สุริยุปราคา 19 มีนาคม 2550
สองสัปดาห์หลังเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงเมื่อคืนวันมาฆบูชา เช้าวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2550 จะเกิดสุริยุปราคาบางส่วน มองเห็นได้ในประเทศไทย เอเชียใต้ บางส่วนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก รวมทั้งบางส่วนของมลรัฐอะแลสกาในทวีปอเมริกาเหนือ
สุริยุปราคามีโอกาสเกิดขึ้นได้ในวันเดือนดับเมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์พร้อมกับทอดเงาตกลงบนพื้นผิวโลกเงาดวงจันทร์มีสองส่วนคือเงามืดกับเงามัว คนบนพื้นโลกส่วนที่อยู่ใต้เงามัวจะมองเห็นดวงอาทิตย์แหว่ง แต่หากอยู่ใต้เงามืดจะเห็นดวงอาทิตย์ถูกดวงจันทร์บังมิดดวงเรียกว่าสุริยุปราคาเต็มดวง สำหรับประเทศไทยเคยเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2538
สุริยุปราคาที่จะเกิดในวันที่19 มีนาคม เป็นสุริยุปราคาบางส่วน หมายความว่าเงามืดของดวงจันทร์ไม่ได้ตกกระทบพื้นผิวโลก คงมีแต่เงามัวเท่านั้นที่พาดผ่านผิวโลก หากมองในภาพกว้างสุริยุปราคาครั้งนี้เริ่มต้นเวลา 7.38 น. ตามเวลาประเทศไทย เมื่อเงามัวของดวงจันทร์เริ่มแตะผิวโลกบริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของอินเดีย จากนั้นเกิดสุริยุปราคามองเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุด (88%) ที่รัสเซียในเวลา 9.32 น. แล้วไปสิ้นสุดสุริยุปราคาในเวลา 11.25 น. อันเป็นจังหวะที่เงามัวหลุดออกจากผิวโลกในทะเลนอกชายฝั่งด้านทิศเหนือของอะแลสกา
สำหรับประเทศไทยสุริยุปราคาบางส่วนครั้งนี้มองเห็นได้เกือบทั่วประเทศยกเว้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ บริเวณที่เห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุดคือด้านตะวันตกเฉียงเหนือของภาคเหนือ ยิ่งอยู่ในละติจูดสูงมากเท่าใดก็ยิ่งเห็นดวงอาทิตย์แหว่งมากเท่านั้น ส่วนเวลาที่เกิดปรากฏการณ์ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ เห็นตั้งแต่เวลา 7.47 - 8.57 น. ดวงอาทิตย์แหว่งมากที่สุดในเวลา 8.21 น. ด้วยสัดส่วน 16% จังหวัดอื่น ๆ บางจังหวัดสามารถดูได้จากตาราง ส่วนจังหวัดที่ไม่แสดงในตารางอาจคาดคะเนได้จากข้อมูลของจังหวัดใกล้เคียงที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน
หมายเหตุ: ตารางด้านบนสำหรับอำเภอเมืองของจังหวัด อำเภออื่นจะต่างจากนี้เล็กน้อย / บริเวณที่ไม่เห็นปรากฏการณ์ได้แก่ พื้นที่ทางใต้ของจังหวัดสงขลา พัทลุง และสตูล รวมไปถึงทั้งหมดของ จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่ห้ามดูด้วยตาเปล่าต้องมีแว่นกรองแสงหรือแผ่นกรองแสงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับส่องดูดวงอาทิตย์และอาจใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีแผ่นกรองแสงปิดบังหน้ากล้อง นอกจากนี้เรายังสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายจากแสงอาทิตย์โดยสังเกตปรากฏการณ์ด้วยวิธีทางอ้อม เช่น ฉายภาพดวงอาทิตย์ผ่านกล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาลงบนฉากรับภาพ แล้วดูดวงอาทิตย์ที่ปรากฏบนฉาก ควรเฝ้าระวังอย่าให้เด็กหรือผู้ที่ไม่รู้มองเข้าไปในกล้อง
วัสดุกรองแสงที่ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยงได้แก่ กระจกรมควัน แว่นกันแดด กระดาษห่อลูกอม แผ่นดิสเก็ตต์ ฟิล์มเอกซ์เรย์ ฟิล์มถ่ายรูป ฯลฯ อย่านำมาใช้ดูดวงอาทิตย์ แม้ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีความสามารถในการกรองแสงย่านแสงขาว แต่รังสีอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านได้และจะเป็นอันตรายต่อดวงตา
สำหรับผู้ที่ไม่มีแผ่นกรองแสงหรือทัศนูปกรณ์อื่นอาจใช้วัสดุง่าย ๆ ในบ้านมาช่วยในการสังเกตสุริยุปราคาโดยใช้หลักการของกล้องรูเข็ม สิ่งที่ต้องมีคือกระจกเงาบานเล็ก กระดาษขนาดใหญ่กว่ากระจก มีดคัตเตอร์หรือกรรไกร และเทปกาว
วิธีทำคือนำกระดาษมาเจาะรูเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1 เซนติเมตร (อาจใช้มีดกรีดโดยตรงหรือพับกระดาษแล้วใช้กรรไกรตัด) จากนั้นนำไปประกบกับบานกระจกด้วยเทปกาว เวลาใช้งานให้นำกระจกเงาดังกล่าวไปสะท้อนแสงอาทิตย์ให้แสงตกบนผนังสีอ่อนหรือฉากรับภาพสีขาวที่อยู่ภายในบ้าน ภาพที่เห็นบนฉากจะเป็นดวงกลมซึ่งเป็นภาพสะท้อนของดวงอาทิตย์
เมื่อเกิดสุริยุปราคาดวงกลมที่เห็นบนฉากจะแหว่งตามลักษณะดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ขนาดของดวงอาทิตย์บนฉากแปรผันตามระยะห่างระหว่างกระจกกับฉากรับภาพ โดยที่ระยะหนึ่งเมตรจะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาดประมาณ 9 มิลลิเมตร ดังนั้นที่ระยะห่าง 10 เมตร จะได้ภาพดวงอาทิตย์ขนาด 9 เซนติเมตร วิธีนี้ทำให้เราสามารถสังเกตสุริยุปราคาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่พึงระวังอย่าให้ใครที่เดินผ่านไปมามีโอกาสหันมามองแสงอาทิตย์ที่สะท้อนออกมาจากกระจก
หลังจากปีนี้ประเทศไทยจะมีโอกาสสังเกตสุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้งในเย็นวันศุกร์ที่1 สิงหาคม 2551 ซึ่งจะเกิดในเวลาไม่นานก่อนดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า
โลก และดวงจันทร์ อย่างไรก็ตามการดูดวงอาทิตย์ด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะรังสีจากดวงอาทิตย์สามารถทำลายเนื้อเยื่อและเซลล์ของจอตาทำให้ตาบอด เร่งการเสื่อมสภาพของกระจกตา และเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคต้อกระจก
หากจ้องดูดวงอาทิตย์โดยปราศจากสิ่งป้องกันแสงอาทิตย์จะไปรวมกันที่จอตา ทำลายเซลล์จนทำให้เกิดอาการตาบอดชั่วคราวหรือถาวรได้ ที่สำคัญกว่านั้น คือ ขณะที่จอตาถูกแสงอาทิตย์เผาเราไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะในนั้นไม่มีเซลล์ประสาทสำหรับรับความรู้สึก ดังนั้นทุกคนจึงควรตระหนักว่าการสังเกตสุริยุปราคาที่ถูกต้อง คือ อย่าดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือดูจากภาพสะท้อนบนฉากที่ฉายออกมาจากอุปกรณ์
สุริยุปราคามีโอกาสเกิดขึ้นได้ในวันเดือนดับเมื่อดวงจันทร์โคจรมาอยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์พร้อมกับทอดเงาตกลงบนพื้นผิวโลก
สุริยุปราคาที่จะเกิดในวันที่
สำหรับประเทศไทย
สถานที่ | เริ่มเกิด | บังลึกที่สุด | สิ้นสุด | ||
---|---|---|---|---|---|
เวลา | สัดส่วนที่บัง | มุมเงย | |||
กรุงเทพฯ | 7.48 | 8.21 | 16% | 28° | 8.57 |
กระบี่ | 7.55 | 8.12 | 4% | 25° | 8.30 |
กาญจนบุรี | 7.46 | 8.21 | 17% | 27° | 8.58 |
กาฬสินธุ์ | 7.50 | 8.28 | 19% | 32° | 9.07 |
กำแพงเพชร | 7.46 | 8.25 | 23% | 27° | 9.07 |
ขอนแก่น | 7.49 | 8.27 | 19% | 31° | 9.07 |
จันทบุรี | 7.51 | 8.21 | 12% | 29° | 8.52 |
ฉะเชิงเทรา | 7.48 | 8.22 | 15% | 28° | 8.57 |
ชลบุรี | 7.48 | 8.21 | 15% | 28° | 8.55 |
ชัยนาท | 7.46 | 8.24 | 19% | 28° | 9.03 |
ชัยภูมิ | 7.48 | 8.26 | 19% | 30° | 9.05 |
ชุมพร | 7.50 | 8.16 | 10% | 26° | 8.43 |
เชียงราย | 7.46 | 8.31 | 29% | 28° | 9.16 |
เชียงใหม่ | 7.45 | 8.29 | 28% | 27° | 9.15 |
ตรัง | 7.59 | 8.12 | 2% | 25° | 8.25 |
ตราด | 7.52 | 8.20 | 11% | 30° | 8.50 |
ตาก | 7.45 | 8.26 | 24% | 27° | 9.08 |
นครนายก | 7.48 | 8.23 | 16% | 29° | 8.59 |
นครปฐม | 7.47 | 8.21 | 16% | 27° | 8.57 |
นครพนม | 7.52 | 8.30 | 19% | 33° | 9.10 |
นครราชสีมา | 7.49 | 8.24 | 17% | 30° | 9.01 |
นครศรีธรรมราช | 7.56 | 8.13 | 4% | 26° | 8.31 |
นครสวรรค์ | 7.46 | 8.24 | 20% | 28° | 9.04 |
นนทบุรี | 7.48 | 8.22 | 16% | 28° | 8.57 |
น่าน | 7.47 | 8.30 | 26% | 29° | 9.15 |
บุรีรัมย์ | 7.50 | 8.25 | 16% | 31° | 9.01 |
ปทุมธานี | 7.47 | 8.22 | 16% | 28° | 8.58 |
ประจวบคีรีขันธ์ | 7.48 | 8.18 | 12% | 27° | 8.49 |
ปราจีนบุรี | 7.48 | 8.22 | 16% | 29° | 8.58 |
พระนครศรีอยุธยา | 7.47 | 8.22 | 17% | 28° | 8.59 |
พะเยา | 7.46 | 8.30 | 28% | 28° | 9.16 |
พังงา | 7.53 | 8.13 | 5% | 24° | 8.33 |
พัทลุง | 8.00 | 8.12 | 2% | 26° | 8.24 |
พิจิตร | 7.46 | 8.26 | 22% | 28° | 9.07 |
พิษณุโลก | 7.46 | 8.26 | 23% | 28° | 9.08 |
เพชรบุรี | 7.47 | 8.20 | 15% | 27° | 8.55 |
เพชรบูรณ์ | 7.47 | 8.26 | 21% | 29° | 9.07 |
แพร่ | 7.46 | 8.28 | 25% | 28° | 9.13 |
ภูเก็ต | 7.55 | 8.12 | 4% | 24° | 8.29 |
มหาสารคาม | 7.50 | 8.27 | 18% | 31° | 9.06 |
มุกดาหาร | 7.52 | 8.29 | 18% | 33° | 9.07 |
แม่ฮ่องสอน | 7.45 | 8.29 | 30% | 26° | 9.16 |
ยโสธร | 7.51 | 8.27 | 17% | 32° | 9.04 |
ร้อยเอ็ด | 7.50 | 8.27 | 18% | 32° | 9.05 |
ระนอง | 7.50 | 8.15 | 9% | 25° | 8.41 |
ระยอง | 7.49 | 8.20 | 13% | 28° | 8.52 |
ราชบุรี | 7.47 | 8.21 | 16% | 27° | 8.56 |
ลพบุรี | 7.47 | 8.23 | 18% | 28° | 9.01 |
ลำปาง | 7.46 | 8.28 | 26% | 28° | 9.13 |
ลำพูน | 7.45 | 8.28 | 27% | 27° | 9.14 |
เลย | 7.48 | 8.28 | 23% | 30° | 9.11 |
ศรีสะเกษ | 7.52 | 8.26 | 15% | 32° | 9.02 |
สกลนคร | 7.51 | 8.29 | 19% | 32° | 9.10 |
สงขลา | 8.07 | 8.12 | 00.3% | 26° | 8.17 |
สมุทรปราการ | 7.48 | 8.21 | 15% | 28° | 8.56 |
สมุทรสงคราม | 7.47 | 8.21 | 15% | 27° | 8.56 |
สมุทรสาคร | 7.47 | 8.21 | 15% | 27° | 8.56 |
สระแก้ว | 7.49 | 8.22 | 14% | 30° | 8.57 |
สระบุรี | 7.48 | 8.23 | 17% | 28° | 9.00 |
สิงห์บุรี | 7.47 | 8.23 | 18% | 28° | 9.01 |
สุโขทัย | 7.46 | 8.26 | 23% | 28° | 9.09 |
สุพรรณบุรี | 7.47 | 8.22 | 18% | 28° | 9.00 |
สุราษฎร์ธานี | 7.53 | 8.14 | 6% | 25° | 8.36 |
สุรินทร์ | 7.51 | 8.25 | 15% | 31° | 9.01 |
หนองคาย | 7.49 | 8.29 | 22% | 31° | 9.12 |
หนองบัวลำภู | 7.49 | 8.28 | 21% | 31° | 9.10 |
อ่างทอง | 7.47 | 8.23 | 18% | 28° | 9.00 |
อำนาจเจริญ | 7.52 | 8.27 | 16% | 33° | 9.05 |
อุดรธานี | 7.49 | 8.29 | 21% | 31° | 9.11 |
อุตรดิตถ์ | 7.46 | 8.27 | 24% | 28° | 9.11 |
อุทัยธานี | 7.46 | 8.24 | 20% | 28° | 9.03 |
อุบลราชธานี | 7.52 | 8.26 | 15% | 33° | 9.02 |
หมายเหตุ
สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่ห้ามดูด้วยตาเปล่า
วัสดุกรองแสงที่ไม่ปลอดภัยและควรหลีกเลี่ยง
สำหรับผู้ที่ไม่มีแผ่นกรองแสงหรือทัศนูปกรณ์อื่น
วิธีทำคือ
เมื่อเกิดสุริยุปราคา
หลังจากปีนี้ประเทศไทยจะมีโอกาสสังเกตสุริยุปราคาบางส่วนอีกครั้งในเย็นวันศุกร์ที่
อันตรายจากแสงอาทิตย์
สุริยุปราคาเป็นปรากฏการณ์ที่เปิดโอกาสให้เราได้ศึกษาและทำความรู้จักกับธรรมชาติของดวงอาทิตย์หากจ้องดูดวงอาทิตย์โดยปราศจากสิ่งป้องกัน