เมื่อเดือนตุลาคม 2560 ชาวโลกได้มีโอกาสรู้จักกับวัตถุจากนอกระบบสุริยะเป็นครั้งแรก มีชื่อว่า โอมูอามูอา วัตถุดวงนี้ได้แสดงสมบัติแสนประหลาดหลายอย่างที่พาให้นักดาราศาสตร์ต้องพากันพิศวง อีกเพียงไม่ถึงสองปีต่อมา วัตถุจากต่างระบบสุริยะดวงที่สองก็ปรากฏโฉมในชื่อของ ดาวหางบอริซอฟ
นักดาราศาสตร์ให้ความสนใจวัตถุต่างด้าวมากการศึกษาทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายเช่น วัตถุเหล่านี้มาจากไหน มีอยู่มากเพียงใด? การที่มีวัตถุตัวอย่างให้ศึกษาเพียงสองดวงทำให้การหาคำตอบเหล่านี้ไม่ง่ายเลย อย่างไรก็ตาม ความรู้ความเข้าใจในเรื่องการกำเนิดดาวฤกษ์และระบบสุริยะ อาจช่วยให้เราเข้าใจต้นกำเนิดของวัตถุประเภทนี้และเข้าใจได้ว่าออกจากพันธนาการจากดาวฤกษ์ของตนเองได้อย่างไร
นักวิจัยสี่คนประกอบด้วยซูซันเนอ ฟัล์ซเนอร์ , ลูอิส ไอซ์พูรู วาร์กุส , อัสมิทา บันดาเร และ ดิมิทรี เวอรัส ได้พยายามศึกษาหาคำตอบว่า วัตถุอย่างโอมูอามูอาหรือบอริซอฟนี้หลุดออกจากระบบสุริยะต้นกำเนิดได้อย่างไร
ตามรายงานการวิจัยซึ่งได้เผยแพร่ในarxiv.org อธิบายว่า เมื่อดาวฤกษ์อยู่ใกล้กัน ความโน้มถ่วงของดาวทั้งสองก็จะมีอันตรกิริยาต่อกัน ซึ่งจะรบกวนวัตถุบริวารของดาวฤกษ์ที่โคจรอยู่ให้เสียเสถียรภาพจนถึงขั้นหลุดออกจากวงโคจรได้ เงื่อนไขนี้เกิดขึ้นได้มากที่สุดในช่วงสิบล้านปีแรกนับจากที่ดาวเริ่มกำเนิดขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากดาวฤกษ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเป็นกลุ่ม ไม่ได้เกิดอย่างโดดเดี่ยว ดาวฤกษ์จึงมีโอกาสอยู่ใกล้กันได้มาก
มวลของดาวฤกษ์มีผลต่อระดับความรุนแรงของกระบวนการสลัดบริวารมากเช่นดาวฤกษ์มวลสูงที่เข้ามาใกล้กันในระยะ 250 หน่วยดาราศาสตร์อาจทำให้วัตถุดาวเคราะห์ของดาวฤกษ์ทั้งสองหลุดออกไปได้มากถึงกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
นักวิจัยคณะนี้ยังคาดการณ์ได้ถึงความเร็วและลักษณะของวัตถุที่จะถูกสลัดออกมาได้ด้วยดาวเคราะห์น้อยส่วนใหญ่มักโคจรอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ ส่วนวัตถุจำพวกดาวหางซึ่งอยู่ห่างออกมามากกว่าย่อมหลุดออกจากระบบได้ง่ายกว่า ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่าวัตถุพเนจรส่วนใหญ่น่าจะเป็นวัตถุจำพวกดาวหางอย่างดาวหางบอริซอฟมากกว่า
นอกจากการที่ดาวฤกษ์สองดวงมาเข้าใกล้กันจะทำให้เกิดการรบกวนจนบริวารหลุดจากวงโคจรแล้วเหตุการณ์อื่นบางอย่างก็อาจทำได้เช่นกัน เช่น ดาวเคราะห์ยักษ์แบบดาวพฤหัสบดีก็มีอานุภาพแรงพอที่จะเหวี่ยงดาวเคราะห์น้อยออกไปนอกระบบสุริยะได้เช่นกัน นอกจากนี้การรบกวนจากดาวเคราะห์ภายในระบบยังทำให้วัตถุที่ถูกเหวี่ยงออกไปมีความเร็วมากกว่าการถูกรบกวนโดยดาวฤกษ์ดวงอื่นอีกด้วย
เมื่อนำความสัมพันธ์นี้มาใช้พิจารณาวัตถุต่างด้าวสองดวงที่เรารู้จักโอมูอามูอาซึ่งค่อนข้างช้าน่าจะหลุดออกจากระบบโดยการรบกวนโดยดาวฤกษ์เข้าใกล้กัน ส่วนดาวหางบอริซอฟมีความเร็วสูงกว่ามาก จึงเชื่อว่าน่าจะหลุดออกจากระบบเพราะถูกดาวเคราะห์ยักษ์ในระบบเหวี่ยงออกมา
งานวิจัยฉบับนี้ยังได้ศึกษากลไกดังกล่าวภายในระบบสุริยะของเราอีกด้วยพบว่านับจากที่ระบบสุริยะได้กำเนิดขึ้นมา มีวัตถุถูกเหวี่ยงออกไปนอกระบบแล้วเป็นปริมาณรวมไม่น้อยกว่า 2-3 มวลโลก นั่นหมายความว่าไม่เพียงแต่เราจะได้มีโอกาสได้พบวัตถุต่างด้าวที่หลุดมาไกลจากระบบสุริยะอื่นแล้ว อารยธรรมในระบบสุริยะอื่นก็อาจมีโอกาสได้พบกับวัตถุจากระบบสุริยะของเราได้เช่นกัน
นักดาราศาสตร์ให้ความสนใจวัตถุต่างด้าวมาก
นักวิจัยสี่คนประกอบด้วย
ตามรายงานการวิจัยซึ่งได้เผยแพร่ใน
มวลของดาวฤกษ์มีผลต่อระดับความรุนแรงของกระบวนการสลัดบริวารมาก
นักวิจัยคณะนี้ยังคาดการณ์ได้ถึงความเร็วและลักษณะของวัตถุที่จะถูกสลัดออกมาได้ด้วย
นอกจากการที่ดาวฤกษ์สองดวงมาเข้าใกล้กันจะทำให้เกิดการรบกวนจนบริวารหลุดจากวงโคจรแล้ว
เมื่อนำความสัมพันธ์นี้มาใช้พิจารณาวัตถุต่างด้าวสองดวงที่เรารู้จัก
งานวิจัยฉบับนี้ยังได้ศึกษากลไกดังกล่าวภายในระบบสุริยะของเราอีกด้วย