ยานจูโน ยานสำรวจดาวพฤหัสบดีขององค์การนาซา ได้เดินทางไปถึงดาวพฤหัสบดีเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ปีที่แล้ว นับเป็นยานลำที่สองที่เคยเดินทางไปโคจรรอบดาวพฤหัสบดีได้สำเร็จถัดจากยานกาลิเลโอ เมื่อไปถึงดาวพฤหัสบดี ยานได้ปรับทิศทางเพื่อเข้าโคจรรอบดาวพฤหัสบดีโดยโคจรตามแนวขั้ว วงโคจรเริ่มต้นของจูโนมีคาบ 53.4 วัน มีความรีมาก
ตามแผนที่วางไว้ระหว่างการเข้าใกล้ดาวพฤหัสบดีรอบที่สอง ซึ่งตรงกับวันที่ 19 ตุลาคม ยานต้องจุดจรวดหลักเพื่อปรับวงโคจรให้แคบลงเพื่อเข้าใกล้ดาวพฤหัสบดีมากขึ้นและมีคาบสั้นลงเหลือรอบละ 14 วัน แต่ในครั้งนั้นได้เกิดปัญหาบางอย่างทำให้การปรับวงโคจรล้มเหลว
ยานจูโนเริ่มแสดงอาการไม่ปกติก่อนหน้าวันที่จุดจรวดตามกำหนดไม่กี่สัปดาห์โดยยานได้รายงานว่าวาล์วตรวจสอบฮีเลียมใช้เวลาในการเปิดนานหลายนาทีแทนที่จะเป็นเพียงไม่กี่วินาที หัวหน้าผู้ควบคุมภารกิจจึงตัดสินใจที่จะเลื่อนการจุดจรวดไปก่อนเพราะต้องการสืบให้แน่ชัดเสียก่อนว่าปัญหาเกิดจากอะไร และเพื่อหาหนทางแก้ไข
แต่หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แล้ว วิศวกรของภารกิจพบว่าหากมีการจุดจรวดขึ้น จะกลับทำให้วงโคจรของยานกว้างขึ้น จึงตัดสินใจว่าจะไม่จุดจรวดอีก ปล่อยให้จูโนโคจรรอบดาวพฤหัสบดีในรูปแบบเดิมต่อไป นั่นหมายความว่าจูโนจะไม่มีโอกาสเข้าใกล้ดาวพฤหัสบดีมากไปกว่านี้ ซึ่งทำได้ใกล้ที่สุด 4,100 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่ถึงกับจะเรียกว่าภารกิจจูโนล้มเหลว จนถึงปัจจุบันยานได้โคจรรอบดาวพฤหัสบดีมาแล้วสี่รอบ แต่ละรอบเก็บข้อมูลด้านบรรยากาศ โครงสร้างภายใน และสนามแม่เหล็กได้มากมาย อีกทางหนึ่ง การที่ยานต้องโคจรด้วยคาบที่ยาวกว่าที่วางแผนไว้ ก็ทำให้ยานได้ข้อมูลจากการโคจรแต่ละรอบมากกว่าเดิมด้วย
หากไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นอีก ยานจูโนจะปฏิบัติภารกิจไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2561 รวมการโคจรรอบดาวพฤหัสบดีทั้งสิ้น 12 รอบ
ตามแผนที่วางไว้
ยานจูโนเริ่มแสดงอาการไม่ปกติก่อนหน้าวันที่จุดจรวดตามกำหนดไม่กี่สัปดาห์
แต่หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลต่าง
อย่างไรก็ตาม
หากไม่มีปัญหาใด