ดาวเบเทลจุส เป็นดาวฤกษ์ที่เป็นที่รู้จักกันดี เป็นดาวสว่างอันดับสิบของท้องฟ้า อยู่ในกลุ่มดาวนายพราน มีสีแดงโดดเด่น เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นที่สนใจเป็นพิเศษเพราะเกิดการหรี่แสงอย่างมากจนเป็นที่สงสัยกันมากว่าอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการระเบิดเป็นซูเปอร์โนวา
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ดาวเบเทลจุสมีความพิเศษกว่าดาวดวงอื่นก็คืออัตราการหมุนรอบตัวเองที่เร็วมากอย่างเหลือเชื่อ
ปัจจุบันดาวเบเทลจุสอยู่ในสถานะดาวยักษ์แดงมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากถึงหนึ่งพันล้านกิโลเมตร หรือใหญ่กว่าดวงอาทิตย์หนึ่งพันเท่า หากนำดาวเบเทลจุสมาวางที่ตำแหน่งดวงอาทิตย์ ผิวของดาวจะล้ำไปถึงวงโคจรของดาวพฤหัสบดีเลยทีเดียว ดาวที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ไม่ควรหมุนรอบตัวเองเร็วนัก เพราะเมื่อดาวขยายใหญ่ขึ้น อัตราการหมุนรอบตัวเองจะต้องลดลงตามหลักการสงวนโมเมนตัม แต่นักดาราศาสตร์เคยวัดอัตราการหมุนรอบตัวเองของเบเทลจุสพบว่ามีความเร็วที่พื้นผิว 5 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าดาวยักษ์แดงทั่วไปถึง 100 เท่า
เมื่อดาวหมุนรอบตัวเองและขั้วของดาวไม่ได้ชี้ไปยังผู้สังเกต ผู้สังเกตจะเห็นว่าขอบดาวด้านหนึ่งจะเคลื่อนที่เข้าหาผู้สังเกต และขอบอีกด้านหนึ่งจะเคลื่อนที่ถอยห่างจากผู้สังเกต การวัดความเร็วตามแนวรัศมีที่ผิวดาวแต่ละด้าน ทำให้นักดาราศาสตร์ทราบอัตราการหมุนรอบตัวเองของดาวได้ และวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่นักดาราศาสตร์ใช้วัดอัตราการหมุนรอบตัวเองของดาวเบเทลจุส
วิธีนี้เป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาผลลัพธ์จึงน่าเชื่อถือหากดาวเบเทลจุสเป็นทรงกลมสมบูรณ์ แต่ดาวเบเทลจุสเป็นดาวที่มีแต่ความปั่นป่วนอลหม่าน พื้นผิวดาวอยู่ในสภาพเดือด เป็นกระพุ้งที่เกิดจากกระบวนการพาความร้อนภายในดาว การเคลื่อนที่ของแก๊สร้อนทำให้เกิดฟองขนาดใหญ่ มีแก๊สบางส่วนจมบางส่วนผุดอยู่ตลอดเวลา เหมือนผิวของน้ำในกาต้มน้ำที่กำลังเดือด แต่บนดาวเบเทลจุสกระบวนการนี้รุนแรงกว่ามาก แต่ละฟองอาจใหญ่พอ ๆ กับวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ กระแสของแก๊สร้อนที่ผุดขึ้นและจมลงอาจมีความเร็วมากถึง 30 กิโลเมตรต่อวินาที
นักดาราศาสตร์คณะหนึ่งนำโดยหม่า จิ้งเจ๋อ นักศึกษาปริญญาเอกจากสถาบันฟิสิกส์ดาราศาสตร์มักซ์พลังค์ สันนิษฐานว่ากระแสของแก๊สร้อนบนดาวเบเทลจุสอาจทำให้ตีความผิดไปว่าเกิดจากการหมุนรอบตัวเอง หากมีพื้นผิวซีกหนึ่งมีส่วนที่แก๊สจมมาก และอีกซีกหนึ่งมีแก๊สผุดมาก ก็จะทำให้การประเมินอัตราหมุนรอบตัวเองของดาวเบเทลจุสคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง แม้กล้องวิทยุอัลมาที่นักดาราศาสตร์ใช้สำรวจดาวเบเทลจุสจะมีกำลังแยกภาพสูงมากด้วยการใช้หลักการแทรกสอด แต่ก็ยังไม่สูงพอที่จะแยกแยะการเคลื่อนที่ของแก๊สกับการหมุนจริง
นักดาราศาสตร์คณะนี้จึงสร้างแบบจำลองของดาวฤกษ์ที่มีฟองเดือดพล่านแบบดาวเบเทลจุสแต่ไม่หมุนรอบตัวเองและนำมาเปรียบเทียบกับภาพที่สังเคราะห์ขึ้นจากการสังเกตดาวเบเทลจุสจริงโดยเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์วิทยุอัลมา พบว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของแบบจำลองที่สร้างขึ้นมา กระแสไหลวนของพลาสมาที่เกิดจากกระบวนการพาความร้อนภายในดาวทำให้เกิดสเปกตรัมที่ดูคล้ายกับการหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วหลายกิโลเมตรต่อวินาที
ดังนั้นหาต้องการวัดอัตราการหมุนรอบตัวเองของดาวเบเทลจุสให้ถูกต้องจริงๆ จะต้องมีการสำรวจเพิ่มเติมด้วยกล้องที่มีกำลังแยกภาพมากกว่าเดิม ความพยายามดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้วในปี 2565 นักดาราศาสตร์คณะหนึ่งได้พยายามวัดสเปกตรัมของดาวเบเทลจุส และขณะนี้กำลังอยูในช่วงการวิเคราะห์ข้อมูล คาดว่าอาจได้ผลลัพธ์ที่ช่วยคลี่คลายความเร้นลับของดาวยักษ์ดวงนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ดาวเบเทลจุสมีความพิเศษกว่าดาวดวงอื่นก็คืออัตราการหมุนรอบตัวเองที่เร็วมากอย่างเหลือเชื่อ
ปัจจุบันดาวเบเทลจุสอยู่ในสถานะดาวยักษ์แดง
เมื่อดาวหมุนรอบตัวเอง
วิธีนี้เป็นวิธีที่ตรงไปตรงมา
นักดาราศาสตร์คณะหนึ่งนำโดย
นักดาราศาสตร์คณะนี้จึงสร้างแบบจำลองของดาวฤกษ์ที่มีฟองเดือดพล่านแบบดาวเบเทลจุสแต่ไม่หมุนรอบตัวเอง
ดังนั้นหาต้องการวัดอัตราการหมุนรอบตัวเองของดาวเบเทลจุสให้ถูกต้องจริง