เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เวลา 02:23 น. ตามเวลามาตรฐานจีน จรวดลองมาร์ช 3 บี ของจีนได้ทะยานขึ้นจากศูนย์ปล่อยจรวดซีฉ่าง สัมภาระที่จรวดลำนี้นำขึ้นไปคือยานฉางเอ๋อ 4 ยานลำนี้จะไปปฏิบัติภารกิจที่ท้าทายอย่างมาก จนแม้แต่สหรัฐอเมริกาหรืออดีตสหภาพโซเวียตก็ยังไม่กล้าทำ นั่นคือการนำยานไปลงจอดที่ด้านไกลของดวงจันทร์
แม้ในอดีตจะมียานไปสำรวจดวงจันทร์ถึงพื้นผิวมาแล้วหลายลำแต่ทุกลำล้วนแต่ลงจอดดวงจันทร์ที่ด้านใกล้ (ด้านที่หันเข้าหาโลก) ไม่เคยมีลำใดเลยที่ลงจอดด้านไกลที่ไม่เคยมีคนบนโลกเคยมองเห็น
ด้านไกลของดวงจันทร์มีสภาพภูมิประเทศต่างจากด้านใกล้มากด้านใกล้ที่ทุกคนคุ้นเคยมีบริเวณที่เป็นที่ราบมาก การเลือกทำเลให้ยานลงจอดก็ทำได้ง่าย ส่วนด้านไกลแทบไม่ปรากฏที่ราบเลย พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยภูเขาระเกะระกะ พรุนไปด้วยหลุมอุกกาบาต
"การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของจีนในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมาเป็นการเดินตามรอยสิ่งที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตทำไว้ตั้งแต่สมัย 40-50 ปีก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่จีนจะทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำ" โจนาทาน แมคโดเวลล์ นักดาราศาสตร์จากศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาร์วาร์ด-สมิทโซเนียนกล่าว
ความยากลำบากของภารกิจนี้นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ไม่เอื้อต่อการลงจอดแล้ว ยังมีเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับยาน เนื่องจากตำแหน่งที่ยานจอดมองไม่เห็นจากโลก การสื่อสารโดยตรงกับโลกจึงทำไม่ได้ ในการนี้จีนจึงได้ส่งดาวเทียม เชวี่ยเฉียว ขึ้นไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปีนี้เพื่อทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณระหว่างโลกกับยานลงจอดที่ด้านไกล ตำแหน่งของเชวี่ยเฉียวอยู่ใกล้จุดลากรันจ์ แอล-2 ซึ่งอยู่ห่างจากดวงจันทร์ออกไป 60,000 กิโลเมตร
ตำแหน่งที่ยานจะลงจอดคือแอ่งเอทเกนซึ่งเป็นแอ่งขนาดใหญ่ใกล้ขั้วใต้ของดวงจันทร์ แอ่งนี้มีความกว้างถึง 2,500 กิโลเมตร
ฉางเอ๋อ4 เป็นยานลำที่สองของจีนที่ลงจอดบนดวงจันทร์ ก่อนหน้านี้ในปี 2556 จีนได้ส่งยานฉางเอ๋อ 3 ไปลงจอดบนดวงจันทร์และปล่อยรถสำรวจชื่อ อวี่ทู่ ออกไปด้วย
ภารกิจของยานฉางเอ๋อ4 มียานลงจอดและรถสำรวจเช่นเดียวกับฉางเอ๋อ 3 รูปร่างของยานทั้งสองชุดก็คล้ายกัน แต่ฉางเอ๋อ 4 มีอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ภารกิจที่ยานฉางเอ๋อ 4 จะทำบนดวงจันทร์ เช่น การศึกษาด้านดาราศาสตร์วิทยุความถี่ต่ำ การตรวจสอบแร่และรังสี ศึกษาคลื่นไหวสะเทือน ศึกษารังสีคอสมิก นอกจากนี้ยังมีการทดลองทางชีววิทยาบนยานอีกด้วย ในยานลงจอดจะมีกล่องที่เรียกได้ว่าเป็น "ชีวาลัยจิ๋ว" ที่จะมีการทดลองฟักไข่ของหนอนไหมและปลูกเมล็ดพืชบางชนิดรวมถึงมันฝรั่งเพื่อศึกษาว่าพืชมีการเจริญเติบโตอย่างไรในสภาพความโน้มถ่วงของดวงจันทร์
การส่งยานลงไปสำรวจดวงจันทร์มีอุปสรรคที่ท้าทายเทคโนโลยีอย่างมากเมื่อเป็นเวลากลางคืน ซึ่งยาวนานสองสัปดาห์ อุณหภูมิจะลดลงต่ำถึง -173 องศาเซลเซียส ส่วนเมื่อถึงเวลากลางวัน ซึ่งยาวนานสองสัปดาห์เช่นเดียวกัน อุณหภูมิก็จะพุ่งสูงได้ถึง 127 องศาเซลเซียส ดังนั้นอุปกรณ์บนยานจะต้องทนต่อสภาพความผันแปรอย่างสุดขั้วนี้ให้ได้ และยังจะต้องสร้างพลังงานเพื่อล่อเลี้ยงยานในช่วงที่เป็นกลางคืนอันยาวนานให้ได้อีกด้วย ภารกิจฉางเอ๋อ 3 ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเทคโนโลยีจีนเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้ ยานฉางเอ๋อ 4 ทั้งยานลงจอดและรถมีแผงเซลสุริยะเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงกลางวัน ส่วนเวลากลางคืนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยานจะยังคงอบอุ่นอยู่ได้โดยเครื่องให้ความร้อนด้วยพลูโตเนียม-238 ในยาน
รถสำรวจของฉางเอ๋อ4 ไม่ได้มีชื่อว่าอวี่ทู่ ขณะนี้ทางจีนกำลังจัดประกวดชื่อของรถลำนี้อยู่ คาดว่าชื่อเพราะ ๆ จะได้รับการเปิดเผยในเร็ว ๆ นี้
ในปีหน้าจีนจะส่งยานฉางเอ๋อ-5ขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์อีก ในภารกิจนี้จะมีการเก็บตัวอย่างดินบนดวงจันทร์และนำกลับโลกด้วย ฉางเอ๋อ 4 เป็นบันไดขั้นหนึ่งที่จะพาจีนไปสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งกว่า นั่นคือการส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์
ขณะนี้ฉางเอ๋อ4 กำลังมุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ คาดว่ายานจะไปถึงดวงจันทร์ในวันที่ 3 มกราคม
แม้ในอดีตจะมียานไปสำรวจดวงจันทร์ถึงพื้นผิวมาแล้วหลายลำ
ด้านไกลของดวงจันทร์มีสภาพภูมิประเทศต่างจากด้านใกล้มาก
"การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของจีนในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา
ความยากลำบากของภารกิจนี้
ตำแหน่งที่ยานจะลงจอดคือแอ่งเอทเกน
ฉางเอ๋อ
ภารกิจของยานฉางเอ๋อ
การส่งยานลงไปสำรวจดวงจันทร์มีอุปสรรคที่ท้าทายเทคโนโลยีอย่างมาก
รถสำรวจของฉางเอ๋อ
ในปีหน้าจีนจะส่งยานฉางเอ๋อ-5
ขณะนี้ฉางเอ๋อ