ฝนดาวตกในปี 2547
โดยทั่วไปในสภาพท้องฟ้าที่ดีไม่มีเมฆหมอกหรือแสงไฟฝุ่นควันรบกวน เราสามารถมองเห็นดาวตกบนท้องฟ้าได้เฉลี่ยราว 6 ดวงต่อชั่วโมง ในบางช่วงของปีจะมีดาวตกที่ดูเหมือนพุ่งออกมาจากบริเวณเดียวกันบนท้องฟ้า รู้จักกันในชื่อฝนดาวตก (meteor shower) ฝนดาวตกเกิดขึ้นเมื่อโลกเดินทางฝ่าเข้าไปในอาณาบริเวณของธารสะเก็ดดาวที่ดาวหางทิ้งไว้ ดาวตกที่เกิดจากสะเก็ดดาวเหล่านี้มีหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีลักษณะของดาวตกที่เห็น และจำนวนความถี่แตกต่างกันตามแต่องค์ประกอบและความเร็วของอุกกาบาต
ฝนดาวตกกลุ่มหนึ่งอาจมีอัตราต่ำเพียงไม่กี่ดวงต่อชั่วโมงแต่ยังก็เรียกว่าฝนดาวตกเนื่องจากมีแหล่งกำเนิดที่สังเกตได้ชัดเจนว่าพุ่งออกมาจากบริเวณใดบนท้องฟ้า บริเวณนั้นเรียกว่าจุดกระจายดาวตก (radiant) ฝนดาวตกกลุ่มหลัก ๆ ในรอบปีมีอยู่ไม่มากนัก ที่น่าสนใจคือปีนี้มีฝนดาวตกเพียง 2 กลุ่ม ที่ถูกแสงจันทร์รบกวน ได้แก่ ฝนดาวตกควอดแดรนต์และฝนดาวตกอีตาคนแบกหม้อน้ำ ส่วนฝนดาวตกกลุ่มอื่นๆ ไม่มีแสงจันทร์รบกวน แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญน่าจะเป็นปริมาณเมฆที่มักจะมีมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน ผลคำนวณจากแบบจำลองของเอสโค ลือทิเนน นักดาราศาสตร์ชาวฟินแลนด์ที่ประสบความสำเร็จในการพยากรณ์ฝนดาวตกสิงโตในปี 2542-2545 แสดงว่า ปี 2547 ฝนดาวตกเพอร์ซิอัสอาจมีปริมาณมากกว่าปกติเนื่องจากโลกจะผ่านธารสะเก็ดดาวที่ดาวหางต้นกำเนิดทิ้งไว้ในปี ค.ศ. 1862 เขาคาดว่าฝนดาวตกเพอร์ซิอัสอาจมีอัตรามากกว่า 100 ดวงต่อชั่วโมงในเช้ามืดของวันที่ 12 สิงหาคม ตามเวลาในไทย อย่างไรก็ดีเราต้องคำนึงเสมอว่านี่เป็นเพียงการพยากรณ์จากแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ไม่สามารถพยากรณ์การเกิดฝนดาวตกให้แม่นยำได้ล่วงหน้าได้ โดยเฉพาะในแง่ของปริมาณ
หมายเหตุฝนดาวตกที่มีแสงจันทร์รบกวนจะมีจำนวนดาวตกที่เห็นลดลงจากค่าในตารางนี้ - ข้อมูลจากองค์การอุกกาบาตสากล (International Meteor Organization -- IMO)
ฝนดาวตกกลุ่มหนึ่งอาจมีอัตราต่ำเพียงไม่กี่ดวงต่อชั่วโมง
ชื่อ | คืนที่มีมากที่สุด | อัตราสูงสุดที่อาจเป็นไปได้ | อัตราสูงสุดในประเทศไทย |
---|---|---|---|
ควอดแดรนต์ | 4/5 | 120 | 60 |
พิณ | 22/23 | 18 | 10+ |
อีตาคนแบกหม้อน้ำ | 5/6 | 60 | 30-40 |
เดลตาคนแบกหม้อน้ำ | 27/28 | 20 | 15 |
เพอร์ซิอัส | 11-13 | มากกว่า | มากกว่า |
นายพราน | 21/22 | 23 | 10-15 |
สิงโต | 17/18 | 10-50? | 10-30? |
คนคู่ | 13/14 | 120 | 100 |
หมายเหตุ