สมาคมดาราศาสตร์ไทย

ดาวหางสวอน - C/2020 F8 (SWAN)

ดาวหางสวอน - C/2020 F8 (SWAN)

ดาวหางอีกดวงหนึ่งที่ก่อนหน้านี้มีแนวโน้มจะสว่างพอสมควร แต่ขณะนี้มีความสว่างน้อยกว่าที่คาดไว้

10 พฤษภาคม 2563 โดย: วรเชษฐ์ บุญปลอด
ดาวหางสวอน C/2020 F8 (SWAN) ค้นพบโดย ไมเคิล แมตเทียซโซ นักดาราศาสตร์สมัครเล่นในออสเตรเลีย เป็นการค้นพบจากภาพถ่ายที่ได้จากอุปกรณ์ซึ่งติดตั้งบนยานโซโฮ (SOHO ย่อมาจาก Solar and Heliospheric Observatory) เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563

ชื่อดาวหางมาจากชื่อของอุปกรณ์ที่นำไปสู่การค้นพบ (SWAN ย่อมาจาก Solar Wind Anisotropies) โดยเครื่องมือนี้มีความไวต่อความยาวคลื่นของไฮโดรเจน ใช้สำหรับถ่ายภาพทั่วท้องฟ้าเพื่อศึกษาการกระจายตัวของไฮโดรเจนในอวกาศซึ่งสัมพันธ์กับลมสุริยะและกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ การค้นพบดาวหางเป็นผลพลอยได้ ดาวหางทุกดวงที่สว่างกว่าโชติมาตรประมาณ 10-11 จะปรากฏในภาพซึ่งมีความละเอียดต่ำ

เราสามารถค้นหาดาวหางจากภาพถ่ายที่ได้จากสวอน เมื่อพบวัตถุเคลื่อนที่ซึ่งไม่ตรงกับดาวหางที่รู้จัก และสงสัยว่าเป็นดาวหางแล้ว จำเป็นต้องมีการสังเกตด้วยกล้องโทรทรรศน์บนท้องฟ้าจริงอีกครั้งเพื่อยืนยัน ภาพถ่ายนี้เผยแพร่อยู่บนอินเทอร์เน็ตให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เป็นสาเหตุให้ดาวหางได้รับการตั้งชื่อตามอุปกรณ์ที่นำไปสู่การค้นพบ ไม่ได้ตั้งตามบุคคลที่ค้นพบ

ตัวอย่างภาพถ่ายทั่วฟ้าจากอุปกรณ์สวอนบนยานโซโฮ แสดงการเคลื่อนที่ของดาวหางอย่างน้อย ดวง ซึ่งปรากฏพร้อมกันในช่วงวันที่ เมษายน – พฤษภาคม 2563 (จาก SWAN/SOHO)

กลางเดือนเมษายน 2563 ดาวหางสวอนสว่างที่โชติมาตรประมาณ จากนั้นก็สว่างขึ้นอย่างช้า ๆ วันที่ 25 เมษายน สว่างที่โชติมาตร แต่หลังจากนั้นเริ่มมีความสว่างเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วันที่ พฤษภาคม ไปอยู่ที่ราวโชติมาตร มีรายงานจากนิวซีแลนด์ว่าเริ่มเห็นได้จาง ๆ ด้วยตาเปล่า ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท โดยขณะนั้นดาวหางมีตำแหน่งอยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรฟ้า ซีกโลกใต้อยู่ในช่วงที่กลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน ทำให้สังเกตได้ดีกว่าซีกโลกเหนือ

จากรายงานความสว่างถึงสิ้นเดือนเมษายน คาดว่าดาวหางสวอนจะยังคงสว่างขึ้นเรื่อย ๆ อาจสว่างที่สุดราวโชติมาตร หรือ ในช่วงวันที่ 17-25 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นพบว่าดาวหางมีความสว่างลดลงเล็กน้อย อาจเป็นไปได้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ดาวหางสวอนอยู่ในช่วงของการปะทุความสว่าง ขณะนี้อาจกำลังกลับสู่ภาวะปกติ คาดว่าจะกลับมามีความสว่างเพิ่มขึ้น แต่อาจไม่สว่างถึงระดับที่คาดไว้ในตอนแรก

ดาวหางสวอนจะใกล้โลกที่สุดในวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ที่ระยะห่าง 0.556 หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณ 83 ล้านกิโลเมตร และผ่านจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ที่ระยะห่าง 0.430 หน่วยดาราศาสตร์ หรือประมาณ 64 ล้านกิโลเมตร

ดาวหางสวอนเมื่อวันที่ พฤษภาคม 2563 ภาพถ่ายที่เปิดรับแสงเป็นเวลานาน และผ่านกระบวนการทางภาพ อย่างการผนวกภาพหลายภาพเข้าด้วยกัน เผยให้เห็นหางแก๊สที่ยืดยาวประมาณ องศา แต่การสังเกตผ่านกล้องไม่สามารถมองเห็นหางที่ยาวมากเช่นนี้ได้ (จาก Damian Peach)

การสังเกตในประเทศไทย


ช่วงที่คาดว่าดาวหางจะสว่างที่สุด สังเกตได้ยากหรือไม่สามารถสังเกตได้สำหรับประเทศในละติจูดต่ำของซีกโลกเหนืออย่างประเทศไทย เนื่องจากดาวหางขึ้นและตกในเวลาใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ (ละติจูดสูงของซีกโลกเหนือสังเกตได้ดีกว่า) เวลาที่พอจะสังเกตดาวหางดวงนี้ได้สำหรับประเทศไทยอยู่ในช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤษภาคม ดาวหางปรากฏบนท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกในเวลาเช้ามืด เคลื่อนผ่านกลุ่มดาวซีตัส ปลา แกะ และสามเหลี่ยม เดิมคาดหมายว่าช่วงดังกล่าวอาจมีความสว่างเพิ่มขึ้นจากโชติมาตร ไปอยู่ที่ราว 3.5 แต่จากความสว่างที่ลดลงในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ทำให้โอกาสที่ดาวหางจะสว่างถึงระดับที่พยากรณ์ไว้ในตอนแรกนั้นเป็นไปได้ยาก คาดว่าอาจสว่างสูงสุดที่ราวโชติมาตร เท่านั้น

การสังเกตดาวหางสวอนทำได้ไม่ดีนักสำหรับประเทศไทย อุปสรรคสำคัญคือดาวหางมีตำแหน่งอยู่ใกล้ขอบฟ้า แสงดาวที่อยู่ใกล้ขอบฟ้าเดินทางผ่านบรรยากาศซึ่งหนากว่าที่จุดเหนือศีรษะ ทำให้ความสว่างลดลงไปอีก นอกจากนี้ยังมีแสงจันทร์ข้างแรมรบกวนอีกด้วย กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเกตดาวหางดวงนี้ และต้องสังเกตจากสถานที่ซึ่งห่างจากเมืองใหญ่ ขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกต้องเปิดโล่ง ไม่มีอะไรบดบัง และไม่มีแสงรบกวน หลังจากขึ้นเหนือขอบฟ้าแล้ว จะมีเวลาสังเกตดาวหางได้ไม่นานก่อนที่ความสว่างของท้องฟ้ายามเช้าจะกลบแสงของดาวหาง

ตำแหน่งดาวหางสวอนในวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2563 ดาวหางสว่างใกล้เคียงกับดาวที่จางที่สุด (ดวงเล็กที่สุด) ในภาพ 

กราฟความสว่างของดาวหางสวอน (จาก COBS)