เมื่อปีที่แล้ว นักดาราศาสตร์ชาวสหราชอาณาจักรได้รายงานการค้นพบดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์จำนวนหนึ่งในกระจุกดาวทราปีเซียมที่อยู่ในใจกลางเนบิวลานายพราน รายงานชิ้นนั้นเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นมากในวงการดาราศาสตร์ดาวเคราะห์ เพราะดาวเคราะห์ที่พบนั้นเป็นดาวเคราะห์อิสระที่ไม่ได้โคจรรอบดาวฤกษ์ดวงใดดังเช่นดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ
แต่เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมานักดาราศาสตร์อีกกกลุ่มหนึ่งนำโดย มาร์ก แมกคอฟรีน จากเยอรมนี ได้ใช้อุปกรณ์ ISAAC กล้องโทรทรรศน์วีแอลที (VLT) ของหอสังเกตการณ์ยุโรปใต้ในชิลีที่มีกำลังสูงกว่าสำรวจในบริเวณเดียวกันนั้น และได้พบว่า วัตถุที่พบนั้นอาจไม่ใช่ดาวเคราะห์ยักษ์อย่างที่คณะนักดาราศาสตร์จากอังกฤษตีความไว้ก็ได้ เนื่องจากวัตถุบางดวงในจำนวนนี้มีความสว่างมากกว่าที่เคยคิดไว้ แสดงว่ามันมีมวลมากกว่าดวงอื่น ซ้ำยังมากกว่าขีดจำกัดสูงสุดของมวลดาวเคราะห์เสียอีก ดังนั้นวัตถุเหล่านั้นน่าจะเป็นดาวแคระน้ำตาลมากกว่า
นอกจากจะพบว่าวัตถุเหล่านั้นมีความสว่างมากกว่าที่จะเป็นดาวเคราะห์แล้วเขายังพบว่าภาพของนั้นไม่ได้เป็นจุดอีกด้วย แต่กลับเป็นก้อนของก๊าซที่เกาะกลุ่มกันเป็นหย่อม ๆ แทน
เนบิวลานายพรานเป็นบริเวณที่มีดาวฤกษ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก คาดว่าอาจมีมากราว 1,000 ดวง แต่ละดวงมีอายุน้อยเพียงประมาณ 1 ล้านปี ส่วนใหญ่กระจุกตัวรวมกันอยู่ในกระจุกดาวที่อยู่ในใจกลาง นั่นคือกระจุกดาวทราปีเซียมที่นักดูดาวรู้จักกันดี
นักดาราศาสตร์คาดหวังว่าภายในปีหน้านี้หลังจากที่กล้องตัวแรกของวีแอลที (กล้องวีแอลทีประกอบด้วยกล้องโทรทรรศน์เดี่ยว 4 ตัวทำงานร่วมกัน) ได้ติดตั้งระบบอแดปทีฟออปติกแล้ว จะสามารถถ่ายภาพเนบิวลานายพรานได้คมชัดยิ่งขึ้นกว่านี้มาก เมื่อนั้นนักดาราศาสตร์จะได้พบกับความลับอีกมากมายที่อยู่ในเนบิวลาซึ่งอาจรวมถึงจานก่อตัวที่เป็นแหล่งกำเนิดดาวเคราะห์อยู่รอบ ๆ ดาวฤกษ์อายุน้อยในเนบิวลาแห่งนี้ อันเป็นสิ่งที่นักดาราศาสตร์ปรารถนาที่จะเห็นเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นอกจากจะพบว่าวัตถุเหล่านั้นมีความสว่างมากกว่าที่จะเป็นดาวเคราะห์แล้ว
เนบิวลานายพรานเป็นบริเวณที่มีดาวฤกษ์ใหม่
นักดาราศาสตร์คาดหวังว่า