ดาวเคราะห์น้อย 2024 วายอาร์ 4 (2024 YR4) ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 หลังจากการค้นพบไม่นาน ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ก็เป็นที่สนใจกันทั่วโลก เพราะพบว่ามีแนววิถีที่เฉียดโลกมาก และมีโอกาสที่จะชนโลกในปี 2575 แต่การสำรวจในระยะต่อมาพบว่า โอกาสชนโลกลดลงจนถือว่าไม่ชนโลกอย่างแน่นอนในปีนั้น แต่กลับพบว่ามีโอกาสราว 4.1 เปอร์เซ็นต์ที่จะไปชนดวงจันทร์
ดาวเคราะห์น้อย2024 วายอาร์ 4 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์ประมาณ 53-67 เมตร ซึ่งใกล้เคียงกับดวงที่ชนโลกในเหตุการณ์ตุงกุสคาในปี 2451 ถือว่าใหญ่ในระดับน่ากลัว หากดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ชนดวงจันทร์จริง จะทำให้เกิดหลุมอุกกาบาตใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตร ความรุนแรงของการชนจะเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นที 6.5 ตันเลยทีเดียว
งานวิจัยฉบับหนึ่งที่นำโดยพอล ไวเกิร์ต จากมหาวิทยาลัยออนแทริโอ พบว่า แรงระเบิดการชนนี้จะสาดเศษวัสดุหินดินทรายจากพื้นดวงจันทร์ขึ้นสู่อวกาศเป็นปริมาณนับร้อยล้านตัน และมีความเป็นไปได้ที่บางส่วนซึ่งคาดว่ามีประมาณไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ที่จะมีทิศทางมายังโลก ซึ่งจะมาถึงโลกภายในไม่กี่วันหลังการชนเท่านั้น
ชาวโลกอาจไม่ได้รับอันตรายใดๆ นอกจากนี้สะเก็ดดาวปริมาณมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา จะทำให้เกิดพายุฝนดาวตกที่สุดตระการตายิ่งกว่าพายุฝนดาวตกครั้งใดที่เคยพบเห็น
แต่ในข่าวดีก็มีข่าวร้ายด้วยสิ่งที่ได้รับผลกระทบแน่นอนคือ เหล่าดาวเทียม ยานอวกาศ และสถานีอวกาศที่โคจรอยู่ใกล้โลก จะต้องเสี่ยงที่จะถูกสะเก็ดดาวจากดวงจันทร์พุ่งชน และภัยคุกคามนี้จะดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องไปอีกนับทศวรรษเลยทีเดียว
โดยปกติโลกและและสภาพแวดล้อมใกล้โลก ไม่เคยปลอดภัยจากการพุ่งชน มีโอกาสที่จะถูกวัตถุขนาดน้อยใหญ่พุ่งชนเสมอ ตามแบบจำลองของ เอ. มอร์เฮด ที่ทำไว้ในปี 2562 แสดงว่า พื้นที่ขนาดหนึ่งตารางเมตรที่อยู่ในวงโคจรใกล้โลก จะมีโอกาสถูกวัตถุขนาดใหญ่กว่า 100 ไมครอนชน 1 ครั้งต่อปี วัตถุขนาดใหญ่กว่า 1 มิลลิเมตร 10-3 ครั้งต่อปี วัตถุขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร 10-7 ครั้งต่อปี แต่เมื่อดาวเคราะห์น้อย 2024 วายอาร์ 4 ชนดวงจันทร์ โอกาสถูกสะเก็ดดาวพุ่งชนจะพุ่งขึ้นสูงตัวเลขเฉลี่ยนี้นับร้อยนับพันเท่าภายในกี่วัน
พายุสะเก็ดดาวจากดวงจันทร์นี้ทำให้ดาวเทียมทั้งหมดในวงโคจรอยู่ในอันตรายโดยเฉพาะดาวเทียมที่โคจรอยู่ในวงโคจรใกล้โลก ซึ่งเป็นดาวเทียมส่วนใหญ่ ยิ่งกว่านั้น จำนวนดาวเทียมที่ขึ้นสู่วงโคจรใกล้โลกก็เพิ่มขึ้นอย่างมาในช่วงนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจนถึงปี 2575 จำนวนดาวเทียมในวงโคจรจะสู่กว่าที่มีอยู่ในปัจจุบันหลายเท่าตัว ย่อมทำให้โอกาสที่ดาวเทียมถูกชนมากขึ้นตามไปด้วย คณะของ ไวเกิร์ตประเมินว่าอาจมีการชนดาวเทียมเกิดขึ้นหลายพันครั้งจากเหตุการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเนื่องจากสะเก็ดดาวที่พุ่งชนมีขนาดเล็ก การชนจึงไม่รุนแรงถึงขั้นทำให้ดาวเทียมพัง แต่อย่างน้อยก็จะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
นอกจากดาวเทียมใกล้โลกแล้วสิ่งที่จะได้รับผลกระทบมากยิ่งกว่า ก็คือยานหรือสถานีอวกาศที่โคจรอยู่รอบดวงจันทร์ ซึ่งหากโครงการอาร์เทมิสดำเนินไปตามแผนหรือไม่ล่าช้าเกินไปนัก ในปีนั้นก็สถานีอวกาศลูนาร์เกตเวย์โคจรรอบดวงจันทร์แล้ว การที่สถานีที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์มากและมีขนาดใหญ่ จึงย่อมได้รับผลกระทบมากกว่าดาวเทียมที่อยู่ใกล้โลกหลายเท่าตัว
ดาวเคราะห์น้อย
ดาวเคราะห์น้อย 2024 วายอาร์ 4 (2024 YR4) อาจมีโอกาสชนดวงจันทร์ในปี 2575 การชนจะทำให้เกิดเศษหินดินบนดวงจันทร์กระเด็นออกนอกดวงจันทร์ บางส่วนอาจตกลงสู่โลก ทำให้เกิดซูเปอร์พายุฝนดาวตก และอาจทำอันตรายแก่ดาวเทียมที่อยู่บนวงโคจรได้ (จาก NASA SVS)
งานวิจัยฉบับหนึ่งที่นำโดย
ชาวโลกอาจไม่ได้รับอันตรายใด
แต่ในข่าวดีก็มีข่าวร้ายด้วย
ดาวเคราะห์น้อย 2024 วายอาร์ 4 (จุดคงที่กลางภาพ) ถ่ายโดยกล้องวีแอลทีเมื่อเดือนมกราคม 2568 (จาก ESO/O. Hainaut et al.)
โดยปกติ
แผนที่แสดงจุดที่พุ่งชนจากการจำลองสถานการณ์ด้วยคอมพิวเตอร์ จากการสุ่มตัวแปร 10,000 ครั้ง พบว่ามี 410 ครั้งที่ชนดวงจันทร์ (จาก Wiegert et al. 2025/LRO)
พายุสะเก็ดดาวจากดวงจันทร์นี้ทำให้ดาวเทียมทั้งหมดในวงโคจรอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตาม
นอกจากดาวเทียมใกล้โลกแล้ว