สุริยุปราคา 9 มีนาคม 2559
เช้าวันพุธที่ 9 มีนาคม 2559 จะเกิดสุริยุปราคาที่เห็นได้ในประเทศไทย เป็นสุริยุปราคาครั้งแรกในรอบ 4 ปี สำหรับประเทศไทย นับจากสุริยุปราคาบางส่วนเมื่อเช้าวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เริ่มเกิดตั้งแต่เช้าตรู่ และดำเนินไปจนถึงช่วงสายของวัน โดยดวงอาทิตย์แหว่งลึกที่สุดในเวลาประมาณ 7 โมงครึ่ง สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก เรียงอยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้เงาดวงจันทร์พาดผ่านผิวโลก ผู้ที่อยู่ใต้เงามองเห็นดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์
เงาดวงจันทร์แบ่งเป็น2 ส่วน คือ เงามืดและเงามัว ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นวงรี หากดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกจนเงามืดทอดยาวมาถึงผิวโลก ผู้ที่อยู่ใต้เงามืดจะเห็นดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์มิดหมดทั้งดวง เรียกว่าสุริยุปราคาเต็มดวง ทำให้ท้องฟ้ามืดสลัวลงคล้ายเวลาพลบค่ำ และมองเห็นบรรยากาศชั้นคอโรนาของดวงอาทิตย์ เงามัวตกบนผิวโลกครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่กว่าเงามืดมาก เป็นบริเวณที่เห็นดวงอาทิตย์ถูกดวงจันทร์บังเพียงบางส่วน ที่เรียกว่าสุริยุปราคาบางส่วน ไม่สามารถมองดูด้วยตาเปล่าได้ เนื่องจากแสงอาทิตย์สว่างเจิดจ้าจนเป็นอันตรายต่อดวงตา
สุริยุปราคาในวันที่9 มีนาคม 2559 เป็นสุริยุปราคาเต็มดวง แต่พื้นที่ซึ่งสามารถมองเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงอยู่ภายในแถบแคบ ๆ ลากผ่านด้านตะวันออกของมหาสมุทรอินเดีย อินโดนีเซีย และมหาสมุทรแปซิฟิก ประเทศไทยอยู่นอกแนวดังกล่าว แต่อยู่ภายในเขตที่เงามัวพาดผ่าน จึงเห็นสุริยุปราคาครั้งนี้เป็นสุริยุปราคาบางส่วน
ตารางต่อไปนี้แสดงผลการคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเมื่อสังเกตที่กรุงเทพฯและอำเภอเมืองของบางจังหวัด
หมายเหตุ:
- มุมเงย คือ มุมที่วัดจากขอบฟ้า ขึ้นไปหาตำแหน่งดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า (มีค่าน้อยกว่า 0° เมื่ออยู่ใต้ขอบฟ้า ในกรณีนี้คือดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น)
- มุมทิศ คือ มุมที่วัดจากทิศเหนือ กวาดไปทางขวามือจนถึงตำแหน่งดวงอาทิตย์
- ขนาด คือ ขนาดความลึกของสุริยุปราคา แสดงสัดส่วนที่ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์โดยวัดตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ ยิ่งมีค่ามากแสดงว่าดวงอาทิตย์ยิ่งแหว่งเว้ามาก (0.5 หมายถึงดวงอาทิตย์ถูกบังครึ่งดวง เป็นต้น)
- พื้นที่ คือ พื้นที่วงกลมของดวงอาทิตย์ในส่วนที่ถูกดวงจันทร์บัง
- อำเภอเมืองของจังหวัดอื่น ๆ และรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จากตารางเวลาสำหรับทุกจังหวัดทั่วประเทศ
โดยทั่วไปการดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า ไม่ว่าในยามปรกติหรือขณะเกิดสุริยุปราคาบางส่วน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เนื่องจากแสงอาทิตย์ที่สว่างเจิดจ้าสามารถทำอันตรายต่อดวงตาของเราได้ แต่บางครั้งเราอาจสังเกตดวงอาทิตย์ได้เป็นเวลาสั้น ๆ ขณะที่ดวงอาทิตย์เพิ่งขึ้นเหนือขอบฟ้าหรือใกล้ตกลับขอบฟ้า ซึ่งเป็นช่วงที่แสงอาทิตย์ต้องเดินทางผ่านบรรยากาศเป็นระยะทางไกลกว่าเมื่ออยู่สูงบนท้องฟ้า
สุริยุปราคาบางส่วนในเช้าวันที่9 มีนาคม 2559 พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทยเริ่มเกิดสุริยุปราคาขณะดวงอาทิตย์อยู่สูงจากขอบฟ้าจนมีความสว่างมากแล้ว จึงห้ามดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า และอย่าดูผ่านกล้องที่ไม่มีแผ่นกรองแสงปิดหน้ากล้อง วิธีการสังเกตที่ปลอดภัยคือใช้แผ่นกรองแสง ได้แก่ แว่นสุริยะ หน้ากากหรือแว่นตาที่ช่างเชื่อมโลหะใช้ (ต้องทึบมากพอ ดูแล้วสบายตา - ที่แนะนำคือเบอร์ 14 ขึ้นไป) ฟิล์มเอกซ์เรย์ (ใช้ได้เฉพาะส่วนมืดที่ไม่มีภาพเท่านั้น) และอย่าดูติดต่อกันเป็นเวลานาน
วัสดุกรองแสงที่ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยงได้แก่ กระจกรมควัน (เป็นวิธีหนึ่งที่แนะนำกันในอดีต แต่ในทางปฏิบัติ การรมควันอาจไม่สม่ำเสมอ อาจเกิดรอยขีดข่วน หรือเสี่ยงต่อการแตก) แว่นกันแดด กระดาษห่อลูกอม แผ่นดิสเก็ตต์ แผ่นซีดี ฟิล์มเอกซ์เรย์ส่วนที่มีภาพ ฟิล์มถ่ายรูป ฯลฯ แนะนำว่าอย่านำมาใช้ดูดวงอาทิตย์ แม้ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีความสามารถในการกรองแสงย่านแสงขาว แต่รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านได้ ไม่ปลอดภัยต่อดวงตา รวมทั้งให้ภาพที่ไม่คมชัด
นอกจากการสังเกตทางตรงยังมีวิธีสังเกตทางอ้อม คือการให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านกล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาไปตกที่ฉากรับภาพ หากไม่มีกล้องโทรทรรศน์ สามารถสังเกตได้ด้วยหลักการของกล้องรูเข็ม โดยนำกระดาษมาเจาะเป็นรูขนาด 1 เซนติเมตร แล้วเอาไปประกบกับกระจกเงาด้วยเทปกาว จากนั้นนำกระจกที่ปิดให้เหลือช่องขนาดเล็กนี้ไปรับแสงอาทิตย์ ให้แสงสะท้อนไปที่ผนัง ดวงกลมที่ปรากฏบนผนังคือภาพดวงอาทิตย์ มีลักษณะแหว่งเว้าตามสุริยุปราคาที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า
ขนาดของภาพดวงอาทิตย์บนฉากแปรผันตามระยะห่างระหว่างกระจกกับฉากรับภาพโดยที่ระยะ 1 เมตรจะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาดประมาณ 9 มิลลิเมตร ดังนั้นที่ระยะห่าง 10 เมตร จะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาด 9 เซนติเมตร วิธีนี้ทำให้เราสามารถสังเกตสุริยุปราคาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่พึงระวังอย่าให้ใครที่เดินผ่านไปมามีโอกาสหันมามองแสงอาทิตย์ที่สะท้อนออกมาจากกระจก
สุริยุปราคาวันนี้เริ่มเกิดขณะดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหลังดวงอาทิตย์ขึ้นไม่นานจึงต้องแน่ใจว่าสังเกตจากสถานที่ที่ขอบฟ้าด้านทิศตะวันออก เยื้องไปทางขวาเล็กน้อย เปิดโล่ง ไม่มีสิ่งใดบดบัง หรือสังเกตจากอาคารสูงที่ไม่มีอาคารใกล้เคียงตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของจุดสังเกต
หลังจากครั้งนี้สุริยุปราคาที่เห็นได้ในประเทศไทยครั้งถัดไปเป็นสุริยุปราคาในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 โดยเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วนอีกเช่นเดียวกัน ครั้งนั้นดวงจันทร์อยู่ห่างโลก ทำให้เกิดเป็นสุริยุปราคาวงแหวน เห็นได้ภายในแถบแคบ ๆ ลากผ่านซาอุดีอาระเบีย อินเดีย ศรีลังกา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเฉียดตอนใต้สุดของฟิลิปปินส์
เงาดวงจันทร์แบ่งเป็น
สุริยุปราคาในวันที่
ตารางต่อไปนี้แสดงผลการคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเมื่อสังเกตที่กรุงเทพฯ
สถานที่ | เริ่ม | บังเต็มที่ | สิ้นสุด | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เวลา | มุมเงย | เวลา | มุมเงย | มุมทิศ | ขนาด | พื้นที่ | เวลา | มุมเงย | |
กรุงเทพฯ | 06:39 | 2° | 07:33 | 14° | 98° | 0.520 | 41.7% | 08:32 | 29° |
ขอนแก่น | 06:45 | 5° | 07:37 | 17° | 100° | 0.449 | 33.9% | 08:36 | 31° |
จันทบุรี | 06:37 | 3° | 07:32 | 16° | 98° | 0.554 | 45.5% | 08:35 | 31° |
เชียงใหม่ | 06:49 | 2° | 07:37 | 13° | 99° | 0.384 | 27.1% | 08:30 | 26° |
นครราชสีมา | 06:42 | 4° | 07:35 | 16° | 99° | 0.488 | 38.1% | 08:35 | 31° |
นครพนม | 06:48 | 7° | 07:40 | 20° | 101° | 0.426 | 31.4% | 08:39 | 33° |
ประจวบคีรีขันธ์ | 06:35 | 1° | 07:30 | 13° | 97° | 0.575 | 47.9% | 08:31 | 28° |
ภูเก็ต | 06:29 | -2° | 07:26 | 11° | 96° | 0.689 | 61.6% | 08:29 | 27° |
สงขลา | 06:29 | 0° | 07:26 | 14° | 96° | 0.709 | 64.0% | 08:31 | 30° |
สุโขทัย | 06:45 | 2° | 07:36 | 14° | 99° | 0.431 | 32.0% | 08:32 | 27° |
อุบลราชธานี | 06:43 | 7° | 07:38 | 20° | 100° | 0.484 | 37.7% | 08:39 | 34° |
หมายเหตุ
การสังเกตสุริยุปราคา
โดยทั่วไป
สุริยุปราคาบางส่วนในเช้าวันที่
วัสดุกรองแสงที่ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยง
นอกจากการสังเกตทางตรง
ขนาดของภาพดวงอาทิตย์บนฉากแปรผันตามระยะห่างระหว่างกระจกกับฉากรับภาพ
สุริยุปราคาวันนี้เริ่มเกิดขณะดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหลังดวงอาทิตย์ขึ้นไม่นาน
หลังจากครั้งนี้