หากเราสามารถนำน้ำแก้วหนึ่งไปวางไว้บนพื้นผิวดาวอังคาร น้ำในแก้วนั้นจะระเหยหายไปในเกือบจะทันที เนื่องจากบรรยากาศของดาวอังคารเบาบางมาก (น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของความดันบรรยากาศโลก) จนน้ำในรูปของเหลวไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้เป็นเวลานาน นั่นคือปัญหาสำหรับนักดาราศาสตร์ เพราะมีหลักฐานอยู่มากมายบนพื้นผิวดาวอังคารที่แสดงว่าครั้งหนึ่งดาวเคราะห์แดงดวงนี้เป็นดาวที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ ไม่ว่าจะเป็นธารน้ำ ดินดอน และที่ราบน้ำท่วมถึง แสดงว่าในยุคอดีต ดาวอังคารจะต้องมีบรรยากาศหนาแน่นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาก แต่บรรยากาศเหล่านั้นหายไปไหน?
หลักฐานล่าสุดที่ได้จากภาพที่ถ่ายโดยยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์สนับสนุนทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายปริศนาข้อนี้ที่ว่าบรรยากาศส่วนใหญ่ของดาวอังคารถูกลมสุริยะพัดหายไป
ดาวอังคารไม่มีสนามแม่เหล็กครอบคลุมดาวเอาไว้ดังนั้นพื้นผิวดาวส่วนใหญ่จึงถูกกระหน่ำโดยลมสุริยะเต็มที่โดยไม่มีสิ่งป้องกัน บรรยากาศชั้นสูงของดาวอังคารจะถูกทำให้แตกตัวเป็นไอออน เมื่อแตกตัวเป็นไอออนแล้วจึงถูกลมสุริยะที่เป็นประจุเหมือนกันพัดปลิวออกไปด้านหลังได้
หลักฐานแรกสนับสนุนทฤษฎีนี้ถูกพบในปี2532 เมื่อยานโฟบอสของโซเวียตสามารถวัดการหดหายของบรรยากาศของดาวอังคารได้โดยตรงในขณะที่ยานเคลื่อนที่ผ่านด้านหลังของดาวอังคาร และพบว่าบรรยากาศของดาวอังคารปลิวเป็นสายออกไปทางด้านหลังตามทิศทางของลมสุริยะ สมมติว่าการหดหายของบรรยากาศตามที่โฟบอสวัดได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมองย้อนหลังไปในอดีตของดาวอังคาร 4 พันล้านปี จะพบว่าปริมาณบรรยากาศของดาวอังคารที่ถูกลมสุริยะพัดออกไปจะมากเกือบเท่ากับปริมาณบรรยากาศที่นักดาราศาสตร์คาดว่าเคยมีอยู่บนดาวอังคารเลยทีเดียว
แม้ว่าดาวอังคารไม่มีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มดาวอยู่แต่นักดาราศาสตร์เชื่อว่ามันเคยมีมาก่อนเมื่อครั้งอดีต และปัจจุบันก็ยังมีสนามแม่เหล็กหลงเหลืออยู่เป็นหย่อม ๆ ดังที่ปรากฏในภาพถ่ายพื้นผิวของดาวอังคารที่ถ่ายโดยยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์เมื่อปี 2541 ภาพดังกล่าวเปิดเผยชั้นสนามแม่เหล็กขนาดย่อมอยู่บริเวณซีกใต้ของดาวอังคาร สนามแม่เหล็กเฉพาะท้องถิ่นนี้ทำหน้าที่เหมือนร่มบังลมสุริยะให้กับพื้นผิวดาวอังคาร บรรยากาศอันเบาบางของดาวที่อยู่ใต้ "ร่ม" นี้จึงถูกปกป้องเอาไว้ไม่ให้ถูกลมสุริยะพัดหลุดออกไปจากดาวได้ สนามแม่เหล็กเฉพาะท้องถิ่นนี้มีความเข้มข้นที่พื้นผิวดาวใกล้เคียงกับสนามแม่เหล็กโลกเลยทีเดียว
เมื่อไม่นานมานี้เองนักดาราศาสตร์พบหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงการสูญเสียบรรยากาศของดาวอังคารโดยลมสุริยะ เป็นภาพแสดงไอโอโนสเฟียร์ของดาวอังคารที่ถ่ายโดยอุปกรณ์อิเล็กตรอนรีเฟล็กโทรมิเตอร์ของยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์ ภาพนี้พบว่าการกระจายตัวของไอโอโนสเฟียร์ของดาวอังคารตรงกับหย่อมสนามแม่เหล็กของดาวอังคารพอดี
อย่างไรก็ตามบริเวณใต้ร่มแม่เหล็กที่ถูกคุ้มครองจากลมสุริยะก็ไม่ได้มีความหนาแน่นมากนัก มันเพียงแต่เป็นบริเวณที่มีการสูญเสียบรรยากาศชั้นสูงน้อยกว่าบริเวณอื่น ๆ เท่านั้น
หลักฐานล่าสุดที่ได้จากภาพที่ถ่ายโดยยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์สนับสนุนทฤษฎีหนึ่งที่อธิบายปริศนาข้อนี้ที่ว่า
ดาวอังคารไม่มีสนามแม่เหล็กครอบคลุมดาวเอาไว้
หลักฐานแรกสนับสนุนทฤษฎีนี้ถูกพบในปี
แม้ว่าดาวอังคารไม่มีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มดาวอยู่
เมื่อไม่นานมานี้เอง
อย่างไรก็ตาม