ดาวบาร์นาร์ด เป็นฤกษ์เพื่อนบ้านของดวงอาทิตย์ อยู่ห่างจากโลกออกไปเพียง 6 ปีแสงในทิศทางของกลุ่มดาวคนแบกงู แม้จะไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด แต่ก็ใกล้ที่สุดในบรรดาดาวฤกษ์ที่เป็นดาวเดี่ยว 

ดาวบาร์นาร์ดเป็นดาวฤกษ์ขนาดเล็กมาก มีมวลประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ของดวงอาทิตย์ และมีกำลังส่องสว่างเพียง 0.0035 เท่าของดวงอาทิตย์ ดังนั้นถึงแม้จะอยู่ใกล้มาก แต่ก็ยังมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จัดเป็นดาวประเภทดาวแคระแดง ได้ชื่อตาม เอ็ดเวิร์ด อีเมอร์สัน บาร์นาร์ด นักวิทยาศาสตร์คนแรกที่วัดระยะทางของดาวฤกษ์ดวงนี้ได้สำเร็จในปี พ.ศ.2459 เป็นดาวฤกษ์ที่มีการเคลื่อนที่เฉพาะสูงที่สุดในบรรดาดาวฤกษ์ทั้งหมด ทำให้ตำแหน่งบนท้องฟ้าของดาวดวงนี้เปลี่ยนไปเร็วมากถึงปีละ 10.3 พิลิปดา สาเหตุที่ดาวบาร์นาร์ดมีการเคลื่อนที่เฉพาะสูงมากมากจากสองปัจจัยคือ อยู่ใกล้โลกมาก และมีความเร็วสัมพัทธ์กับดวงอาทิตย์สูงมาก 

ดาวบาร์นาร์ดเป็นดาวที่มีการศึกษาด้านดาวเคราะห์ต่างระบบมากที่สุดดวงหนึ่ง ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2567 นักดาราศาสตร์เคยพบดาวเคราะห์ของดาวบาร์นาร์ดมาแล้วหนึ่งดวง และมีอีกสามดวงที่ต้องสงสัยว่าจะอาจเป็นดาวเคราะห์แต่ยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน


นักดาราศาสตร์คณะหนึ่งนำโดย จาคอบ บีน จากมหาวิทยาลัยชิคาโกได้สำรวจดาวบาร์นาร์ดด้วยอุปกรณ์มารูน-เอกซ์ (MAROON-X) ที่ติดตั้งอยู่บนกล้องเจมิไนเหนือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตรวจหาดาวเคราะห์ของดาวแคระแดงโดยการวัดสเปกตรัมของดาวฤกษ์และคอยสังเกตหาการเลื่อนของสเปกตรัมไปมาที่เกิดจากการดึงของดาวเคราะห์บริวาร วิธีนี้ทำให้นักดาราศาสตร์ตรวจวัดได้ทั้งมวล คาบการโคจร และจำนวนของบริวารได้แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม 


กล้องเจมิไนเหนือ เป็นหนึ่งในสองกล้องของหอดูดาวเจมิไนซึ่งตั้งอยู่ใกล้ยอดเขามานาเคอาในฮาวายที่ระดับความสูงประมาณ 4,200 เมตร บริหารงานโดยห้องทดลองวิจัยดาราศาสตร์อินฟราเรดและเชิงแสงแห่งชาติสหรัฐ แต่ละกล้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางของกระจกปฐมภูมิ 8.1 เมตร


จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่สำรวจเป็นเวลา 112 คืนในช่วงเวลาสามปี นักวิจัยจึงยืนยันได้ว่ามีดาวเคราะห์อย่างน้อยสามดวงโคจรรอบดาวบาร์นาร์ด หลังจากนั้นมีการกลั่นกรองข้อมูลอีกครั้งโดยผนวกข้อมูลจากมารูน-เอกซ์กับข้อมูลของอุปกรณ์เอสเปรสโซของกล้องวีแอลที ทำให้พบหลักฐานเพิ่มเติมนั่นคือดาวเคราะห์ดวงที่สี่ เป็นการยืนยันว่าวัตถุต้องสงสัยสามดวงที่พบในปีที่แล้วนั้นเป็นดาวเคราะห์จริง 

ดาวเคราะห์ทั้งสี่มีวงโคจรแคบมาก ทุกดวงโคจรรอบดาวแม่ครบรอบภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ละดวงก็มีมวลเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์ของโลก โดยเฉพาะดาวเคราะห์ดวงที่สี่เป็นดาวเคราะห์ต่างระบบที่มวลต่ำที่สุดเท่าที่เคยสำรวจด้วยการวัดความเร็วตามแนวเล็ง 

คาดว่าดาวเคราะห์ของดาวบาร์นาร์ดน่าจะเป็นดาวเคราะห์หินมากกว่าดาวเคราะห์แก๊ส การพิสูจน์ว่าเป็นดาวเคราะห์ชนิดใดทำได้ยาก เนื่องจากการสำรวจด้วยวิธีวัดความเร็วตามแนวเล็งให้ข้อมูลได้เพียงมวลและวงโคจรเท่านั้น แต่ไม่ให้ข้อมูลด้านขนาดและองค์ประกอบของบรรยากาศ และการสำรวจด้วยการสังเกตการผ่านหน้าก็ทำไม่ได้เนื่องจากระนาบวงโคจรของดาวเคราะห์ของดาวบาร์นาร์ดไม่พาดผ่านโลก แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่ยืนยันได้ขณะนี้คือ ดาวเคราะห์ทั้งสี่นี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตแน่นอนเพราะอยู่นอกเขตเอื้ออาศัย