สมาคมดาราศาสตร์ไทย

ไขข้อข้องใจ แสงวาบบนท้องฟ้าเมื่อคืนวันที่ 3 สิงหาคม 2568

ไขข้อข้องใจ แสงวาบบนท้องฟ้าเมื่อคืนวันที่ 3 สิงหาคม 2568

โดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com) 4 สิงหาคม 2568
ปรับปรุงครั้งล่าสุด 16 สิงหาคม 2568
เมื่อคืนวันที่ สิงหาคม 2568 ก่อนเที่ยงคืนเพียงเล็กน้อย มีผู้พบเห็นแสงสว่างพุ่งเป็นทางบนท้องฟ้าคล้ายดาวตก โดยมีรายงานจากผู้พบเห็นในหลายพื้นที่ทั้งภาคอีสานใต้และภาคกลาง นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีเสียงดังคล้ายระเบิดร่วมด้วย การที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีความไม่สงบบริเวณชายแดน จึงทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยกังวลใจว่าอาจเป็นสิ่งอื่นที่เป็นอันตรายหรือไม่

ชมคลิปจากโพสต์ต้นทางในเฟซบุ๊กเพจของสมาคมดาราศาสตร์ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/share/p/19kZW4w6jE/


คลิปตัวอย่างแสงที่ปรากฏ จากเฟซบุ๊กสมาคมดาราศาสตร์ไทย โดยคุณ มิน ตรา. 

จากการอธิบายของผู้เห็นเหตุการณ์ที่ประมวลได้ แสงสว่างบนท้องฟ้าดังกล่าวมีลักษณะดังนี้

 เกิดเมื่อเวลาประมาณ 23:55-23:57 น.
 ลักษณะของแสงที่ปรากฏ เป็นจุดสว่างพุ่งไปบนท้องฟ้าเป็นเส้นตรง มีหัวสีแดงและทอดหางสีเขียว เคลื่อนที่ช้าเป็นพิเศษ ปรากฏเป็นเวลานานเกือบสิบวินาที บางคลิปที่ส่งเข้ามาเห็นว่ามีสะเก็ดหลุดออกมาด้วย
 ทิศทางการเคลื่อนที่ยังไม่ชัดเจน รายงานค่อนข้างสับสนและคลุมเครือ 
 มีรายงานพบเห็นได้ในหลายจังหวัด ทั้งภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพ ผู้รายงานส่วนใหญ่มาจากนครราชสีมา
 บางรายงานบอกว่ามีเสียงด้วยและดังมาก ดังตู้มจนพื้นสะเทือน รายงานที่ระบุว่ามีเสียงส่วนใหญ่มาจากแถวโคราช ส่วนผู้พบเห็นจากพื้นที่ไกลจากโคราชส่วนใหญ่ไม่ได้ยินเสียง
 ลักษณะของเสียงที่ได้ยิน ไม่ค่อยไปในทางเดียวกันสักเท่าใดนัก ส่วนใหญ่บอกเป็นเสียงดังตู้มเพียงครั้งเดียว บางคนบอกสองครั้ง มีแม้แต่ที่บอกว่า 4-5 ครั้ง หรือ 10 ครั้ง

ข้อวินิจฉัย


มันคืออะไร

จากคลิปที่ปรากฏ เห็นได้ชัดว่าเป็นดาวตก อย่างไรก็ตาม ในที่นี้จะขอเอาปรากฏการณ์อื่นมาร่วมพิจารณาร่วมด้วยเพื่อเปรียบเทียบให้เกิดความชัดเจน 

แสงที่ปรากฏเคลื่อนที่บนฟ้าเป็นไปได้หลายอย่าง 1. โดรน  2. เครื่องบิน 3. ดาวตก  4. ขยะอวกาศ  ช่วงนี้มีความไม่สงบที่ชายแดน ก็อาจเพิ่มตัวเลือกมาอีกหนึ่งตัวคือ 5. ขีปนาวุธ

จากลักษณะของแสงที่ปรากฏ ไม่ใกล้เคียงโดรน ตัดข้อหนึ่งไปได้ทันที
ถ้าเป็นเครื่องบินจะมีดวงไฟมากกว่าหนึ่งดวง และเป็นดวงไฟกลม ๆ ไม่มีประกายออกมา และกะพริบตลอดทาง แต่ดวงนี้ไม่กะพริบ ตัดเรื่องเครื่องบินไปได้

การที่ปรากฏการณ์นี้มองเห็นได้เป็นบริเวณกว้างมาก แสดงว่าวัตถุที่ทำให้เกิดแสงไฟนี้อยู่สูงมากระดับร้อยกิโลเมตร ซึ่งขีปนาวุธที่ใช้กันในย่านนี้ไม่ขึ้นสูงระดับนั้น ดังนั้นจึงตัดข้อ ไปได้ เหลือข้อ 3. ดาวตก และ 4. ขยะอวกาศ

ขยะอวกาศคือสิ่งมนุษย์สร้างที่นำขึ้นไปไว้ในอวกาศ แล้วตกกลับลงมาสู่โลก เช่น อาจเป็นดาวเทียมที่หมดอายุแล้ว หรือจรวดที่ส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศไปแล้ว พอหมดหน้าที่ก็ตกกลับสู่โลก 

ดาวตกและขยะอวกาศดูเผิน ๆ คล้ายกัน แต่จุดแตกต่างที่เด่นชัดคือความเร็วในการเคลื่อนที่ ขยะอวกาศเคลื่อนที่ช้ากว่าดาวตกมาก แม้แสงที่ปรากฏนี้จะช้ากว่าดาวตกทั่วไป แต่ก็ยังเร็วกว่าระดับของขยะอวกาศอยู่มาก จึงตัดประเด็นขยะอวกาศไปได้ ตอนนี้ก็เหลือความเป็นไปได้เพียงข้อเดียวคือ ดาวตก เป็นดาวตกชนิดสว่างกว่าดาวตกทั่วไป ที่เรียกว่า ลูกไฟ (fireball)



เป็นดาวตกชนิดระเบิดหรือไม่

การที่ปรากฏการณ์นี้มีเรื่องของเสียงตู้มประกอบ ซึ่งฟังดูคล้ายการระเบิด จึงอาจคิดไปได้ว่าเป็นดาวตกชนิดระเบิด (bolide) อย่างไรก็ตาม จากคลิปที่ปรากฏทั้งหมด เป็นเพียงดาวตกที่ส่องสว่างอย่างราบเรียบ ไม่มีลักษณะของการระเบิดกลางอากาศหรือแม้แต่การปะทุก็ไม่ปรากฏ จึงไม่ใช่ดาวตกชนิดระเบิด ส่วนเรื่องของเสียงจะมีการพิจารณาในหัวข้อต่อไป

ตัวอย่างภาพดาวตกชนิดระเบิด (bolide) สิ่งที่บอกว่าดาวตกมีการระเบิดคือความสว่างที่มีการปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน ไม่ใช่เสียง  ดาวตกที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ สิงหาคม ไม่มีลักษณะการปะทุเช่นนี้ จึงไม่ใช่ดาวตกชนิดระเบิด 


มาจากฝนดาวตกเพอร์ซิอัสหรือไม่?


แม้ช่วงนี้ได้เข้าสู่ช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกเพอร์ซิอัส (บางคนเรียกฝนดาวตกเพอร์ซิดส์ ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ หรือ ฝนดาวตกวันแม่) แต่มีข้อบ่งชี้บางอย่างที่แสดงว่าดาวตกลูกนี้ไม่ได้มาจากฝนดาวตกเพอร์ซิอัส 

ข้อแรก ณ เวลาที่เกิดเหตุการณ์ (ประมาณ 23:55 น.) จุดกระจายฝนดาวตกเพิ่งพ้นขอบฟ้า โอกาสที่จะมีดาวตกจากฝนดาวตกเพอร์ซิอัสมีน้อยมาก และหากเกิด ก็มีโอกาสที่จะมีทิศทางพุ่งขึ้นจากขอบฟ้าทางตะวันออกเฉียงเหนือมากกว่าวิ่งยาวข้ามฟ้าดังที่ปรากฏ 

ข้อสอง ความเร็ว ดาวตกจากฝนดาวตกเพอร์ซิอัสเคลื่อนที่เร็วเป็นเอกลักษณ์ แต่ดาวตกดวงที่ปรากฏเมื่อคืนเคลื่อนที่ช้าเป็นพิเศษ ความไม่สอดคล้องนี้เป็นตัวชี้ขาดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ดาวตกดวงเมื่อคืนจะมาจากฝนดาวตกเพอร์ซิอัส

ตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้าของวันที่ สิงหาคม ณ เวลา 23:55 น. วงสีเขียวคือตำแหน่งของจุดกระจายฝนดาวตกเพอร์ซิอัส วงสีบานเย็นเป็นตำแหน่งของจุดกระจายฝนดาวตกแคปปาหงส์
 


แล้วมาจากไหน


ช่วงเวลานี้ไม่ได้มีแค่ดาวตกเพอร์ซิอัสเพียงชุดเดียว ยังมีฝนดาวตกชุดอื่นเกิดร่วมด้วย ฝนดาวตกชุดหนึ่งที่น่าพิจารณาคือ ฝนดาวตกแคปปาหงส์ (Kappa Cygnids) ปกติฝนดาวตกชุดนี้มีจำนวนดาวตกไม่มากนัก แต่มีสมบัติข้อหนึ่งที่เข้ากันได้กับดาวตกที่พบเมื่อคืนก็คือ เคลื่อนที่ช้าเป็นพิเศษ จึงอาจเป็นไปได้ว่า เป็นดาวตกที่มาจากฝนดาวตกแคปปาหงส์ สิ่งหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนว่าเป็นดาวตกจากฝนดาวตกแคปปาหงส์จริงหรือไม่คือทิศทางของดาวตก หากทิศทางของดาวตกมาจากตำแหน่งของกลุ่มดาวหงส์ก็สนับสนุนว่ามาจากฝนดาวตกแคปปาหงส์จริง แต่เนื่องจากหลักฐานด้านทิศทางของดาวตกเมื่อคืนไม่ชัดเจน จึงไม่อาจยืนยันสมมุติฐานนี้ได้

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ดาวตกเมื่อคืนจะเป็นดาวตกทั่วไปที่ไม่ได้มาจากฝนดาวตก ทุกคืนมีดาวตกที่ไม่ได้มาจากฝนดาวตกเกิดขึ้นได้นับร้อยดวงอยู่แล้ว 

เสียง


หากดาวตกลูกเมื่อคืนวันที่ สิงหาคมไม่มีเสียงเข้ามาเกี่ยวข้องก็คงไม่ได้เป็นข่าวคราวใหญ่โต ไม่มีใครให้ความสนใจมากนัก เพราะทุกคนล้วนแต่เคยเห็นดาวตกมาก่อน เป็นสิ่งที่เห็นกันแทบทุกคืนอยู่แล้ว แต่การที่ผู้เห็นเหตุการณ์หลายรายกล่าวถึงเสียงตู้มที่เกิดขึ้นด้วย ทำให้อดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ดาวตก

ดาวตกมีเสียงด้วยหรือ?


มี ดาวตกเกิดจากสะเก็ดดาวที่เคลื่อนที่ฝ่าบรรยากาศด้วยความเร็วสูงมาก ทำให้เกิดโซนิกบูมดังสนั่นหวั่นไหว ยิ่งดาวตกดวงใหญ่ก็ยิ่งทำให้เกิดเสียงดัง

แต่เราก็มักไม่ค่อยได้ยินเสียงดาวตก แม้แต่ดาวตกชนิดระเบิดก็ไม่ได้ยินเสียงระเบิด เพราะดาวตกเกิดขึ้นระดับสูงมาก ปกติดาวตกเกิดขึ้นที่ระดับสูงจากพื้นดินประมาณ 100 กิโลเมตร กว่าเสียงจะเดินทางจากจุดกำเนิดที่สูงระดับนั้นมาถึงหูคนบนพื้นจะใช้เวลาประมาณห้านาที ซึ่งกว่าจะได้ยินเสียง แสงจากดาวตกก็หายไปนานแล้ว นอกจากนี้กว่าเสียงจะมาถึงก็ไม่ใช่เสียงตู้มหรือเสียงบึ้มแบบการระเบิด แต่เป็นเสียงครืนต่ำ ๆ เหมือนฟ้าร้องอยู่ไกล ๆ จะมีสักกี่คนที่บอกได้ว่าเสียงครืนที่กำลังได้ยินนี้เป็นเสียงจากดาวตกที่มองเห็นเมื่อห้านาทีก่อน 



หากจะมีดาวตกดวงใดที่ทำให้เกิดเสียงดังตูมสนั่นหวั่นไหวจนได้ยินจากคนบนพื้นได้ จะต้องเกิดจากกรณีที่ดาวตกดวงนั้นลงมาถึงระดับต่ำมาก จึงจะทำให้ผู้ฟังได้ยินเสียงแบบระเบิดได้ หรืออาจถึงขั้นมาถึงพื้น แรงกระแทกพื้นดินทำให้เกิดการระเบิดเป็นเสียงตู้มขึ้นมา สะเก็ดดาวที่จะทำแบบนั้นได้จะต้องมีขนาดใหญ่มาก และดาวตกที่เกิดก็จะต้องสว่างมาก

แต่ดาวตกดวงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ เกิดที่ระดับสูง และความสว่างของลูกไฟที่ปรากฏก็ไม่ได้สว่างมากจนถึงกับจะทำให้เชื่อได้ว่าเหลือรอดจนถึงพื้นและกระแทกพื้นจนเกิดเสียงดังได้ คาดว่าดาวตกลูกเมื่อคืนคงจะสลายไปหมดในบรรยากาศนั่นเอง นอกจากนี้ คำบรรยายเกี่ยวกับเสียงที่เกิดขึ้นไม่ได้ไปในทางเดียวกัน มีทั้งที่บอกว่าเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว สองครั้ง ห้าครั้ง หรือแม้แต่สิบครั้ง และระยะเวลาที่เกิดตามหลังดาวตกก็ไม่ชัดเจนว่าเท่าใดกันแน่ 

จึงเชื่อได้ว่า เสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เสียงที่มาจากดาวตก อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่บังเอิญเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกันพอดี 

บทสรุป

เป็นดาวตกสว่าง (ลูกไฟ)
ไม่ใช่ดาวตกชนิดระเบิด
ไม่ใช่ดาวตกที่มาจากฝนดาวตกเพอร์ซิอัส
มีความเป็นไปได้มากกว่าที่จะมาจากฝนดาวตกแคปปาหงส์
เสียงที่ได้ยิน เป็นเสียงจากแหล่งอื่นที่ไม่ได้เกิดจากดาวตก

อย่างไรก็ตาม ข้อวินิจฉัยเหล่านี้ ก็เป็นเพียงสมมุติฐานเบื้องต้นเท่าที่จะทำได้จากประมวลหลักฐานที่ได้รับ การศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกกว่านี้จำเป็นต้องมีข้อมูลสนับสนุนที่หนักแน่นกว่านี้