นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลตรวจพบพายุหมุนขนาดยักษ์เกิดขึ้นเป็นเวลาสั้น ๆ ที่บริเวณใกล้กับขั้วเหนือของดาวอังคาร
ทีมนักดาราศาสตร์นำโดยจิม เบลล์ ศาสตราจารย์ทางดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลสำรวจดาวอังคารเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2542 และพบพายุหมุนขนาดใหญ่ใกล้กับบริเวณขั้วเหนือของดาวอังคาร พายุหมุนนี้มีความกว้างจากตะวันตกถึงตะวันออก 1,775 กิโลเมตร และความกว้างทางแนวเหนือ-ใต้ 1,450 กิโลเมตร มีขนาดใหญ่กว่าพายุหมุนลูกอื่น ๆ ที่เคยพบบนดาวอังคารถึงเกือบ 3 เท่า
แม้พายุลูกนี้จะมีขนาดใหญ่แต่กลับมีอายุสั้นมาก จากภาพที่ถ่ายโดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลในวันต่อมาก็ไม่พบพายุนี้อีก รวมทั้งภาพที่ถ่ายจากยานมาร์สโกลบัลเซอร์เวเยอร์ที่ถ่ายในพื้นที่เดียวกันใน 3 วันต่อมาก็ไม่พบร่องรอยของพายุแต่อย่างใด
พายุลูกนี้แตกต่างจากพายุฝุ่นที่เกิดขึ้นทั่วไปบนดาวเคราะห์แดงดวงนี้มันประกอบด้วยเมฆที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งเช่นเดียวกับบนโลก มีแถบเมฆขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 แถบตีเกลียวทวนเข็มนาฬิกาและมีโพรงกลางกว้างเกือบ 325 กิโลเมตร คล้ายคลึงกับพายุไซโคลนบริเวณขั้วโลก
พายุลูกนี้เกิดขึ้นกลางฤดูร้อนของซีกดาวด้านเหนือของดาวอังคารหลังจากที่คาร์บอนไดออกไซด์แข็งที่ปกคลุมบริเวณขั้วเหนือได้ระเหิดไปแล้ว เหลือเพียงส่วนที่เป็นน้ำแข็งซึ่งคงอยู่ตลอดทั้งปีเท่านั้น
พายุหมุนชนิดนี้เคยถูกถ่ายมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อราว20 ปีที่ผ่านมาโดยยานไวกิง แต่การศึกษาพายุหมุนและบรรยากาศชั้นสูงของดาวอังคารในขณะนั้นมีข้อจำกัดเนื่องจากยานไวกิงไม่มีโอกาสได้โคจรผ่านบริเวณขั้วดาวบ่อยครั้งนัก
ภาพบริเวณขั้วเหนือของดาวอังคารเปรียบเทียบขนาดของพายุกับขนาดของขั้วน้ำแข็งของดาวอังคาร ภาพจาก STScI และ NASA
ทีมนักดาราศาสตร์นำโดย
แม้พายุลูกนี้จะมีขนาดใหญ่
พายุลูกนี้แตกต่างจากพายุฝุ่นที่เกิดขึ้นทั่วไปบนดาวเคราะห์แดงดวงนี้
พายุลูกนี้เกิดขึ้นกลางฤดูร้อนของซีกดาวด้านเหนือของดาวอังคาร
พายุหมุนชนิดนี้เคยถูกถ่ายมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อราว
ภาพบริเวณขั้วเหนือของดาวอังคาร