอาทิตย์ที่มักเกิดใกล้ขอบฟ้าเหนือมหาสมุทร ดังนั้นจึงมีโอกาสเห็นปรากฏการณ์นี้ห่างจากขอบฟ้าได้
แม้การเกิดแสงแวบเขียวบนดาวศุกร์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่แสงแวบเขียวจากดาวศุกร์เกิดขึ้นน้อยมาก นอกจากดาวศุกร์แล้ว ปรากฏการณ์แบบเดียวกันยังเคยพบจากดาวพุธและดวงจันทร์ด้วย
แสงสีขาวที่ตามองเห็นเกิดจากแสงความยาวคลื่นต่าง
ในสภาพและเงื่อนไขที่จำเพาะเจาะจง
เมื่อแสงส่องผ่านชั้นบรรยากาศ
แสงแวบเขียวไม่ได้เกิดกับดวงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แสงแวบเขียวของดาวศุกร์ในครั้งนี้เกิดขึ้นนานราว
แสงแวบเขียวจากดาวศุกร์
แม้การเกิดแสงแวบเขียวบนดาวศุกร์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก